ส่ง ปุ๊กกี้ อดีตนักร้องดังและพวกเข้าทัณฑสถาน

กรุงเทพฯ 19 มิ.ย.- ส่ง “ปุ๊กกี้” อดีตนักร้องดัง และพวก เข้าทัณฑสถานฯ  หลังไร้ญาติยื่นประกัน


ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก วันนี้ (19 มิ.ย.) พ.ต.ท.เริงชัย คงสง พนักงานสอบสวน กลุ่มงานสอบสวนและตรวจสอบทรัพย์สิน กองบังคับการปราบปรามยาเสพติด 4 ได้ควบคุมตัว นายหง เจิ้ง อี้ (MR.HUNG CHENG YI) อายุ 28 ปี สัญชาติไต้หวัน นายชลวิทย์ คีตะตระกูล อายุ 49 ปี สามีของปุ๊กกี้ และ น.ส.พริสซิลลา ปริศนา จิวเมลลี่ หรือปุ๊กกี้ อายุ 40 ปี อดีตนักร้องวัยรุ่น ผู้ต้องหาที่ 1-3 คดีครอบครองวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท ประเภท2 (เคตามีน) หรือ ยาเค และครอบครองยาไอซ์-ยาบ้า ซึ่งเป็นยาเสพติดให้โทษประเภท 1 มายื่นคำร้องของฝากขังครั้งแรกเป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 19-30 มิ.ย.นี้ เนื่องจากต้องสอบสวนพยานอีก 10 ปาก และรอผลการตรวจพิสูจน์ยาเสพติดของกลาง, ผลตรวจประวัติต้องโทษของผู้ต้องหาจากกองทะเบียนประวัติอาชญากร, ข้อมูลการใช้โทรศัพท์ของกลางและข้อมูลบัญชีธนาคารของผู้ต้องหา โดยพนักงานสอบสวนได้ขอคัดค้านประกันตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 ไว้จนกว่าคดีจะถึงที่สุดด้วย เนื่องจากคดีมีอัตราโทษสูงและเป็นภัยอันตรายต่อสังคม ประเทศชาติ หากได้ประกันตัวเกรงว่าจะหลบหนี ซึ่งจะยากต่อการติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดี และอาจไปทำอันตรายหรือกระทำเหตุ ที่ให้เกิดความเสียหายแก่พยานหลักฐานในคดีได้ 


โดยคำร้องระบุพฤติการณ์สรุปว่า เมื่อต้นเดือน มิ.ย.2562 เจ้าพนักงาน ป.ป.ส.ได้รับแจ้งจากสายลับว่ามีเครือข่ายลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากประเทศไทยไปยังประเทศไต้หวัน จึงได้สืบสวนเรื่อยมากระทั่งวันที่ 15 มิ.ย.ที่ผ่านมา นายหง ชาวไต้หวัน ผู้ต้องหาที่ 1 ซึ่งเป็นบุคคลในเครือข่ายนั้นได้เดินทางมาพักที่โรงแรมย่านลาดกระบัง จึงได้จัดชุดเฝ้าสังเกตการณ์กระทั่งเวลา 01.40 น.ของวันที่ 17 มิ.ย. 2562 ชุดปฏิบัติการได้พบชายต้องสงสัยสวมเสื้อสีขาว กางเกงขาสั้น สวมหมวกภายหลังทราบชื่อคือ นายชลวิทย์ ผู้ต้องหาที่สอง ซึ่งมีกระเป๋าสีน้ำตาลทรงเหลี่ยมลักษณะมีน้ำหนักมากและกระเป๋าเดินทางสีน้ำเงินติดตัวมาด้วย ได้มาติดต่อเช่าห้องพักโดยใช้ชื่อบุคคลอื่น จากนั้นผู้ต้องหาที่ 2 ได้ออกไปจากโรงแรมกระทั่งเวลา 03.50 น.นายชลวิทย์ ผู้ต้องหาที่ 2 จึงได้เดินทางกลับมาโรงแรมพร้อมกับกระเป๋าสีดำใบใหญ่ ลักษณะมีน้ำหนักมาก จากนั้น 10 นาทีก็ได้เดินทางออกจากโรงแรมไปด้วยรถแท็กซี่คันเดิมที่นั่งมา จนเมื่อเวลา 13.50 น.ผู้ต้องหาที่ 2 ก็กลับมายังโรงแรมอีกครั้งด้วยรถรับจ้างพร้อมถือกล่องกระดาษขนาดใหญ่เข้าห้องพักที่ได้เช่าไว้ ซึ่งระหว่างนั้นเวลา 12.00 น.นายหง ผู้ต้องหาที่ 1 ได้ลงมาชำระค่าห้องพักของตนและค่าห้องพักที่ผู้ต้องหาเช่าไว้ในชื่อบุคคลอื่น กระทั่งเวลา 14.00 น.นายชลวิทย์ผู้ต้องหาที่ 2 ได้ออกจากโรงแรมไปพร้อมกับกระเป๋าสีดำใบใหญ่และกระเป๋าเดินทางสีน้ำเงิน ชุดปฏิบัติการจึงได้สะกดรอยตามทราบว่า ผู้ต้องหาที่ 2 ได้นั่งรถออกจากโรงแรมไปยังบ้านพักในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ในซอยรามอินทรา 15 ถ.รามอินทรา แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กทม.โดยชุดปฏิบัติการยังคงเฝ้าสังเกตการณ์ที่หมู่บ้านดังกล่าวและห้องพักที่โรงแรม ต่อมาเมื่อเวลา 14.30 น.จึงพบนายหง ผู้ต้องหาที่ 1 ออกจากห้องพักของตน เดินเข้าไปยังห้องพักที่นายชลวิทย์ ผู้ต้องหาที่ 2 ได้เช่าไว้แล้วขนกล่างพัสดุ 4 กล่องลงไปที่ล็อบบี้โรงแรม และให้พนักงานติดต่อขนส่งพัสดุระหว่างประเทศจัดส่งไปยังประเทศไต้หวัน เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมของ ป.ป.ส.จึงได้เข้าแสดงตัวของตรวจสอบกล่องพัสดุ ต่อหน้าผู้ต้องหาที่ 1 ซึ่งพบยาเค น้ำหนักรวม 5.17 กิโลกรัม ซึ่งอยู่ในถุงใสซุกซ่อนในที่เขี่ยบุหรี่ทรงกลมสีบรอนซ์สลับดำ ชุดจับกุมจึงได้แจ้งข้อหากับผู้ต้องหาที่ 1 ฐานมีวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท ประเภท 2 หรือยาเค (ยาเค จำนวน 2 กรัมในขวดแชมพูสระผม ) และร่วมกันมียาเค จำนวน 5.17 กิโลกรัม  ไว้ในครอบครองเพื่อขายโดยไม่ได้รับอนุญาต  และเมื่อตรวจค้นตัวของผู้ต้องหาที่ 1 พบมือถือ ไอโฟน 2 เครื่องกับกุญแจห้องพัก 2 ห้อง จึงได้พาไปตรวจค้นห้องพักก็พบยาเคอีก 2 กรัม ที่อยู่ในขวดแชมพูสระผม และลังกระดาษที่ยังไม่ได้ประกอบ กับถุงมือยาง และเทปกาว เมื่อสอบปากคำเบื้องต้น นายหง ผู้ต้องหาที่ 1 ให้การรับว่า รับยาของกลางและซิมโทรศัพท์มาจากนายชลวิทย์ ผู้ต้องหาที่ 2 ซึ่งได้มีการยืนยันภาพถ่ายของผู้ต้องหาที่ 2 ด้วย 


หลังจากนั้น เมื่อเวลา 21.00 น. ชุดปฏิบัติการที่สังเกตการณ์อยู่ที่บ้านพักในหมู่บ้านดังกล่าว ได้เห็นนายชลวิทย์ผู้ต้องหาที่ 2 กำลังโยกย้ายสิ่งของจึงได้เข้าตรวจค้นบ้านพักเพื่อจับกุมโดยอาศัยอำนาจตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามยาเสพติด พ.ศ.2519 มาตรา 14 (1) เนื่องจากมีเหตุอันควรต้องสงสัยว่าผู้ต้องหาที่ 2 เป็นผู้กระทำความผิดคดียาเสพติดหลบหนีและมียาเสพติดอยู่ภายในบ้านประกอบกับมีเหตุอันควรเชื่อว่ากว่าจะเอาหมายค้นได้ บุคคลนั้นจะหลบหนีไป หรืออาจมีการโยกย้าย ซุกซ่อน ทำลายยาเสพติด ซึ่งก่อนการตรวจค้นได้เชิญกรรมการหมู่บ้านและพนักงาน รปภ.ร่วมเป็นพยาน และเมื่อเรียกบุคคลในบ้านหลังดังกล่าวจึงพบ น.ส.ปริศนา หรือปุ๊กกี้ ผู้ต้องหาที่ 3 สวมเสื้อกล้ามสีดำ มีเสื้อคลุมสีดำสวมทับออกมาเปิดประตูรับจากนั้นจึงได้เรียกนายชลวิทย์ ผู้ต้องหาที่ 2 ออกมาพบเจ้าหน้าที่ จากนั้นผู้ต้องหาที่ 2-3 จึงได้นำตรวจค้นบ้านซึ่งผลการตรวจค้นพบยาไอซ์ น้ำหนัก 98.3 กรัม ราคาประมาณ 39,600 บาท ในถุงซิปล็อค, ยาบ้าสีส้มปั๊มอักษร ภาษาอังกฤษ WY ยาบ้าจำนวน 8 เม็ดในถุงซิปล็อค  น้ำหนัก 0.64 กรัม ราคา 1,200 บาท , เอ็กซ์ตาซี่ หรือยาอี คละสี ซึ่งเป็นยาเสพติดให้โทษประเภท 1 อีกจำนวน 10 เม็ดในถุงซิปล็อค น้ำหนัก 1 กรัม ราคา 300 บาท , ยาเค น้ำหนักรวมสิ่งห่อหุ้ม 4 กรัม และวัตถุต้องสงสัยลักษณะคล้ายกัญชา  น้ำหนักรวมสิ่งห่อหุ้มประมาณ 40 กรัมบรรจุในถุงพลาสติกซิปล็อคสีดำและยังตรวจพบพยานหลักฐานประกอบคดีอีก 16 รายการ ( โดยยาเค จำนวนทั้งหมดที่ตรวจพบ 5.176 กิโลกรัม ราคาประมาณ 5,176,000 บาท ) จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาผู้ต้องหาที่ 2-3 รวม 3 ข้อหาฐานร่วมกันมียาไอซ์ ซึ่งเป็นยาเสพติดประเภท 1 ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต,ร่วมกันมียาบ้า, เอ็กซ์ตาซี่ หรือยาอี ซึ่งเป็นยาเสพติดประเภท 1 ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต,ร่วมกันมียาเค ซึ่งเป็นวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทประเภท 2 ไว้ในครอบครองเพื่อขาย โดยไม่ได้รับอนุญาต โดยชุดจับกุมได้นำตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 คนพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน บก.ปส.4 เมื่อวันที่ 18 มิ.ย.เวลา 17.20 น.เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายในชั้นสอบสวนผู้ต้องหาที่ 1-3 ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา 

ศาลพิจารณาและสอบผู้ต้องหาทั้งสามแล้วไม่คัดค้านจึงอนุญาตให้ฝากขัง และภายหลังเสร็จสิ้นกระบวนฝากขังแล้ว ผู้ต้องหาทั้งสาม ไม่ได้ยื่นคำร้องและหลักทรัพย์เพื่อขอปล่อยชั่วคราวในชั้นฝากขังนี้แต่อย่างใด  เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์จึงได้ควบคุมตัวนายหงและนายชลวิทย์ผู้ต้องหาที่ 1-2 ไปคุมยัง ทัณฑสถานบำบัดพิเศษกลาง ส่วน น.ส.ปริศนา หรือปุ๊กกี้ อดีตนักร้องดัง ผู้ต้องหาที่ 3 ถูกนำตัวไปคุมขังยังทัณสถานหญิงกลางต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทย เจ้าตัวคุม “โยธาฯ-ปค.”

กระทรวงมหาดไทย 14 ก.ค. –“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทยแล้ว เจ้าตัวคุม “โยธาฯ – ปค.” ฟาก “เดชอิศม์” คุม “ที่ดิน – สถ.” สางปัญหาที่ดิน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย รักษาราชการนายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้แบ่งงานกับทั้ง 2 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งการทำงานของทั้ง 3 คนเราทำงานเป็นทีมเดียวกัน ส่วนหลักเกณฑ์การแบ่งก็กระจายให้ทั่วถึงเพื่อช่วยกันดูแล โดยตนกำกับดูแลกรมโยธาธิการและผังเมือง กรมการปกครอง สำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย การประสานงานส่วนราชการในสังกัด กระทรวงมหาดไทยตาม พ.ร.บ.การบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2553 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปาส่วนภูมิภาค และดูหน่วยงานส่วนที่เหลือทั้งหมด โดยทั้งหมดสงวนไว้ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณ และบุคคลซึ่งตนเป็นผู้ดูแล นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ได้มอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย กำกับดูแล กรมการพัฒนาชุมชน เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับสตรีและการดำเนินการเรื่องผ้าไทย รวมถึงกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมณศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]

ส่งตัวดำเนินคดี นักท่องเที่ยวไทยทำร้ายทหารกัมพูชา

สุรินทร์ 13 ก.ค.-ทบ. เผยนักท่องเที่ยวไทยต่อยทหารกัมพูชา ที่ปราสาทตาเมือนธม เป็นอดีตทหารพราน ส่งตัวให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 13 ก.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบกกล่าวถึงกรณีที่งนักท่องเที่ยวชาวไทย ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ว่า กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี ว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.20 น. ได้เกิดเหตุการณ์นักท่องเที่ยวชาวไทยทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ณ บริเวณปราสาทตาเมือนธม โดยผู้ก่อเหตุได้ชกเจ้าหน้าที่กัมพูชา ทั้งทางด้านหลังและด้านหน้า ก่อนจะหลบหนีออกจากพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยสามารถติดตามและควบคุมตัวได้ในเวลาต่อมา จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายสมหมาย ศรีศุกรานันทน์ อดีตอาสาสมัครทหารพราน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานชมรมทหารพรานจิตอาสาค่ายปักธงชัย และประธานเครือข่ายทหารผ่านศึกจังหวัดสมุทรสาคร ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณพื้นที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทางเจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายไทย ได้ทำความเข้าใจกับผู้เสียหายไปแล้วในเบื้องต้น เพื่อพยายามไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ในระดับเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย สำหรับผู้ก่อเหตุ ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

เจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก-เจ้าคุณประสิทธิ์ สึกแล้ว

พิษณุโลก 16 ก.ค. – พระชั้นผู้ใหญ่ที่พัวพันสีกากอล์ฟยังทยอยสึกเพิ่ม ล่าสุด “เจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก” แอบสึกแล้วที่วัดสว่างอารมณ์ จ.ตาก หลังมีข่าวลือสะพัดมาตั้งแต่เช้า ขณะที่ “เจ้าคุณประสิทธิ์” ถอดใจสึกแล้ว พระราชรัตนสุธี เจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก เป็นพระชั้นผู้ใหญ่อีก 1 รูป ที่มีชื่อพัวพันกับสีกากอล์ฟ ซึ่งในช่วงเช้ามีข่าวลือว่าจะลาสิกาในวันนี้ ผู้สื่อข่าวไปตรวจสอบตามวัดต่างๆ ในจังหวัดพิษณุโลก โดยเฉพาะที่วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ วรมหาวิหาร มีตำรวจนอกเครื่องแบบ และเจ้าหน้าที่ มาคอยเฝ้าดูแลตลอดเวลา กระทั่ง เวลา 12.00 น. เจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก ปรากฏตัวในชุดขาว คาดว่าไปลาสิกขาที่วัดสว่างอารมณ์ อำเภอบ้านตาก จังหวัดตาก สำหรับพระราชรัตนสุธี มีตำแหน่งเป็นเจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก ผู้อำนวยการวิทยาลัยสงฆ์พุทธชินราช เป็นพระเถระชั้นผู้ใหญ่ของจังหวัดพิษณุโลกที่ได้รับความเคารพอย่างสูงรูปหนึ่ง เพราะมีบทบาทสำคัญและมีคุณูปการขับเคลื่อนงานคณะสงฆ์ให้รุ่งเรือง นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผู้อำนวยการสำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ออกมายืนยันเช่นกันว่า ขณะนี้อดีตเจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลกได้ทำการลาสิกขาแล้ว และวันนี้เจ้าอาวาสวัดใหญ่จอมปราสาท ก็มารายงานตัวกับเจ้าคณะใหญ่หนกลางด้วยเช่นเดียวกัน กรณีเอกสารสำนักพุทธจังหวัดสมุทรสาครหายออกไปจากวัด ซึ่งขณะนี้ได้มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง เพราะขณะนี้ยังไม่ชัดเจนว่าเอกสารยังมีอยู่หรือไม่ และถ้าหากเอกสารหายไปจริงก็ถือว่าเป็นการผิดวินัย และเจ้าอาวาสบกพร่อง ต้องไปดูด้วยว่าสาเหตุที่หายเพราะอะไร เพราะเอกสารทางราชการมีการรับส่งเป็นระบบ […]

เปิดคำสารภาพ “สีกากอล์ฟ”

กทม. 16 ก.ค.-เปิดคำสารภาพ “สีกากอล์ฟ” ด้านอดีตพระมหาบุญเลิศ แฉถูกสีกากอล์ฟ กุเรื่องลวงไปบ้านพัก ซ้ำถูกเชิดเงิน 1 แสน เตรียมเข้าแจ้งความเอาผิดเพิ่ม พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผู้บังคับการป้องกันปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ผบก.ปปป.) กล่าวถึงความคืบหน้าคดีน.ส.วิลาวัลย์ หรือ สีกากอล์ฟ อายุ 35 ปี ว่า จากการสอบปากคำเมื่อวานที่ผ่านมา เจ้าตัวให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดีเป็นอย่างมาก พร้อมให้ความร่วมมือกับทางเจ้าหน้าที่เป็นอย่างดี ซึ่งในวันพรุ่งนี้ทางพนักงานสอบสวน บก.ปปป. จะนำตัวส่งฝากขังยังศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง เพื่อฝากขังเป็นผัดแรก ด้านพ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รองผู้บังคับการปราบปราม (รอง ผบก.ป.) กล่าวถึงความคืบหน้าการสอบปากคำ น.ส.วิลาวัลย์ ในส่วนของคดีข่มขืนใจและรีดเอาเงินทิดแหล่ อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรฯ ว่า เบื้องต้น สีกากอล์ฟ ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่เป็นอย่างดี รวมถึงให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี ซึ่งจากการสอบปากคำเบื้องต้นเจ้าตัวยังคงให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยยอมรับในข้อเท็จจริงว่าเคยมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับพระผู้ใหญ่รูปต่างๆ จริง ส่วนกรณีที่ถูกกล่าวหาว่าข่มขู่รีดเอาเงิน และบังคับทิดแหล่ ให้ร่างหนังสือร้องเรียนเจ้าคุณอาชว์ อดีตเจ้าอาวาสวัดตรีฯ เรื่องการมีเพศสัมพันธ์กับหญิงสาว เจ้าตัวอ้างว่าไม่เป็นความจริง แต่ยอมรับว่าเป็นคนให้ทิดแหล่ร่างหนังสือดังกล่าวจริง เพียงแต่เป็นการไหว้วาน ไม่ได้เป็นการบังคับ […]

มทภ.2 เรียกร้องผู้นำเขมรขอโทษทหารไทยที่ถูกผลักอกล้ม

สุรินทร์ 16 ก.ค.-มทภ.2 สั่ง กกล.สุรนารี จัดระเบียบนักท่องเที่ยวปราสาทตาเมือนธม หารือ พล.ต.เนี๊ยะ ได้ข้อยุติ 3 ประการ เรียกร้องผู้นำกัมพูชาตำหนิหญิงเขมร และขอโทษทหารไทยที่ถูกผลักอกล้ม ลั่นไทยดำเนินคดีอดีตทหารพรานตามกฎหมายแล้ว ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังเกิดเหตุความวุ่นวาย ที่ปราสาทตาเมือนธม จ.สุรินทร์ จากกรณีที่ผู้หญิงชาวกัมพูชา เข้ามาด่าทอทหารไทย ในเขตพื้นที่ของไทยวานนี้(15 ก.ค.) ล่าสุด พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้สั่งการให้มีการจัดระเบียบนักท่องเที่ยวที่ขึ้นมาเที่ยวปราสาทตาเหมือนธม เพื่อป้องกันเหตุการณ์ซ้ำรอย ป้องกันกลุ่มคนไม่หวังดี โดยเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา พ.อ.บุญเสริม บุญบำรุง รอง ผบ.กกล.สุรนารี ได้หารือร่วม พล.ต.เนี๊ยะ วงค์ ผบ.พลน้อย ร.42 เพื่อพบปะหารือ ณ ปราสาทตาเมือนธม โดยมีสรุปผลการพบปะดังนี้ 1.หากมีปัญหาจากนักท่องเที่ยวเกิดขึ้น หากเป็นนักท่องเที่ยวไทย ขอให้ฝ่ายกัมพูชาแจ้งกับฝ่ายไทยเพื่อนำนักท่องเที่ยวออกจากพื้นที่ เช่นเดียวกันหากนักท่องเที่ยวกัมพูชา ก่อปัญหา ขอให้ฝ่ายไทยแจ้ง ฝ่าย กัมพูชาเพื่อให้ฝ่ายกัมพูชา นำตัวนักท่องเที่ยวออกจากพื้นที่ 2.หากมีปัญหาในพื้นที่ การแก้ปัญหาให้ชุดประสานงานในพื้นที่ […]

“แพทองธาร” ยินดีมวยไทยบรรจุในกีฬาทหารโลก 2027

กระทรวงวัฒนธรรม 16 ก.ค.- “แพทองธาร” ยินดีความสำเร็จมวยไทยบรรจุในกีฬาทหารโลก 2027 อย่างเป็นทางการ ชี้ เป็นผลลัพธ์การทำงานอย่างมุ่งมั่นของคกก.ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมซอฟต์พาวเวอร์ด้านกีฬา-กองทัพไทย-สมาคมส่งเสริมกีฬาทหาร (ประเทศไทย) ผลักดันสู่เวทีกีฬาสากล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุว่ายกระดับมวยไทยสู่เวทีโลกอีกขั้น ดิฉันขอแสดงความยินดีอย่างยิ่ง กับความสำเร็จล่าสุดของประเทศไทย — #มวยไทย ได้รับการบรรจุเป็นหนึ่งในชนิดกีฬาของการแข่งขัน CISM World Summer Games 2027 (กีฬาทหารโลก 2027) อย่างเป็นทางการแล้วค่ะ การแข่งขันกีฬาทหารโลก จัดโดย สภากีฬาทหารระหว่างประเทศ เป็นมหกรรมกีฬาระดับนานาชาติ ปัจจุบันมีประเทศในสมาชิก 141 ถือเป็นเวทีสำคัญที่ทั่วโลกให้การยอมรับ ประเทศไทยเพิ่งเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน 1st CISM Military Muaythai Challenge เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ถือเป็นก้าวแรกของการเปิดเวทีระหว่างประเทศให้มวยไทยเข้าสู่การแข่งขันของกองทัพนานาชาติ การบรรจุมวยไทยในกีฬาทหารโลกครั้งนี้ ถือเป็นความสำเร็จสำคัญของประเทศไทย และเป็นผลลัพธ์จากการทำงานอย่างมุ่งมั่นของคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรม Soft Power ด้านกีฬา ร่วมกับกองทัพไทย และสมาคมส่งเสริมกีฬาทหาร (ประเทศไทย) ที่ผลักดันให้ “มวยไทย” […]