ส่ง ปุ๊กกี้ อดีตนักร้องดังและพวกเข้าทัณฑสถาน

กรุงเทพฯ 19 มิ.ย.- ส่ง “ปุ๊กกี้” อดีตนักร้องดัง และพวก เข้าทัณฑสถานฯ  หลังไร้ญาติยื่นประกัน


ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก วันนี้ (19 มิ.ย.) พ.ต.ท.เริงชัย คงสง พนักงานสอบสวน กลุ่มงานสอบสวนและตรวจสอบทรัพย์สิน กองบังคับการปราบปรามยาเสพติด 4 ได้ควบคุมตัว นายหง เจิ้ง อี้ (MR.HUNG CHENG YI) อายุ 28 ปี สัญชาติไต้หวัน นายชลวิทย์ คีตะตระกูล อายุ 49 ปี สามีของปุ๊กกี้ และ น.ส.พริสซิลลา ปริศนา จิวเมลลี่ หรือปุ๊กกี้ อายุ 40 ปี อดีตนักร้องวัยรุ่น ผู้ต้องหาที่ 1-3 คดีครอบครองวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท ประเภท2 (เคตามีน) หรือ ยาเค และครอบครองยาไอซ์-ยาบ้า ซึ่งเป็นยาเสพติดให้โทษประเภท 1 มายื่นคำร้องของฝากขังครั้งแรกเป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 19-30 มิ.ย.นี้ เนื่องจากต้องสอบสวนพยานอีก 10 ปาก และรอผลการตรวจพิสูจน์ยาเสพติดของกลาง, ผลตรวจประวัติต้องโทษของผู้ต้องหาจากกองทะเบียนประวัติอาชญากร, ข้อมูลการใช้โทรศัพท์ของกลางและข้อมูลบัญชีธนาคารของผู้ต้องหา โดยพนักงานสอบสวนได้ขอคัดค้านประกันตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 ไว้จนกว่าคดีจะถึงที่สุดด้วย เนื่องจากคดีมีอัตราโทษสูงและเป็นภัยอันตรายต่อสังคม ประเทศชาติ หากได้ประกันตัวเกรงว่าจะหลบหนี ซึ่งจะยากต่อการติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดี และอาจไปทำอันตรายหรือกระทำเหตุ ที่ให้เกิดความเสียหายแก่พยานหลักฐานในคดีได้ 


โดยคำร้องระบุพฤติการณ์สรุปว่า เมื่อต้นเดือน มิ.ย.2562 เจ้าพนักงาน ป.ป.ส.ได้รับแจ้งจากสายลับว่ามีเครือข่ายลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากประเทศไทยไปยังประเทศไต้หวัน จึงได้สืบสวนเรื่อยมากระทั่งวันที่ 15 มิ.ย.ที่ผ่านมา นายหง ชาวไต้หวัน ผู้ต้องหาที่ 1 ซึ่งเป็นบุคคลในเครือข่ายนั้นได้เดินทางมาพักที่โรงแรมย่านลาดกระบัง จึงได้จัดชุดเฝ้าสังเกตการณ์กระทั่งเวลา 01.40 น.ของวันที่ 17 มิ.ย. 2562 ชุดปฏิบัติการได้พบชายต้องสงสัยสวมเสื้อสีขาว กางเกงขาสั้น สวมหมวกภายหลังทราบชื่อคือ นายชลวิทย์ ผู้ต้องหาที่สอง ซึ่งมีกระเป๋าสีน้ำตาลทรงเหลี่ยมลักษณะมีน้ำหนักมากและกระเป๋าเดินทางสีน้ำเงินติดตัวมาด้วย ได้มาติดต่อเช่าห้องพักโดยใช้ชื่อบุคคลอื่น จากนั้นผู้ต้องหาที่ 2 ได้ออกไปจากโรงแรมกระทั่งเวลา 03.50 น.นายชลวิทย์ ผู้ต้องหาที่ 2 จึงได้เดินทางกลับมาโรงแรมพร้อมกับกระเป๋าสีดำใบใหญ่ ลักษณะมีน้ำหนักมาก จากนั้น 10 นาทีก็ได้เดินทางออกจากโรงแรมไปด้วยรถแท็กซี่คันเดิมที่นั่งมา จนเมื่อเวลา 13.50 น.ผู้ต้องหาที่ 2 ก็กลับมายังโรงแรมอีกครั้งด้วยรถรับจ้างพร้อมถือกล่องกระดาษขนาดใหญ่เข้าห้องพักที่ได้เช่าไว้ ซึ่งระหว่างนั้นเวลา 12.00 น.นายหง ผู้ต้องหาที่ 1 ได้ลงมาชำระค่าห้องพักของตนและค่าห้องพักที่ผู้ต้องหาเช่าไว้ในชื่อบุคคลอื่น กระทั่งเวลา 14.00 น.นายชลวิทย์ผู้ต้องหาที่ 2 ได้ออกจากโรงแรมไปพร้อมกับกระเป๋าสีดำใบใหญ่และกระเป๋าเดินทางสีน้ำเงิน ชุดปฏิบัติการจึงได้สะกดรอยตามทราบว่า ผู้ต้องหาที่ 2 ได้นั่งรถออกจากโรงแรมไปยังบ้านพักในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ในซอยรามอินทรา 15 ถ.รามอินทรา แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กทม.โดยชุดปฏิบัติการยังคงเฝ้าสังเกตการณ์ที่หมู่บ้านดังกล่าวและห้องพักที่โรงแรม ต่อมาเมื่อเวลา 14.30 น.จึงพบนายหง ผู้ต้องหาที่ 1 ออกจากห้องพักของตน เดินเข้าไปยังห้องพักที่นายชลวิทย์ ผู้ต้องหาที่ 2 ได้เช่าไว้แล้วขนกล่างพัสดุ 4 กล่องลงไปที่ล็อบบี้โรงแรม และให้พนักงานติดต่อขนส่งพัสดุระหว่างประเทศจัดส่งไปยังประเทศไต้หวัน เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมของ ป.ป.ส.จึงได้เข้าแสดงตัวของตรวจสอบกล่องพัสดุ ต่อหน้าผู้ต้องหาที่ 1 ซึ่งพบยาเค น้ำหนักรวม 5.17 กิโลกรัม ซึ่งอยู่ในถุงใสซุกซ่อนในที่เขี่ยบุหรี่ทรงกลมสีบรอนซ์สลับดำ ชุดจับกุมจึงได้แจ้งข้อหากับผู้ต้องหาที่ 1 ฐานมีวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท ประเภท 2 หรือยาเค (ยาเค จำนวน 2 กรัมในขวดแชมพูสระผม ) และร่วมกันมียาเค จำนวน 5.17 กิโลกรัม  ไว้ในครอบครองเพื่อขายโดยไม่ได้รับอนุญาต  และเมื่อตรวจค้นตัวของผู้ต้องหาที่ 1 พบมือถือ ไอโฟน 2 เครื่องกับกุญแจห้องพัก 2 ห้อง จึงได้พาไปตรวจค้นห้องพักก็พบยาเคอีก 2 กรัม ที่อยู่ในขวดแชมพูสระผม และลังกระดาษที่ยังไม่ได้ประกอบ กับถุงมือยาง และเทปกาว เมื่อสอบปากคำเบื้องต้น นายหง ผู้ต้องหาที่ 1 ให้การรับว่า รับยาของกลางและซิมโทรศัพท์มาจากนายชลวิทย์ ผู้ต้องหาที่ 2 ซึ่งได้มีการยืนยันภาพถ่ายของผู้ต้องหาที่ 2 ด้วย 


หลังจากนั้น เมื่อเวลา 21.00 น. ชุดปฏิบัติการที่สังเกตการณ์อยู่ที่บ้านพักในหมู่บ้านดังกล่าว ได้เห็นนายชลวิทย์ผู้ต้องหาที่ 2 กำลังโยกย้ายสิ่งของจึงได้เข้าตรวจค้นบ้านพักเพื่อจับกุมโดยอาศัยอำนาจตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามยาเสพติด พ.ศ.2519 มาตรา 14 (1) เนื่องจากมีเหตุอันควรต้องสงสัยว่าผู้ต้องหาที่ 2 เป็นผู้กระทำความผิดคดียาเสพติดหลบหนีและมียาเสพติดอยู่ภายในบ้านประกอบกับมีเหตุอันควรเชื่อว่ากว่าจะเอาหมายค้นได้ บุคคลนั้นจะหลบหนีไป หรืออาจมีการโยกย้าย ซุกซ่อน ทำลายยาเสพติด ซึ่งก่อนการตรวจค้นได้เชิญกรรมการหมู่บ้านและพนักงาน รปภ.ร่วมเป็นพยาน และเมื่อเรียกบุคคลในบ้านหลังดังกล่าวจึงพบ น.ส.ปริศนา หรือปุ๊กกี้ ผู้ต้องหาที่ 3 สวมเสื้อกล้ามสีดำ มีเสื้อคลุมสีดำสวมทับออกมาเปิดประตูรับจากนั้นจึงได้เรียกนายชลวิทย์ ผู้ต้องหาที่ 2 ออกมาพบเจ้าหน้าที่ จากนั้นผู้ต้องหาที่ 2-3 จึงได้นำตรวจค้นบ้านซึ่งผลการตรวจค้นพบยาไอซ์ น้ำหนัก 98.3 กรัม ราคาประมาณ 39,600 บาท ในถุงซิปล็อค, ยาบ้าสีส้มปั๊มอักษร ภาษาอังกฤษ WY ยาบ้าจำนวน 8 เม็ดในถุงซิปล็อค  น้ำหนัก 0.64 กรัม ราคา 1,200 บาท , เอ็กซ์ตาซี่ หรือยาอี คละสี ซึ่งเป็นยาเสพติดให้โทษประเภท 1 อีกจำนวน 10 เม็ดในถุงซิปล็อค น้ำหนัก 1 กรัม ราคา 300 บาท , ยาเค น้ำหนักรวมสิ่งห่อหุ้ม 4 กรัม และวัตถุต้องสงสัยลักษณะคล้ายกัญชา  น้ำหนักรวมสิ่งห่อหุ้มประมาณ 40 กรัมบรรจุในถุงพลาสติกซิปล็อคสีดำและยังตรวจพบพยานหลักฐานประกอบคดีอีก 16 รายการ ( โดยยาเค จำนวนทั้งหมดที่ตรวจพบ 5.176 กิโลกรัม ราคาประมาณ 5,176,000 บาท ) จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาผู้ต้องหาที่ 2-3 รวม 3 ข้อหาฐานร่วมกันมียาไอซ์ ซึ่งเป็นยาเสพติดประเภท 1 ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต,ร่วมกันมียาบ้า, เอ็กซ์ตาซี่ หรือยาอี ซึ่งเป็นยาเสพติดประเภท 1 ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต,ร่วมกันมียาเค ซึ่งเป็นวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทประเภท 2 ไว้ในครอบครองเพื่อขาย โดยไม่ได้รับอนุญาต โดยชุดจับกุมได้นำตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 คนพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน บก.ปส.4 เมื่อวันที่ 18 มิ.ย.เวลา 17.20 น.เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายในชั้นสอบสวนผู้ต้องหาที่ 1-3 ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา 

ศาลพิจารณาและสอบผู้ต้องหาทั้งสามแล้วไม่คัดค้านจึงอนุญาตให้ฝากขัง และภายหลังเสร็จสิ้นกระบวนฝากขังแล้ว ผู้ต้องหาทั้งสาม ไม่ได้ยื่นคำร้องและหลักทรัพย์เพื่อขอปล่อยชั่วคราวในชั้นฝากขังนี้แต่อย่างใด  เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์จึงได้ควบคุมตัวนายหงและนายชลวิทย์ผู้ต้องหาที่ 1-2 ไปคุมยัง ทัณฑสถานบำบัดพิเศษกลาง ส่วน น.ส.ปริศนา หรือปุ๊กกี้ อดีตนักร้องดัง ผู้ต้องหาที่ 3 ถูกนำตัวไปคุมขังยังทัณสถานหญิงกลางต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก