ส่ง ปุ๊กกี้ อดีตนักร้องดังและพวกเข้าทัณฑสถาน

กรุงเทพฯ 19 มิ.ย.- ส่ง “ปุ๊กกี้” อดีตนักร้องดัง และพวก เข้าทัณฑสถานฯ  หลังไร้ญาติยื่นประกัน


ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก วันนี้ (19 มิ.ย.) พ.ต.ท.เริงชัย คงสง พนักงานสอบสวน กลุ่มงานสอบสวนและตรวจสอบทรัพย์สิน กองบังคับการปราบปรามยาเสพติด 4 ได้ควบคุมตัว นายหง เจิ้ง อี้ (MR.HUNG CHENG YI) อายุ 28 ปี สัญชาติไต้หวัน นายชลวิทย์ คีตะตระกูล อายุ 49 ปี สามีของปุ๊กกี้ และ น.ส.พริสซิลลา ปริศนา จิวเมลลี่ หรือปุ๊กกี้ อายุ 40 ปี อดีตนักร้องวัยรุ่น ผู้ต้องหาที่ 1-3 คดีครอบครองวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท ประเภท2 (เคตามีน) หรือ ยาเค และครอบครองยาไอซ์-ยาบ้า ซึ่งเป็นยาเสพติดให้โทษประเภท 1 มายื่นคำร้องของฝากขังครั้งแรกเป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 19-30 มิ.ย.นี้ เนื่องจากต้องสอบสวนพยานอีก 10 ปาก และรอผลการตรวจพิสูจน์ยาเสพติดของกลาง, ผลตรวจประวัติต้องโทษของผู้ต้องหาจากกองทะเบียนประวัติอาชญากร, ข้อมูลการใช้โทรศัพท์ของกลางและข้อมูลบัญชีธนาคารของผู้ต้องหา โดยพนักงานสอบสวนได้ขอคัดค้านประกันตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 ไว้จนกว่าคดีจะถึงที่สุดด้วย เนื่องจากคดีมีอัตราโทษสูงและเป็นภัยอันตรายต่อสังคม ประเทศชาติ หากได้ประกันตัวเกรงว่าจะหลบหนี ซึ่งจะยากต่อการติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดี และอาจไปทำอันตรายหรือกระทำเหตุ ที่ให้เกิดความเสียหายแก่พยานหลักฐานในคดีได้ 


โดยคำร้องระบุพฤติการณ์สรุปว่า เมื่อต้นเดือน มิ.ย.2562 เจ้าพนักงาน ป.ป.ส.ได้รับแจ้งจากสายลับว่ามีเครือข่ายลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากประเทศไทยไปยังประเทศไต้หวัน จึงได้สืบสวนเรื่อยมากระทั่งวันที่ 15 มิ.ย.ที่ผ่านมา นายหง ชาวไต้หวัน ผู้ต้องหาที่ 1 ซึ่งเป็นบุคคลในเครือข่ายนั้นได้เดินทางมาพักที่โรงแรมย่านลาดกระบัง จึงได้จัดชุดเฝ้าสังเกตการณ์กระทั่งเวลา 01.40 น.ของวันที่ 17 มิ.ย. 2562 ชุดปฏิบัติการได้พบชายต้องสงสัยสวมเสื้อสีขาว กางเกงขาสั้น สวมหมวกภายหลังทราบชื่อคือ นายชลวิทย์ ผู้ต้องหาที่สอง ซึ่งมีกระเป๋าสีน้ำตาลทรงเหลี่ยมลักษณะมีน้ำหนักมากและกระเป๋าเดินทางสีน้ำเงินติดตัวมาด้วย ได้มาติดต่อเช่าห้องพักโดยใช้ชื่อบุคคลอื่น จากนั้นผู้ต้องหาที่ 2 ได้ออกไปจากโรงแรมกระทั่งเวลา 03.50 น.นายชลวิทย์ ผู้ต้องหาที่ 2 จึงได้เดินทางกลับมาโรงแรมพร้อมกับกระเป๋าสีดำใบใหญ่ ลักษณะมีน้ำหนักมาก จากนั้น 10 นาทีก็ได้เดินทางออกจากโรงแรมไปด้วยรถแท็กซี่คันเดิมที่นั่งมา จนเมื่อเวลา 13.50 น.ผู้ต้องหาที่ 2 ก็กลับมายังโรงแรมอีกครั้งด้วยรถรับจ้างพร้อมถือกล่องกระดาษขนาดใหญ่เข้าห้องพักที่ได้เช่าไว้ ซึ่งระหว่างนั้นเวลา 12.00 น.นายหง ผู้ต้องหาที่ 1 ได้ลงมาชำระค่าห้องพักของตนและค่าห้องพักที่ผู้ต้องหาเช่าไว้ในชื่อบุคคลอื่น กระทั่งเวลา 14.00 น.นายชลวิทย์ผู้ต้องหาที่ 2 ได้ออกจากโรงแรมไปพร้อมกับกระเป๋าสีดำใบใหญ่และกระเป๋าเดินทางสีน้ำเงิน ชุดปฏิบัติการจึงได้สะกดรอยตามทราบว่า ผู้ต้องหาที่ 2 ได้นั่งรถออกจากโรงแรมไปยังบ้านพักในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ในซอยรามอินทรา 15 ถ.รามอินทรา แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กทม.โดยชุดปฏิบัติการยังคงเฝ้าสังเกตการณ์ที่หมู่บ้านดังกล่าวและห้องพักที่โรงแรม ต่อมาเมื่อเวลา 14.30 น.จึงพบนายหง ผู้ต้องหาที่ 1 ออกจากห้องพักของตน เดินเข้าไปยังห้องพักที่นายชลวิทย์ ผู้ต้องหาที่ 2 ได้เช่าไว้แล้วขนกล่างพัสดุ 4 กล่องลงไปที่ล็อบบี้โรงแรม และให้พนักงานติดต่อขนส่งพัสดุระหว่างประเทศจัดส่งไปยังประเทศไต้หวัน เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมของ ป.ป.ส.จึงได้เข้าแสดงตัวของตรวจสอบกล่องพัสดุ ต่อหน้าผู้ต้องหาที่ 1 ซึ่งพบยาเค น้ำหนักรวม 5.17 กิโลกรัม ซึ่งอยู่ในถุงใสซุกซ่อนในที่เขี่ยบุหรี่ทรงกลมสีบรอนซ์สลับดำ ชุดจับกุมจึงได้แจ้งข้อหากับผู้ต้องหาที่ 1 ฐานมีวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท ประเภท 2 หรือยาเค (ยาเค จำนวน 2 กรัมในขวดแชมพูสระผม ) และร่วมกันมียาเค จำนวน 5.17 กิโลกรัม  ไว้ในครอบครองเพื่อขายโดยไม่ได้รับอนุญาต  และเมื่อตรวจค้นตัวของผู้ต้องหาที่ 1 พบมือถือ ไอโฟน 2 เครื่องกับกุญแจห้องพัก 2 ห้อง จึงได้พาไปตรวจค้นห้องพักก็พบยาเคอีก 2 กรัม ที่อยู่ในขวดแชมพูสระผม และลังกระดาษที่ยังไม่ได้ประกอบ กับถุงมือยาง และเทปกาว เมื่อสอบปากคำเบื้องต้น นายหง ผู้ต้องหาที่ 1 ให้การรับว่า รับยาของกลางและซิมโทรศัพท์มาจากนายชลวิทย์ ผู้ต้องหาที่ 2 ซึ่งได้มีการยืนยันภาพถ่ายของผู้ต้องหาที่ 2 ด้วย 


หลังจากนั้น เมื่อเวลา 21.00 น. ชุดปฏิบัติการที่สังเกตการณ์อยู่ที่บ้านพักในหมู่บ้านดังกล่าว ได้เห็นนายชลวิทย์ผู้ต้องหาที่ 2 กำลังโยกย้ายสิ่งของจึงได้เข้าตรวจค้นบ้านพักเพื่อจับกุมโดยอาศัยอำนาจตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามยาเสพติด พ.ศ.2519 มาตรา 14 (1) เนื่องจากมีเหตุอันควรต้องสงสัยว่าผู้ต้องหาที่ 2 เป็นผู้กระทำความผิดคดียาเสพติดหลบหนีและมียาเสพติดอยู่ภายในบ้านประกอบกับมีเหตุอันควรเชื่อว่ากว่าจะเอาหมายค้นได้ บุคคลนั้นจะหลบหนีไป หรืออาจมีการโยกย้าย ซุกซ่อน ทำลายยาเสพติด ซึ่งก่อนการตรวจค้นได้เชิญกรรมการหมู่บ้านและพนักงาน รปภ.ร่วมเป็นพยาน และเมื่อเรียกบุคคลในบ้านหลังดังกล่าวจึงพบ น.ส.ปริศนา หรือปุ๊กกี้ ผู้ต้องหาที่ 3 สวมเสื้อกล้ามสีดำ มีเสื้อคลุมสีดำสวมทับออกมาเปิดประตูรับจากนั้นจึงได้เรียกนายชลวิทย์ ผู้ต้องหาที่ 2 ออกมาพบเจ้าหน้าที่ จากนั้นผู้ต้องหาที่ 2-3 จึงได้นำตรวจค้นบ้านซึ่งผลการตรวจค้นพบยาไอซ์ น้ำหนัก 98.3 กรัม ราคาประมาณ 39,600 บาท ในถุงซิปล็อค, ยาบ้าสีส้มปั๊มอักษร ภาษาอังกฤษ WY ยาบ้าจำนวน 8 เม็ดในถุงซิปล็อค  น้ำหนัก 0.64 กรัม ราคา 1,200 บาท , เอ็กซ์ตาซี่ หรือยาอี คละสี ซึ่งเป็นยาเสพติดให้โทษประเภท 1 อีกจำนวน 10 เม็ดในถุงซิปล็อค น้ำหนัก 1 กรัม ราคา 300 บาท , ยาเค น้ำหนักรวมสิ่งห่อหุ้ม 4 กรัม และวัตถุต้องสงสัยลักษณะคล้ายกัญชา  น้ำหนักรวมสิ่งห่อหุ้มประมาณ 40 กรัมบรรจุในถุงพลาสติกซิปล็อคสีดำและยังตรวจพบพยานหลักฐานประกอบคดีอีก 16 รายการ ( โดยยาเค จำนวนทั้งหมดที่ตรวจพบ 5.176 กิโลกรัม ราคาประมาณ 5,176,000 บาท ) จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาผู้ต้องหาที่ 2-3 รวม 3 ข้อหาฐานร่วมกันมียาไอซ์ ซึ่งเป็นยาเสพติดประเภท 1 ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต,ร่วมกันมียาบ้า, เอ็กซ์ตาซี่ หรือยาอี ซึ่งเป็นยาเสพติดประเภท 1 ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต,ร่วมกันมียาเค ซึ่งเป็นวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทประเภท 2 ไว้ในครอบครองเพื่อขาย โดยไม่ได้รับอนุญาต โดยชุดจับกุมได้นำตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 คนพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน บก.ปส.4 เมื่อวันที่ 18 มิ.ย.เวลา 17.20 น.เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายในชั้นสอบสวนผู้ต้องหาที่ 1-3 ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา 

ศาลพิจารณาและสอบผู้ต้องหาทั้งสามแล้วไม่คัดค้านจึงอนุญาตให้ฝากขัง และภายหลังเสร็จสิ้นกระบวนฝากขังแล้ว ผู้ต้องหาทั้งสาม ไม่ได้ยื่นคำร้องและหลักทรัพย์เพื่อขอปล่อยชั่วคราวในชั้นฝากขังนี้แต่อย่างใด  เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์จึงได้ควบคุมตัวนายหงและนายชลวิทย์ผู้ต้องหาที่ 1-2 ไปคุมยัง ทัณฑสถานบำบัดพิเศษกลาง ส่วน น.ส.ปริศนา หรือปุ๊กกี้ อดีตนักร้องดัง ผู้ต้องหาที่ 3 ถูกนำตัวไปคุมขังยังทัณสถานหญิงกลางต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โปรดเกล้าฯ ครม. “อนุทิน” รายชื่อตรงตามโผ

กทม. 19 ก.ย.-โปรดเกล้าฯ ครม. “อนุทิน” นั่งนายกฯ ควบมหาดไทย พร้อมตั้ง รองนายกฯ 6 คน รมต.สำนักนายกฯ 4 คน ขณะรายชื่อตรงตามโผ ไม่มีเปลี่ยนแปลง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (19 ก.ย. 68) เวลา 09.30 น. เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศ สำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งคณะรัฐมนตรี โดยพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า ตามที่ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ตามประกาศลงวันที่ 7 กันยายนพุทธศักราช 2568 แล้วนั้น บัดนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ได้เลือกผู้ที่สมควรดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีเพื่อบริหารราชการแผ่นดินสืบต่อไปแล้ว อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 158 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย จึงทรงพระกรุณาโปรดเก้าแต่งตั้งรัฐมนตรีดังต่อไปนี้ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ […]

“เจ๊ปอง” น้ำตาคลอ เปิดใจหลังศาลฎีกาตีกลับยกฟ้อง

กรุงเทพฯ 19 ก.ย. – “เจ๊ปอง” น้ำตาคลอ เปิดใจหลังศาลฎีกาตีกลับยกฟ้อง เชื่อ 15 ปีที่ผ่านมา เป็นบทเรียนของชีวิต หลังจากนี้จะใช้ชีวิตของตัวเองอุทิศให้ประชาชนและประเทศชาติ ชี้ขึ้นอยู่กับสถานการณ์บ้านเมืองว่าจะออกมาเคลื่อนไหวอีกหรือไม่ น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก สื่อมวลชนอาวุโส กล่าวขอบคุณกระบวนการยุติธรรม และศาลด้วยที่ความเมตตากับตนเอง ที่ผ่านมาเราต่อสู้ด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรม สำหรับการตัดสินในวันนี้ทำให้รู้สึกโล่งใจ ดีใจทำให้เรารู้ว่าหลังจากนี้เราจะใช้ชีวิตของเราอย่างไรต่อ เพราะถือว่าเป็นคดีสุดท้าย 15 ปีที่ผ่านมา เป็นบทเรียนของชีวิต ต่อจากนี้เป็นต้นไปขอทำหน้าที่สื่อมวลชนที่ดีเป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชน เป็นประโยชน์กับประเทศชาติ มันเป็นสิ่งที่ดีที่สุดชีวิตนี้จะอุทิศให้กับพี่น้องประชาชนและประเทศชาติ พร้อมบอกว่าเป็นคดีสุดท้ายใน 20 ปี ตลอด 20 ปีที่ผ่านมา เราใช้วิชาชีพของตัวเองใช้ความเชี่ยวชาญของตัวเองรับใช้พี่น้องประชาชน ถือว่าเป็น 20 ปี ที่คุ้มมาก พี่น้องประชาชนให้กำลังใจเราเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะคนที่ร่วมมือกับเราในการแสวงหาข้อมูล เรารู้สึกว่ามีคนรักเรามาก และความจริงมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น เรานำเสนอความจริง เมื่อถามว่าที่ผ่านรู้สึกอย่างไรได้มีเตรียมใจไว้หรือไม่ น.ส.อัญชะลี ระบุว่า ทุกอย่างเตรียมความพร้อม ทุกอย่างไม่ต้องแอบทำใจ หากเราสู้จนถึงที่สุดแล้วอะไรจะเกิดขึ้นก็ต้องเกิด ขอบคุณทุกหน่วยงานที่เคยช่วยเหลือทั้งในเรื่องเอกสาร หรืออื่นๆ ส่วนเหตุผลที่ศาลพิจารณายกฟ้องในคดีนี้ คือ ศาลเห็นว่าพยานให้การไม่ตรงกันในหลายประเด็นทั้งพยานวัตถุ […]

ศาลฎีกานัดฟังคำพิพากษาคดีม็อบพันธมิตรบุกยึด NBT ปี51

ศาลอาญา 19 ก.ย. – วันนี้ที่ศาลอาญา รัชดา ได้นัดฟังคำพิพากษาศาลฎีกา หรือคดีแกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยหรือ พธม. นำผู้ชุมนุมบุกยึดสถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทย หรือ NBT เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2551 หรือเมื่อ 17 ปีก่อน ในช่วงระหว่างการชุมนุมขับไล่รัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช ในขณะนั้น ซึ่งศาลอาญานัดฟังคำพิพากษาในเวลา 10:00 น. โดยคดีดังกล่าวมีจำเลย 4 คน ได้แก่ น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก, นายภูวดล ทรงประเสริฐ, นายยุทธิยง ลิ้มเลิศวาที และนายชิติพัทธ์ ลิ้มทองกุล ซึ่งเป็นน้องชายของนายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำ พธม. ทั้งหมดถูกฟ้องในความผิดฐานร่วมกันมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป อั้งยี่ซ่องโจร บุกรุก และทำให้เสียทรัพย์ เนื่องจากปรากฏหลักฐานว่า จำเลยทั้งห้าเป็นระดับหัวหน้าและผู้สั่งการให้กระทำความผิด ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ได้มีจำเลยอีก 1 คน คือ นายสมเกียรติ […]

‘มาครง’ เตรียมเสนอหลักฐานยืนยัน ‘บริฌิตต์’ เป็นหญิงไม่ใช่ชาย

ปารีส 19 ก.ย. – ประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศส และบริฌิตต์ ภริยา เตรียมเสนอหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ต่อศาลสหรัฐเพื่อพิสูจน์ว่าบริฌิตต์เป็นผู้หญิงจริงๆ ไม่ใช่ผู้ชาย ทนายความของประธานาธิบดีมาครงและบริฌิตต์ บอกว่า ทั้งคู่จะยื่นเอกสารเหล่านี้ในคดีหมิ่นประมาทที่ทั้งสองได้ยื่นฟ้อง แคนแดซ โอเวนส์ อินฟลูเอนเซอร์ฝ่ายขวาชาวอเมริกัน ที่เผยแพร่ความเชื่อของตนผ่านทางสื่อและรายการพ็อคแคสต์ของตนเองว่าบริฌิตต์ เกิดมาเป็นผู้ชาย ซึ่งเรื่องนี้ทำให้เธอเสียใจและไม่สบายใจอย่างมากกับข้อกล่าวหาดังกล่าว และเรื่องนี้รบกวนจิตใจของประธานาธิบดีฝรั่งเศส แม้จะไม่ได้ทำให้มาครงสมาธิหลุดจากภารกิจหน้าที่ของเขาในฐานะผู้นำประเทศ แต่มันก็เป็นเรื่องรบกวนจิตใจของคนที่ต้องรับผิดชอบทั้งเรื่องครอบครัวและเรื่องงาน ซึ่งตัวประธานาธิบดีก็ไม่มีข้อยกเว้น ในส่วนของการยื่นหลักฐานต่อศาลนั้น ทนายความของมาครงและภริยาบอกว่า ทั้งคู่พร้อมที่จะแสดงหลักฐานอย่างชัดเจนทั้งในภาพรวมและในรายละเอียด รวมถึงคำให้การจากผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งจะเป็นลักษณะทางวิทยาศาสตร์เพื่อพิสูจน์ว่าข้อกล่าวหานั้นเป็นเท็จ แม้จะเป็นกระบวนการที่บริฌิตต์จะต้องเผชิญต่อหน้าสาธารณชนอย่างเปิดเผย แต่เธอก็ยินดีที่จะทำ เธอตัดสินใจแน่วแน่แล้วว่าจะทำทุกอย่างที่จำเป็นเพื่อทำให้เรื่องนี้กระจ่าง สำหรับประเด็นเรื่องบริฌิตต์ เป็นผู้ชาย ถูกเผยแพร่ครั้งแรกตามสื่อออนไลน์ของฝ่ายขวาและกลุ่มต่อต้านวัคซีนในฝรั่งเศสตั้งแต่ปี 2021 ต่อมา แคนแดซ โอเวนส์ อดีตนักวิจารณ์ของเดลี่ไวร์ (Daily Wire) สำนักข่าวสายอนุรักษ์นิยมของสหรัฐฯ ซึ่งมีผู้ติดตามบนโซเชียลมีเดียหลายล้านคน ได้เผยแพร่มุมมองของตนเองหลายครั้งว่า บริฌิตต์ เป็นผู้ชาย ที่มีชื่อว่า ฌอง-มิเชล ทรอกโนซ์ (Jean-Michel Trogneux) ก่อนที่จะแปลงเพศในเวลาต่อมา ถึงขั้นอ้างว่าเธอพร้อมเดิมพันชื่อเสียงในอาชีพทั้งหมดของเธอกับข้อกล่าวหานี้ ส่งผลให้มาครงและภริยายื่นฟ้องต่อศาลสหรัฐฯ […]

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เตือน 9 จังหวัดฝนตกหนักบางแห่ง-กทม.ฟ้าคะนอง 70%

กรุงเทพฯ 23 ก.ย. – กรมอุตุฯ เตือนไทยตอนบนมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยเฉพาะ จ.แม่ฮ่องสอน ตาก มุกดาหาร ยโสธร อำนาจเจริญ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 70% และมีฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยตอนบนมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน ตาก มุกดาหาร ยโสธร อำนาจเจริญ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านตอนบนของภาคเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง สำหรับบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น “รากาซา” (RAGASA) […]

เปิดแนวต้านน้ำหล่มสัก ผลักดันแผนแก้น้ำท่วมซ้ำซาก

เพชรบูรณ์ 22 ก.ย. – แม้ว่าน้ำที่ท่วมชุมชนและย่านการค้าในเขตเทศบาลเมืองหล่มสัก ที่เพชรบูรณ์ จะลดลงแล้ว แต่ทิ้งความเสียหายเป็นวงกว้าง โดยเฉพาะย่านการค้าเก่าแก่ที่เจอน้ำท่วม 2 รอบในช่วง 3 สัปดาห์ เรียกว่ายังไม่ทันได้ฟื้นฟูความเสียหายจากน้ำท่วมรอบแรกเสร็จ ต้องมาเจอน้ำท่วมซ้ำอีก ขณะที่หลายคนกังวลและต้องเตรียมรับมือกับพายุที่คาดว่าจะเข้ามาในช่วงปลายสัปดาห์นี้ พร้อมเรียกร้องให้เร่งป้องกันและหาแนวทาง แก้ปัญหาระยะยาว ไม่ให้หล่มสักกลายเป็นพื้นที่น้ำท่วมซ้ำซาก .-สำนักข่าวไทย

ฝนถล่มเชียงใหม่ ประกาศปิดน้ำตกแม่สา ส่วนวัดผาลาด เตือนน้ำป่าหลาก

เชียงใหม่ 22 ก.ย.-ฝนถล่มเชียงใหม่ อุทยานฯ ดอยสุเทพ-ปุย ประกาศปิดน้ำตกแม่สา อ.แม่ริม ชั่วคราว หลังน้ำป่าไหลหลาก ส่วนวัดผาลาด แจ้งเตือนชาวบ้านรับมือน้ำป่าหลากลงน้ำตกผาลาด ช่วงบ่ายวันนี้ ( 22 กันยายน) เกิดฝนตกหนักในหลายพื้นที่ของจังหวัดเชียงใหม่ เพจเฟซบุ๊ก อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย ได้โพสต์ข้อความประกาศปิดน้ำตกแม่สา ในอำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ชั่วคราว เพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว เนื่องจากเกิดเหตุน้ำป่าไหลหลากลงมาจนน้ำมีสีน้ำตาลขุ่น กระแสน้ำไหลแรงและเชี่ยวกราก โดยจะปิดน้ำตกแม่สาตั้งแต่วันนี้จนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่สภาวะปกติ ขณะที่พระมหาสง่า ไชยวงค์ เจ้าอาวาสวัดผาลาด ก็ได้โพสต์คลิปภาพวิดีโอ พร้อมข้อความ “มวลน้ำจากยอดดอยกำลังผ่านวัดผาลาด ญาติโยมด้านล่างช่วงนี้ก็เฝ้าไว้เน้อ” ซึ่งทางวัดผาลาดจะมีการแจ้งเตือนชาวบ้านที่อยู่ใกล้ทางน้ำไหลน้ำตกผาลาด และบริเวณเชิงดอยสุเทพในตัวเมืองเชียงใหม่ ให้เฝ้าระวังน้ำป่าที่ไหลผ่านวัดลงสู่ด้านล่างทุกครั้ง สำหรับวัดผาลาดตั้งอยู่บริเวณทางขึ้นดอยสุเทพ และมีน้ำตกผาลาดไหลผ่านพื้นที่วัดช่วงที่เกิดฝนตกหนัก จะมีน้ำป่าไหลหลากจากบนดอยสุเทพผ่านน้ำตกผาลาด ก่อนจะไหลลงสู่พื้นที่ตัวเมืองเชียงใหม่.-สำนักข่าวไทย

กองทัพไทย ย้ำบ้านหนองหญ้าแก้วอยู่เขตแดนไทย ชี้ JBC รับรองแล้ว

กทม. 22 ก.ย.- กองทัพไทย ย้ำบ้านหนองหญ้าแก้วอยู่เขตแดนไทย ไม่ใช่พื้นที่ทับซ้อน ชี้ JBC รับรองแล้ว สอดคล้อง MOU 2543 พล.ต.วิทัย ลายถมยา โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย เปิดเผยถึงประเด็นหลักเขตแดนที่ 42 และ 43 ในพื้นที่ อ.โคกสูง จ.สระแก้วว่า หลักเขตแดนที่ 42 ตั้งอยู่ที่บ้านหนองหญ้าแก้ว (บ้านไปรจัน) ต.โคกสูง อ.โคกสูง จ.สระแก้ว และหลักเขตแดนที่ 43 ตั้งอยู่ที่บ้านโนนหมากมุ่น ต.โคกสูง อ.โคกสูง จ.สระแก้ว โดยการกำหนดแนวเขตแดนในพื้นที่ดังกล่าวเป็นเส้นตรงจากหลักเขตแดนที่ 41 มายังหลักเขตแดนที่ 42 และต่อเนื่องไปยังหลักเขตแดนที่ 43 จากนั้นแนวเขตแดนจะไปตามคลองระลมระสือจนถึงหลักเขตแดนที่ 44 สำหรับกระบวนการสำรวจ ชุดสำรวจร่วมไทย–กัมพูชาได้ดำเนินการตามขั้นตอนที่ 1 ของ TOR คือ การสำรวจสภาพ และที่ตั้งของหลักเขตแดนทั้งหมด 74 หลัก ตั้งแต่ปี พ.ศ. […]