สุราษฎร์ธานี 19 มิ.ย.-ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี จี้ชุดสืบสวนลงพื้นที่เป้าหมาย เร่งตัวผู้ต้องสงสัย คดีฆ่าฝังดินชายอายุ 42 ปี ชาวนครศรีธรรมราช
จากกรณีพบศพนายจรัญ นาคแก้ว อายุ 42 ปี ชาว ต.เชียรเขา อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.นครศรีธรรมราช ถูกแทงด้วยของมีคมไส้ทะลักและยิงด้วยปืน ก่อนนำไปฝังดินในป่าหมู่บ้านคลองชุม หมู่ 13 ต.ตะกุกเหนือ อ.วิภาดี จ.สุราษฎร์ธานี คาดเสียชีวิตมาแล้ว 1 สัปดาห์ ซึ่งเจ้าหน้าที่นำศพออกมาด้วยความทุลักทุเล เนื่องจากจุดเกิดเหตุอยู่ในป่าลึก และต้องทำงานแข่งกับเวลา เพราะเป็นช่วงที่มีฝนตกและอาจเกิดน้ำป่าไหลทะลักลงมาได้ ตำรวจมุ่ง 3 ประเด็น คือ ฆ่าล้างแค้น ชิงทรัพย์ และทะเลาะวิวาท เหตุเกิดเมื่อวันที่ 17 มิ.ย.62
ล่าสุดช่วงเย็นวานนี้ (18 มิ.ย.) ทางญาติผู้ตายได้เดินทางมารับศพไปทำพิธีทางศาสนาที่บ้านเกิดที่ จ.นครศรีธรรมราช ขณะที่นายจรงค์ นาคแก้ว น้องชาย เปิดเผยว่า ไม่ได้ติดต่อกับพี่ชายมากว่า 2 ปีแล้ว เพิ่งทราบจากข่าวจึงพาแม่และญาติๆ เดินทางมาดูศพที่โรงพยาบาล พบว่าเป็นพี่ชายจริง และไม่ทราบมาก่อนว่าพี่ชายเคยต้องคดีที่ สน.ดินแดง ทั้งนี้ อยากให้ตำรวจจับกุมคนร้ายให้ได้ เพราะเป็นการกระทำที่โหดร้ายมาก
จากนั้นเวลา 19.30 น. พล.ต.ต.อภิชาติ บุญศรีโรจน์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี เรียกประชุมด่วนเร่งรัดคดีที่ศูนย์ปฏิบัติการ สภ.พุนพิน โดยมีตำรวจชุดสืบสวน เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน 8 และพนักงานสอบสวนอีก 30 นาย ร่วมประชุมสรุปความคืบหน้าจากการลงพื้นที่ทั้งหมด นานเกือบ 2 ชั่วโมง ก่อนให้สัมภาษณ์ว่า การตรวจพิสูจน์ศพจากนิติเวชโรงพยาบาลวิภาวดี และโรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี พบว่าศพมีร่องรอยถูกยิงด้วยอาวุธปืน แต่ยังไม่ยืนยันว่าเป็นกระสุนปืนลูกซองหรือลูกโดด อยู่ระหว่างการตรวจสอบของกองพิสูจน์หลักฐาน 8 และบริเวณช่องท้องมีบาดแผลของมีคมจากการถูกแทง
ขณะเดียวกันจากการสืบสวนของ สภ.วิภาวดี กับสืบสวนภูธรจังหวัด ไม่ตัดทิ้งประเด็นใด ทั้งเรื่องคดีค้างเก่าหรือเรื่องใหม่ โดยจะเร่งรัดตรวจพิสูจน์ต่อไป และวันนี้ (19 มิ.ย.) ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจพิสูจน์ทราบอย่างละเอียดในพื้นที่เป้าหมายที่สงสัยว่ารู้เห็นหรือมีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดทั้งในพื้นที่ อ.ชัยบุรี หรือพื้นที่อื่น เชื่อว่าบุคคลที่เกี่ยวข้องมีถิ่นที่อยู่ ส่วนคนร้ายที่ก่อเหตุไม่น้อยกว่า 2 คน เพราะมีทั้งอาวุธปืนและมีด
ขณะที่ตำรวจ สภ.วิภาวดี และชุดสอบสวน ได้ทำการสอบปากคำพยานไปแล้วจำนวน 2 ปาก และจากการตรวจสอบทะเบียนประวัติของนายจรัญ ผู้เสียชีวิต พบว่ามีหมายจับคดีฆ่าคนตายที่สถานีตำรวจนครบาล (สน.) ดินแดง เมื่อปี 2558 เป็นปีเดียวกับที่ผู้เสียชีวิตเข้ามารับจ้างทำสวนอยู่ในพื้นที่เกิดเหตุพอดี ซึ่งหลังก่อเหตุอาจหลบหนีคดีเข้ามาอยู่ในพื้นที่ เจ้าหน้าที่ตำรวจคาดว่าอาจเป็นไปได้มีการตามล้างแค้น และมีประเด็นสงสัยเรื่องฆ่าชิงทรัพย์ เพราะจากการสอบถามชาวบ้านละแวกใกล้เคียงทราบว่าปกติเห็นนายจรัญพกเงินที่ได้จากรับจ้างทำสวนติดตัวอยู่ประมาณ 20,000 บาท เป็นประจำ ในที่เกิดเหตุพบกระเป๋าเงินของผู้เสียชีวิตหายไป และทะเลาะวิวาทในวงเหล้า เพราะสืบทราบว่าบริเวณจุดเกิดเหตุมักจะมีการดื่มเหล้าเป็นประจำในช่วงค่ำ.-สำนักข่าวไทย
