กรุงเทพฯ 18 มิ.ย. – ตำรวจนำกำลังพร้อมหมายศาลเข้าตรวจค้นบ้าน “ประมุข” หัวหน้าวินจักรยานยนต์ ซ.อุดมสุข 1 แต่ไม่พบตัว ขณะที่กำลังอีกชุดคุมตัววินจักรยานยนต์มาสอบเพิ่มอีก 1 ราย คาดมีส่วนรู้เห็นว่าใครวางแผนและเตรียมอาวุธ
พล.ต.ต.มงคล วรุณโณ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5 พร้อมผู้กำกับการ สภ.บางนา และตำรวจชุดสืบสวน นำหมายศาลเข้าตรวจค้นบ้านนายประมุข วิเชียรดิลกกุล หัวหน้าวินรถจักรยานยนต์ ซอยอุดมสุข 1 ในซอยอุดมสุข 26 แยก 27 ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ร่วมเหตุการณ์ 2 วินจักรยานยนต์ยกพวกตะลุมบอน เมื่อวันที่ 15 มิถุนายนที่ผ่านมา และถูกออกหมายจับ แต่ยังหลบหนี โดยตำรวจได้แสดงหมายค้นต่อตัวแทนเจ้าของบ้าน และทำการตรวจค้นบ้าน ใช้เวลาประมาณ 20 นาที
ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5 ระบุว่า การตรวจค้นบ้านนายประมุขครั้งนี้ ต้องการติดตามตัวผู้ต้องหามาดำเนินคดี พร้อมกับหาหลักฐานที่เชื่อมโยงกัน อาทิ อาวุธปืน ไม้ และอื่นๆ ซึ่งการตรวจค้นไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย และจากการพูดคุยกับญาติของผู้ต้องหา ทราบว่า นายประมุขได้ติดต่อกับทางบ้าน พร้อมที่จะเข้ามอบตัว แต่ขณะนี้อยู่ระหว่างเตรียมหลักทรัพย์ในการขอประกันตัว
นอกจากนี้ ตำรวจยังเข้าตรวจสอบบริเวณซอยเฉลิมพระเกียรติ แยก 10 พร้อมควบคุมตัวผู้ต้องสงสัย 1 คน มาสอบปากคำ คือ นายคาม ซึ่งเป็นวินรถจักรยานยนต์ กลุ่มวินอุดมสุข 1 ที่สงสัยว่ามีส่วนร่วมในการก่อเหตุทะเลาะวิวาท และเชื่อว่ามีส่วนรู้เห็นว่าใครเป็นผู้วางแผน จัดเตรียมอาวุธไปใช้ก่อเหตุ ก่อนนำผลการลงพื้นที่มารายงานในที่ประชุม เพื่อวางแผนการปฏิบัติในขั้นตอนต่อไป ซึ่งวันนี้ (18 มิ.ย.) ตำรวจ 6 ชุด ได้กระจายลงพื้นที่ไปสืบสวนข้อมูล ตรวจสอบภาพวงจรปิดเพิ่มเติมตามเส้นทางต่างๆ พิสูจน์ทราบตัวบุคคล และตรวจค้นบ้านเป้าหมายที่ต้องสงสัยว่ามีพยานหลักฐานเกี่ยวข้องในคดี
สรุปภาพรวมในคดีนี้ พบว่ามีผู้เข้าไปเกี่ยวข้องในคดี 8 คน แต่มีหมายจับ 7 คน เพราะอีกคนถูกจับซึ่งหน้า แบ่งเป็นถูกนำตัวไปฝากขังดำเนินคดี เมื่อวานนี้ (17 มิ.ย.) 3 คน เตรียมฝากขังวันที่ 19 มิ.ย. อีก 3 คน และยังหลบหนีอีก 2 คน คือ นายประมุข วิเชียรดิลกกุล หัวหน้าวินรถจักรยานยนต์ ซอยอุดมสุข 1 และนายวันชัย มงคลเข็ม ซึ่งปรากฏภาพเป็นผู้ใช้อาวุธปืนในเหตุการณ์ แต่ยังไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นปืนกระบอกเดียวกันกับที่ใช้ยิงนายวีรวัฒน์ พึ่งครุฑ เสียชีวิตหรือไม่
ขณะที่ฝั่งวินรถจักรยานยนต์กลุ่มวินหน้าธนาคารไทยพาณิชย์ วันนี้เข้ามอบตัวแล้ว 8 คน ซึ่งทุกคนเป็นคนที่มีภาพปรากฏในคลิปวิดีโอ โดยยังให้การปฏิเสธทั้งหมด พนักงานสอบสวนจึงแจ้งข้อหาฐาน “ร่วมกันมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ใช้กำลังประทุษร้าย ขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย หรือกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดให้เกิดความวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง โดยผู้กระทำความผิดคนหนึ่งคนใดมีอาวุธ” และเนื่องจากอยู่ระหว่างการพิจารณาว่าเข้าข่ายกระทำความผิดใดอีกหรือไม่ จึงทำเรื่องขอเลื่อนผัดฟ้องไปก่อน ขณะเดียวกัน ยังมีวินรถจักรยานยนต์อีกหลายสิบคนที่เข้ามาให้ปากคำและทำบันทึกประวัติ เพื่อยืนยันว่าประกอบอาชีพสุจริต ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีนี้. – สำนักข่าวไทย