กทม. 16 มิ.ย.-ตำรวจเตรียมคุมตัววินจักรยานยนต์ 3 คนแรก ที่ถูกจับไปขออำนาจศาลฝากขัง ขณะที่ศาลออกหมายจับเพิ่มอีก 4 คน
นายปิยะ พวงเกสร หนึ่งในผู้ต้องหาที่ร่วมก่อเหตุทะเลาะวิวาทระหว่างกลุ่มวินรถจักรยานยนต์ ย่านอุดมสุข ถูกนำตัวมาสอบปากคำเพิ่มเติมเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ซึ่งระหว่างเดินเข้าห้องสอบสวน นายปิยะ ได้ยืนยันกับสื่อมวลชนว่า ไม่ใช่คนยิงปืนใส่นายวีรวัฒน์ พึ่งครุฑ พนักงานบริษัทขนส่งพัสดุเอกชน เสียชีวิตหน้าบ้านพัก
ขณะที่วันนี้ พนักงานสอบสวน สน.บางนา เตรียมคุมตัว 2 ใน 3 ผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับคือนายรังสรรค์ ศรไชยากร อายุ 29 ปี และนายปิยะ พวงเกสร อายุ 45 ปี ส่วนนายเจริญ เจริญผล อายุ 34 ปี ถูกจับซึ่งหน้าตามที่พยานให้การซัดทอด ไปขออำนาจศาลจังหวัดพระโขนง พิจารณารับฝากขังชั่วคราว พร้อมยื่นคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากเป็นคดีอุกฉกรรจ์ สะเทือนขวัญ คดีมีอัตราโทษสูง หากได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวเกรงว่าผู้ต้องหาจะหลบหนีหรือไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน
พันตำรวจเอกนคร ทองพานิช ผู้กำกับการ สน.บางนา มองว่า แม้ทั้ง 3 คน จะให้การปฏิเสธว่าไม่ได้นำอาวุธปืนไปร่วมก่อเหตุ ก็เป็นสิทธิ์ที่จะให้การอย่างไรก็ได้ แต่ตำรวจมีพยานหลักฐานเชื่อได้ว่า ทั้ง 3 คน ร่วมกันกระทำความผิดจริง
ล่าสุด นายจีระพงษ์ วิบูลย์รัชกิจ อาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งที่อยู่ระหว่างถูกพักงาน ถูกตำรวจเรียกกลับมารับทราบข้อกล่าวหา ร่วมกันฆ่าผู้อื่น, ความผิดที่เกี่ยวกับ พ.ร.บ.อาวุธปืน, มั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไปโดยใช้กำลังประทุษร้ายฯ และถูกควบคุมตัวไว้
สำหรับการประชุมติดตามความคืบหน้าคดี พลตำรวจโทสุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล จะเข้ามาติดตามความคืบหน้าด้วยตัวเองช่วงเย็นวันนี้ ซึ่งยังมีหลายประเด็นที่จะต้องตามต่อ เช่น การจับกุมผู้ต้องหาที่คาดว่ายังหลบหนีอยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯ, การเร่งพิสูจน์ข้อเท็จจริงในเหตุการณ์ทั้งหมด ซึ่งขณะนี้ให้น้ำหนักไปที่เรื่องการปิดซอยที่พักของผู้เสียชีวิต ที่มีคนบอกว่าถูกห้ามไม่ให้เข้าไปนำคนเจ็บที่อยู่ภายใน
ซอยออกไปส่งโรงพยาบาล ว่าเกิดจากการห้ามของผู้ก่อเหตุ หรือเป็นความกังวลของเจ้าหน้าที่เอง รวมถึงประเด็นที่สงสัยเรื่องผู้มีอิทธิพลในพื้นที่
ในส่วนของหมายจับ ศาลได้อนุมัติให้อีก 4 คนตามคำร้อง ประกอบด้วย นายมานพ มิ่งมงคล, นายจีระพงษ์ วิบูลย์รัชกิจ, นายพันธ์ศักดิ์ พละทรัพย์ และนายประมุข วิเชียรดิลกกุล ในข้อหา ร่วมกันฆ่าผู้อื่น, ความผิดที่เกี่ยวกับ พ.ร.บ.อาวุธปืน และมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป โดยใช้กำลังประทุษร้าย.-สำนักข่าวไทย
