กทม. 15 มิ.ย.- “เมฆ” วินัย ไกรบุตร ตรวจพบว่าเป็นโรคตุ่มน้ำพอง รักษามาได้ 2 เดือนแล้ว เผยไม่ทราบสาเหตุ และหมอไม่สามารถอธิบายได้
นักแสดงรุ่นใหญ่ เมฆ วินัย ไกรบุตร ตรวจพบว่าเป็นโรคเพมพิกอยด์ หรือ โรคตุ่มน้ำพอง ที่รักษามาได้ 2 เดือนแล้ว โดยเมฆ บอกว่าไม่ทราบสาเหตุ และหมอก็ไม่สามารถอธิบายได้ ผ่านเข้า-ออกโรงพยาบาลทั้งใน กทม.และต่างจังหวัด 10 กว่าแห่ง ผ่านการฉีดสเตรีย์รอย แต่รู้สึกไม่ไหวหากจะรักษาด้วยวิธีนี้ จนได้มารักษากับทีมแพทย์ที่โรงพยาบาลจุฬาฯ ด้วยวิธีการฉีดยาที่เพิ่งฉีดไป 1 เข็ม เพื่อสังเกตอาการ และนอนอยู่โรงพยาบาลนาน 10 วัน มีค่าใช้จ่ายในระหว่างพักฟื้น 50,000 บาท ส่วนค่ายาเข็มแรกทางแพทย์ยังไม่ได้คิดค่าใช้จ่าย แต่หลังจากนี้หากต้องจ่ายก็ยินดี นอกจากนี้ยังมีแฟนคลับที่ทราบข่าวโอนเงินมาให้หลักแสนเป็นค่าใช้จ่ายการรักษา ตนซึ้งใจอย่างมาก
“เมฆ” บอกอีกว่าทรมานกับตุ่มที่เกิดขึ้นทุกวัน-ทุกจุดในร่างกาย ตุ่มใหญ่มาก ลามไปจนถึงในปาก ต้องทำให้แตกไม่อย่างนั้นจะไม่สามารถทานอะไรได้เลย ตลอดระยะเวลา 2 เดือน ต้องทนกับความแสบ คัน ที่ยากเกินอธิบาย จนทำให้จิตตก ทั้งคนป่วยไปจนถึงครอบครัว ส่วนการใช้ชีวิตหากต้องออกข้างนอกตนก็จะแต่งกายมิดชิดเพื่อไม่ให้ใครเห็นตุ่มและรอยแผล
เมฆเคยเปรยกับภรรยาว่าหากไม่หาย ทำงานในวงการบันเทิงไม่ได้ คงกลับไปทำสวนที่ต่างจังหวัด แต่ตอนนี้เริ่มมีสัญญาณดีขึ้น หากหายดีต้องรีบรักษาแผลเป็นที่ใบหน้าก่อนเพราะต้องใช้ในการแสดง อยากออกมาถ่ายละครที่ยังเหลืออีก 1 ซีน ซึ่งตอนนี้ต้องเลื่อนไป 1 เดือน และยังไม่ได้ไปร่วมวิ่งกับ “ตูน บอดี้แสลม” โครงการก้าวที่เริ่มวิ่งวันนี้ พร้อมส่งกำลังใจถึงคนที่ป่วยเหมือนตนว่า อย่าจิตตกแม้จะยากแค่ไหนก็ต้องทำ และเป็นโรคที่สามารถรักษาหายได้
ขณะที่ ศ.ดร.นพ.ประวิตร อัศวานนท์ หัวหน้าสาขาวิชาตจวิทยา ภาควิชาอายุศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ให้ข้อมูลเกี่ยวกับโรคตุ่มน้ำพอง หรือ เพมพิกอยด์ ว่าไม่ใช่โรคหายาก โรคนี้เกิดจากภูมิต้านทานของร่างกายทำงานผิดพลาดเล็กน้อย ทำให้ผิวหนังเกิดการแยกตัวเป็นตุ่มน้ำใสๆ ส่วนใหญ่เกิดในคนที่มีอายุมาก เนื่องจากเมื่ออายุมากขึ้นระบบการทำงานของภูมิคุ้มกันร่างกายรวน สามารถพบได้ทั้งชายและหญิง ส่วนสาเหตุของเกิดโรคที่แท้จริง ยังไม่สามารถบอกได้ แต่ที่ชัดเจนคือไม่เกี่ยวกับการใช้ร่างกายหักโหม การออกกำลังมาก หรือรวมทั้งการรับประทานอาหาร การแพ้อาหาร ไม่เกี่ยวกับไฟไหม้ น้ำร้อนลวก ไม่ใช่โรคอันตรายรุนแรงถึงขั้นทำให้เสียชีวิตและไม่ใช่โรคติดต่อ สามารถรักษาให้หายได้ ปัจจุบันการรักษา มีวิธีการใหม่ๆื ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ทั้งการให้ยากดภูมิคุ้มกันเพื่อให้โรคสงบ ร่วมกับยาแก้อักเสบ แต่ปัจจุบันนิยมให้ยาที่เปลี่ยนการทำงานของเซลล์ ซึ่งระยะเวลาการรักษาให้หายขาดแตกต่างกันไป บางรายใช้เวลาไม่นาน บางรายนานนับปี ขึ้นอยู่กับโรคและอาการว่ามีมากน้อยแค่ไหน สำหรับอาการของโรคที่เด่นชัด คือ จะปรากฏตุ่มขึ้นตามที่ฝ่ามือ ฝ่าเท้า หรือขึ้นตามตัว หากรักษาหายขาด บางราย อาจทิ้งร่องรอยคล้ายรอยแผลจากโรคสุกใสได้เท่านั้น.-สำนักข่าวไทย