แนะคุมเข้มนำเข้าหมูจากเพื่อนบ้าน

นนทบุรี 7 มิ.ย. – อธิบดีกรมการค้าภายใน แนะคุมเข้มนำเข้าหมูจากเพื่อนบ้าน-จีน หวั่นโรคอหิวาต์แอฟริการะบาด


นายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยถึงการระบาดของโรคอหิวาต์แอฟริกา (เอเอสแอฟ) ในหมู ว่า ต้องการเสนอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งออกมาตรการห้ามนำเข้าเนื้อหมูและผลิตภัณฑ์แปรรูป หรือออกมาตรการควบคุมอย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันไม่ให้มีการนำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะด่านชายแดนทางภาคเหนือ ที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษจากกลุ่มนักท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ และมาตรการดูแลการนำเข้ายังเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคเอเอสเอฟ เพราะในปัจจุบันโรคเอเอสเอฟได้ระบาดในหลายประเทศ โดยเฉพาะจีน เวียดนาม และประเทศเพื่อนบ้าน

หากโรคนี้เข้ามาระบาดในไทย ทำให้ต้องกำจัดหมูทิ้ง ส่งผลให้ผลผลิตหมูลดลง ผู้บริโภคไทยเดือดร้อนแน่นอน เพราะอาจต้องซื้อเนื้อหมูในราคาแพงมากอย่างในจีน ขณะนี้ราคาเนื้อหมูพุ่งขึ้นไปถึงกิโลกรัม (กก.) ละ 300 บาทกว่าบาทแล้ว และยังจะทำให้ราคาอาหารที่มีเนื้อหมูหรือส่วนต่างๆ ของหมูเป็นวัตถุดิบ มีราคาแพงขึ้น ทั้งอาหารตามสั่ง ก๋วยเตี๋ยว รวมถึงอาหารแปรรูปจากหมู เช่น ไส้กรอก หมูแผ่น หมูหยอง อีกทั้งยังทำให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์และมันสำปะหลัง เดือดร้อนตามไปด้วย เพราะพืชทั้ง 2 ชนิดเป็นวัตถุดิบสำคัญที่ใช้ผลิตอาหารหมู


อย่างไรก็ตาม การนำเข้าเนื้อหมูสดๆ คงไม่น่าห่วง หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้มงวดเป็นอย่างดี แต่ที่น่าห่วง คือ เนื้อหมูแปรรูป เช่น กุนเชียง แหนม ไส้กรอก หมูแผ่น ที่ชาวบ้านอาจหิ้วติดมือมาด้วย จากการไปท่องเที่ยวในประเทศเพื่อนบ้าน หรือจีน หรืออาจซื้อฝากญาติพี่น้อง เพราะการแปรรูปบางอย่างไม่สามารถทำลายเชื้อเอเอสเอฟได้ โดยโรคเอเอสเอฟ กำลังระบาดอย่างหนักในจีน ซึ่งได้กำจัดหมูเป็นไปแล้วประมาณ 40 ล้านตัว ขณะที่เวียดนาม พบเชื้อดังกล่าวในหลายฟาร์มแล้ว ส่วนไทยยังไม่ได้พบเชื้อนี้ จึงเป็นโอกาสของไทยในการส่งออกหมูไปตลาดต่างๆ เพื่อทดแทนหมูของจีนและเวียดนาม

สำหรับสถานการณ์ราคาหมูในไทย กรมฯ มีข้อตกลงกับสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติว่าหากราคาหมูเป็นหน้าฟาร์ม ณ กรุงเทพฯ และปริมณฑล เฉลี่ยเกินกว่ากก.ละ 75 บาท และราคาหมูเนื้อแดงขายปลีกเกินกก.ละ 150 บาท กรมฯ จำเป็นต้องออกมาตรการควบคุมราคาไม่ให้เกินราคาดังกล่าว และออกมาตรการห้ามส่งออกหมูได้ทันที เพื่อไม่ให้ผู้บริโภคเดือนร้อนจากการบริโภคเนื้อหมูแพง โดยปัจจุบันพบว่าต้นทุนของเกษตรกรผู้เลี้ยงหมูจะอยู่ที่กก.ละ 60 บาท และราคาหมูหน้าเขียงยังไม่เกินกก.ละ 150 บาท

โดยในปี 2561 ไทยส่งออกหมูมีชีวิต 815,385 ตัว มูลค่า 3,184.90 ล้านบาท โดยส่งออกไปกัมพูชาเป็นอันดับ 1 คิดเป็นร้อยละ  74 ของมูลค่าส่งออกทั้งหมดของไทย ตามด้วยลาวร้อยล 17 และเมียนมาร้อยละ 9 และยังส่งออกเนื้อหมูและผลิตภัณฑ์ 15,471.6 ตัน มูลค่า 2,325.7 ล้านบาทเป็นต้น . – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

“โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 เข้าพบนายกฯ

“โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 เข้าพบ “แพทองธาร” นายกฯ ชื่นชมเป็นคนเก่ง-มองโลกบวก เป็นหน้าตาของประเทศ นำเสนอวัฒนธรรม-ซอฟต์พาวเวอร์ ผ่านการประกวด พร้อมชวนร่วมงานรัฐบาล สร้างแรงบันดาลใจเด็กๆ ขณะที่ นายกฯ เขินถูกชมว่าตัวจริงสวย

ล้มล้างการปกครอง

ศาล รธน.มีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้อง “ทักษิณ-พท.” ล้มล้างการปกครอง

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้องของนายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ขอให้ศาลวินิจฉัยว่า “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ล้มล้างการปกครอง

คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญถกคำร้อง “ทักษิณ-เพื่อไทย” ล้มล้างฯ

จับตา ศาลรัฐธรรมนูญ “รับ/ไม่รับ” คำร้องปม “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองหรือไม่