บุรีรัมย์ 4 มิ.ย. – ครอบครัวเศร้า “เชิด ร็อคแสลง” เสียชีวิตกะทันหันด้วยโรคตับ รอรับศพกลับไปบำเพ็ญกุศลที่วัดบ้านเกิดใน จ.บุรีรัมย์ ด้านพ่อแม่เผยยังทำใจไม่ได้ ลูกจากไปไม่ทันได้ร่ำลา
เมื่อช่วงค่ำวานนี้ (3 มิ.ย.) บรรยากาศที่บ้านเลขที่ 208 หมู่ 1 บ้านแสลงโทน ต.แสลงโทน อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ บ้านเกิดของนายบุญเชิด พรมประโคน หรือ “เชิด ร็อคแสลง” นักร้องลูกทุ่งชื่อดัง เจ้าของบทเพลงมอเตอร์ไซค์ฮ่าง, กิ้งกือตกส่าง ซึ่งเสียชีวิตที่โรงพยาบาลรามคำแหง จากอาการป่วยด้วยโรคตับแข็ง มีเลือดออกทางจมูกและทวาร เมื่อช่วงบ่ายวานนี้ เป็นไปด้วยความโศกเศร้าหลังทราบข่าว โดยเฉพาะนายเสมือน และนางปืน พรมประโคน พ่อและแม่ของนักร้องหนุ่ม ยังทำใจไม่ได้กับการจากไปของลูกชาย โดยไม่ทันได้ร่ำลา ต่างเตรียมรอรับศพลูกชายกลับมาบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิด คาดว่าศพจะมาถึงช่วงเย็นวันนี้ (4 มิ.ย.)
ส่วนญาติและชาวบ้านที่ทราบข่าว ต่างก็มาแสดงความเสียใจและให้กำลังใจพ่อแม่ของนักร้องหนุ่มที่บ้านอย่างไม่ขาดสาย โดยพ่อและแม่ของนักร้องหนุ่มยังได้จุดธูปกราบไหว้ศาลตายาย เพื่อขอให้ภรรยาและลูกๆ ที่เดินทางไปรับศพลูกชายกลับมาอย่างปลอดภัย
นางปืน พรมประโคน แม่ของนักร้องลูกทุ่งชื่อดัง บอกว่า ช่วงที่ลูกชายล้มป่วยและเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล ได้เดินทางไปเยี่ยมเมื่อสัปดาห์ก่อน เมื่อเห็นสภาพลูกชายก็รู้สึกสงสาร และเมื่อเดินทางกลับมาบ้านก็ได้ไปกราบไหว้บนบานศาลตาปู่ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำหมู่บ้านทุกวัน เพื่อขอให้ลูกชายหายป่วย จริงๆ ตั้งใจจะเดินทางไปเยี่ยมลูกชายที่โรงพยาบาล ซึ่งลูกสะใภ้โอนเงินค่ารถมาให้ 2,000 บาท และติดต่อรถไว้แล้ว เตรียมจะเดินทางไปช่วงเย็น แต่ตอนบ่ายลูกสะใภ้โทรศัพท์มาบอกว่า ลูกชายสิ้นใจแล้ว รู้สึกเสียใจมากที่ไม่ได้ไปดูใจลูกชายก่อนตาย และยังไม่ทันได้ร่ำลาหรือสั่งเสียเลย ขอให้ดวงวิญญาณของลูกไปอยู่ในภพภูมิที่ดี หากชาติหน้ามีจริง ขอให้ได้เกิดมาเป็นครอบครัวเดียวกันอีก และขอขอบคุณแฟนเพลงและผู้ใจบุญทุกคนที่ให้ความช่วยเหลือลูกชาย
ด้านนายเสมือน พรมประโคน ผู้เป็นพ่อ บอกว่า ยังทำใจไม่ได้ที่ลูกชายจากไปเร็วแบบนี้ หากลูกรับรู้ได้ก็อยากจะบอกว่ารักเขามาก ที่ผ่านมา “เชิด” ถือเป็นเสาหลักที่คอยดูแลพ่อแม่ ช่วงที่มีงานเยอะ ลูกจะส่งเงินมาให้ตลอด แต่ระยะหลังลูกไม่ค่อยมีงาน จึงไม่ค่อยได้ส่ง ซึ่งทางบ้านก็เข้าใจ และไม่คิดว่าลูกจะจากไปเร็วขนาดนี้ ขอให้ลูกได้ไปอยู่ในภพภูมิที่ดี หากชาติหน้ามีจริงก็ขอให้เกิดมาเป็นพ่อลูกกันอีก. – สำนักข่าวไทย
