1 มิ.ย. – เหลืออีกเพียง 6 วัน จะมีการแข่งขันฟุตบอลโลกหญิง ปี 2019 ครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่ 2 ติดต่อกันที่ทีมสาวไทยเข้าร่วมแข่งขัน เราย้อนไปดูผลงานทีม “ชบาแก้ว” จากครั้งแรกเมื่อ 4 ปีก่อน จากรายงานในช่วง “เชียร์ไทยสุดใจไปกับทัพชบาแก้ว”
เมื่อ 4 ปีก่อน ถือเป็นวันประวัติศาสตร์ของวงการลูกหนังบ้านเรา เมื่อทีมฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย ลบคำปรามาสที่ว่า “บอลไทยจะไปบอลโลก คงต้องรอชาติหน้า” เพราะพวกเธอสามารถคว้าสิทธิ์จากรอบคัดเลือกโซนเอเชียไปโชว์เพลงแข้งฟุตบอลโลกหญิง 2015 รอบสุดท้าย ที่ประเทศแคนาดา ได้สำเร็จ ภายใต้การนำทีมของ “มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ ผู้จัดการทีม และ หนึ่งฤทัย สระทองเวียน กุนซือ ขณะที่นักเตะดาวดังชุดนั้น นำโดย “เนตร” กาญจนา สังข์เงิน, “ไหม” ธนีกาญจน์ แดงดา, “หมิว” ศิลาวรรณ อินต๊ะมี, “แนนซี่” สุนิสา สร้างไธสง
ครั้งนั้นสาวไทยที่มีอันดับโลกอยู่ที่ 29 ถูกแบ่งสายให้อยู่สายบี ร่วมกับ เยอรมนี แชมป์โลก 2 สมัย, นอร์เวย์ แชมป์โลก 1 สมัย และไอวอรีโคสต์ ดีกรีอันดับ 3 จากโซนแอฟริกา ซึ่งถือว่าเป็นกลุ่มที่หินที่สุดกลุ่มหนึ่งในครั้งนั้น
นัดแรก ที่ออตตาวา ทีมสาวไทยไม่สามารถต้านทานความยอดเยี่ยมของทีมนอร์เวย์ไว้ได้ แพ้ไป 0-4
นัดที่ 2 สถานการณ์ไม่สู้ดีตั้งแต่ 4 นาทีแรก เมื่อ อังเจ เอ็น กูสซาน พังประตูให้ทีมไอวอรีโคสต์ นำไปก่อน 1-0 แต่จากนั้นเป็น อรทัย ศรีมะณี ที่พังประตูตีเสมอในนาทีที่ 26 ซึ่งถือเป็นประตูประวัติศาสตร์ของทีม “ชบาแก้ว” ในฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายด้วย เสมอกัน 1-1 ท่ามกลางความดีใจของกองเชียร์ในสนาม และคนไทยที่เฝ้าชมอยู่ทางบ้าน ก่อนที่ อรทัย คนเดิมจะเบิ้ลประตูที่ 2 ช่วงทดเวลาเจ็บครึ่งแรก ทำให้พักครึ่ง ไทยนำ 2-1
ครึ่งหลัง ธนัสถา ชาวงษ์ ตัวสำรอง พังประตูที่ 3 ให้ “ชบาแก้ว” นำห่าง 3-1 แม้ว่าท้ายเกม โจซี ยิงให้ ไอวอรีโคสต์ ไล่มา 2-3 แต่ก็ไม่ทัน จบเกม ไทย ชนะ ไอวอรีโคสต์ 3-2 เก็บชัยชนะประวัติศาสตร์ครั้งแรกในฟุตบอลโลก สร้างความสุขให้กับคนไทยทั้งประเทศ
ในนัดต่อมา สาวไทย แพ้ให้กับ เยอรมนี 0-4 ทำให้จบ 3 นัด ในรอบแรก มี 3 คะแนน ลุ้นเป็นอันดับ 3 ที่ดีที่สุด 4 ทีม จาก 6 กลุ่ม เพื่อเข้ารอบที่ 2 แต่ด้วยความที่เสียประตูเยอะ มีลูกได้เสีย -7 ทำให้พวกเธอต้องตกรอบแรกอย่างน่าเสียดาย
อย่างไรก็ตาม ครั้งนี้จะเป็นอีกครั้งที่สาวๆ “ชบาแก้ว” มีโอกาสเขียนประวัติศาสตร์หน้าใหม่ในเวิลด์คัพอีกครั้ง ด้วยการผ่านเข้าสู่รอบที่ 2 ให้จงได้. – สำนักข่าวไทย