“ชวน หลีกภัย” กับเส้นทางการเมืองประธานสภาฯ สมัยที่ 2

กทม. 31 พ.ค. – เปิดประวัติและเส้นทางการเมืองของ “ชวน หลีกภัย” นายกรัฐมนตรี 2 สมัย และประธานสภาผู้แทนราษฎร 2 สมัย  


นิติศาสตร์บัณฑิตจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ชายร่างเล็กจากจังหวัดตรัง เริ่มต้นชีวิตการทำงานโดยการเป็นทนายความ ก้าวสู่เส้นทางการเมืองจนเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 20 การเข้ามารับตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรอีกครั้งในวัย 81 ถือเป็นอีกหนึ่งหน้าประวัติศาสตร์ทางการเมืองของไทย เพราะเป็นนักการเมืองคนแรกที่ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี 2 สมัย และประธานสภาผู้แทนราษฎร 2 สมัย ที่สำคัญได้รับการยอมรับเรื่องความซื่อสัตย์และยึดมั่นในระบอบประชาธิบไตย 


         

นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร สมัยที่ 2 เกิดวันที่ 28 กรกฎาคม 2481 เป็นบุตรคนที่ 3 ใน 9 คน ของนายนิยม และนางถ้วน หลีกภัย มีบุตรชาย 1 คน คือ นายสุรบถ หลีกภัย


เส้นทางการเมืองของนายชวน เริ่มในปี 2512 และผูกขาดเป็น ส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ มา 16 สมัย หรือกว่า 50 ปี นอกจากนั่งเก้าอี้ประธานสภาผู้แทนราษฎร ในปี 2529-2531 แล้ว ยังดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการ รัฐมนตรีช่วยหลายกระทรวง อาทิ กระทรวงยุติธรรม พาณิชย์ เกษตร ศึกษาธิการ สำนักนายกรัฐมนตรี

นายชวนรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีสมัยแรกปี 2535 และพ้นจากตำแหน่งโดยการยุบสภา เนื่องจาก กรณี ส.ป.ก.4-01 และกลับเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีสมัยที่ 2 ปี 2540 หลัง พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ลาออก ด้วยวิกฤติต้มยำกุ้ง จนต้องลอยตัวค่าเงินบาท

นอกจากบทบาทในด้านการบริหารราชการแผ่นดินแล้ว นายชวนยังทำหน้าที่เป็นผู้นำฝ่ายค้านถึง 3 สมัย รวมทั้งเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ 3 สมัย ซึ่งถือว่าเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ที่ยาวนานที่สุดถึง 12 ปี 

นายชวนได้ชื่อว่าเป็นนักการเมืองที่มีคารมคมคาย มีฝีปากคมกริบในการอภิปราย ภายใต้การพูดจาที่สุภาพนิ่มนวล แต่มีถ้อยคำที่เชือดเฉือน มีวาทะเด็ดจนได้รับฉายาว่า “ใบมีดโกนอาบน้ำผึ้ง” 

นอกจากนี้ยังชื่นชอบงานด้านศิลปะ ไม่ว่าในยามที่ทำงาน หรือเดินทางไปสถานที่ต่าง ๆ มักเขียนภาพ ลายเส้น ส่วนใหญ่เป็นภาพบุคคล ทิวทัศน์ ทั้งยังมีความสามารถด้านการประพันธ์ เช่น หนังสือรวมเรื่องสั้น เย็นลมป่า

การหวนคืนบัลลังก์ประธานสภาผู้แทนราษฎรสมัยที่ 2 ถือเป็นความท้าทายในการทำหน้าที่ผู้นำฝ่ายนิติบัญญัติ ท่ามกลางสถานการณ์ที่ต้องชิงไหวชิงพริบระหว่างรัฐบาลและฝ่ายค้าน ทั้งยังต้องรักษาความเชื่อมั่นศรัทธาที่มีอยู่เดิม ให้สมกับที่ได้รับขนานนามว่า “เสาหลักต้นหนึ่งแห่งระบอบประชาธิปไตย” . – สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่ม 31 ซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับคาที่ หลังมีปากเสียงเรื่องขับเฉี่ยวชน

หนุ่มไทยเชื้อสายอินเดีย ลูกเจ้าของร้านขายผ้าซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับ ริมถนนสุขุมวิท หลังมีปากเสียงเรื่องขับรถเฉี่ยวไม่ลงมาเจรจา

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ขับรถชนไรเดอร์ดับ

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ที่หัวร้อนขับรถชนไรเดอร์ดับคาที่กลางสุขุมวิท เมื่อวานนี้ พร้อมไหว้ขอสื่อ อย่ามายุ่งกับครอบครัว

จำคุกทนายเดชา

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” ปมไลฟ์หมิ่น “อ.อ๊อด”

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” คดีหมิ่น “อ.อ๊อด” ปรับ 1 แสนบาท ปมไลฟ์ด่าเสียหาย ให้รอลงอาญา โจทก์เตรียมอุทธรณ์ต่อ ขอให้ติดคุกจริง

ศาลให้ประกันหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนไรเดอร์ดับ

ครอบครัวไรเดอร์ที่ถูกหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนเสียชีวิต กอดกันร้องไห้รับร่างและรดน้ำศพ ด้านศาลให้ประกันตัวผู้ต้องหา วงเงิน 600,000 บาท ติดกำไล EM-ห้ามออกนอกประเทศ

ข่าวแนะนำ

วันประวัติศาสตร์ สมรสเท่าเทียมวันแรก

วันนี้เป็นวันแรกที่กฎหมายสมรสเท่าเทียม มีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ ใน กทม. มีการจัดงานวันสมรสเท่าเทียมอย่างยิ่งใหญ่ เฉลิมฉลองให้กับเส้นทางการต่อสู้อันยาวนานกว่าที่กฎหมายจะมีผลบังคับใช้ ไม่ว่าเพศใดก็จะได้รับสิทธิการสมรสอย่างเท่าเทียมกัน

นาทีประวัติศาสตร์! นายกฯ ร่วมพิธีลงนาม FTA ไทย-เอฟตา

นายกฯ ร่วมพิธีลงนาม FTA ไทย-เอฟตา ฉบับแรกไทยกับยุโรป ความสำเร็จรัฐบาลแพทองธาร สร้างโอกาสยุคทองการค้า-ลงทุน ทำเงินเข้าประเทศ

ตำรวจ ปปป.ซ้อนแผนบุกจับนายช่างโยธา เรียกรับเงิน 4 แสน

ตำรวจ ปปป. บุกจับนายช่างโยธาปฏิบัติงาน ฝ่ายโยธา สำนักงานเขตพระโขนง เรียกรับเงินค่าออกใบอนุญาตก่อสร้างอาคาร 400,000 บาท

สมรสเท่าเทียม

นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้

“แพทองธาร” นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมแสดงความยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้ ขอบคุณทุกภาคส่วนผ่านการต่อสู้กับอคติกว่า 2 ทศวรรษ ทำให้ ทุกตารางนิ้วของประเทศไทยโอบรับความหลากหลาย และเท่าเทียม