พอใจผลติดกล้องเอ็นแคปนำร่องป่ากุยบุรีเฝ้าระวังช้างป่า

ประจวบคีรีขันธ์ 31 พ.ค.- กรมอุทยานฯ เร่งแก้ปัญหาช้างป่ากับชุมชน ล่าสุดติดกล้องเอ็นแคปนำร่องป่ากุยบุรี พอใจผลการเฝ้าระวังช้างป่าออกนอกเขต ชี้หากติดครบทุกจุดเซตระบบพร้อม เชื่อแก้ปัญหาได้ระยะยาวและจะนำไปใช้ในพื้นที่อื่น มีทั้งเขาอ่างฤาไน เขาชะเมา แก่งกระจาน

นายจงคล้าย วรพงศธร รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช และนายวัฒนา พรประเสริฐ ผู้อำนวยการส่วนอุทยานแห่งชาติ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 ลงพื้นที่สำนักงานอุทยานแห่งชาติกุยบุรี ต.หาดขาม อ.กุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งกรมอุทยานฯ ได้พิจารณาให้อุทยานแห่งชาติกุยบุรีเป็นต้นแบบในการแก้ปัญหาช้างป่ากับชุมชน รวมทั้งลดความขัดแย้งและการสูญเสียทั้งของคนกับช้าง จึงได้ดำเนินการโครงการเฝ้าระวังช้างป่าด้วยระบบเตือนภัยล่วงหน้า โดยร่วมกับเอกชนติดตั้งกล้องระบบเอ็นแคป ( NCAPS) เพื่อบันทึกพฤติกรรมของช้างป่า นำมาประมวลวิเคราะห์หาทางป้องกันช้างเข้ามากัดกินพืชไร่ของชาวบ้าน

พร้อมกันนี้ นายจงคล้าย ยังได้พบปะตัวแทนเครือข่ายเฝ้าระวังช้างป่าที่บ้านย่านซื่อ บ้านรวมไทย ต.หาดขาม อ.กุยบุรี และ ต.อ่าวน้อย อ.เมืองฯ เพื่อช่วยกันแก้ไข ซึ่งขณะนี้ได้ใช้ระบบเทคโนโลยีการสื่อสาร และแอพพลิเคชั่นทางสมาร์ทโฟน หากพบช้างป่าเข้ามาในพื้นที่การเกษตร ผ่านสมาร์ทโฟน ขอให้รีบแจ้งทันที

นายจงคล้าย กล่าวว่า กล้องทุกตัวจะส่งภาพไประบบประมวลผลกลาง ผ่านสัญญาณเครือข่ายอินเตอร์เน็ตความเร็วสูง เข้ามาในศูนย์เฝ้าระวังช้างป่า ซึ่งมีเจ้าหน้าที่อุทยานฯ ติดตามความเคลื่อนไหว 24 ชั่วโมง หากพบช้างออกจากป่ามุ่งหน้าเข้ามาในพื้นที่เกษตร เจ้าหน้าที่ประจำศูนย์ฯ จะส่งพิกัดให้ชุดลาดตระเวนเฝ้าระวังช้างป่า เข้าไปผลักดันช้างกลับเข้าเขตป่าได้ทัน หลังจากติดตั้งกล้องระบบเอ็นแค็ปในจุดต่าง ๆ และทดสอบระบบเป็นระยะเวลา 7 เดือนแล้ว พบว่าสามารถบันทึกภาพช้างป่าทั้งแบบวิดีโอและภาพนิ่ง รวมทั้งสัตว์ป่าชนิดอื่นทั้งหมีควาย กระทิง เก้ง และอื่น ๆ ทั้งหมด 252 ครั้ง เจ้าหน้าที่ชุดลาดตระเวนผลักดันช้างป่าได้สำเร็จ 208 ครั้ง นอกจากนี้ ช้างป่าผ่านเข้ามาในแปลงเกษตรพื้นที่บ้านรวมไทย บ้านย่านซื่อ และรอบแนวเขตอุทยานแห่งชาติกุติกุยบุรี ลดลงจากเดิมกว่า 80% ขณะเดียวกันกรมอุทยานฯ ได้จัดสรรงบสร้างแหล่งอาหารและแหล่งน้ำในป่าลึกให้เพียงพอกับจำนวนช้างในเขตอุทยานแห่งชาติกุยบุรี เพื่อดึงช้างกลับเข้าป่า

นายจงคล้าย กล่าวอีกว่า ขณะนี้ได้ติดตั้งกล้อง 16 จุด จากเป้าหมาย 30 จุด หากโครงการดังกล่าวเสร็จสิ้น พร้อมปรับปรุงสัญญาณอินเตอร์เน็ตให้ครอบคลุมพื้นที่ คาดว่าจะป้องกันปัญหาได้ในระยะยาว จากนั้นจะนำไปแก้ปัญหาในลักษณะเดียวกันกับช้างป่าเขาอ่างฤาไน จ.ฉะเชิงเทรา เขาชะเมา จ.จันทบุรี อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี และ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์.-สำนักข่าวไทย