กรุงเทพฯ 29 พ.ค. – เผย 3 ธุรกิจ อาหารและเครื่องดื่ม เวชภัณฑ์และเครื่องสำอาง และอี-คอมเมิร์ซโตต่อเนื่อง หนุนอุตสาหกรรมการพิมพ์และการบรรจุภัณฑ์ปีนี้โตร้อยละ 2
นายพงศ์ธีระ พัฒนพีระเดช นายกสมาคมการพิมพ์ไทย เปิดเผยว่า อุตสาหกรรมการพิมพ์และบรรจุภัณฑ์ไทยปีนี้มีแนวโน้มขยายตัวร้อยละ 2 เนื่องจากนักลงทุนยังให้ความสนใจประเทศไทยในฐานะศูนย์กลางการผลิตที่รายล้อมด้วยประชาคมอาเซียนที่มีผู้บริโภคสูงกว่า 600 ล้านคน เติบโตเพิ่มขึ้นจากปี 2561 มีมูลค่ารวมกว่า 300,000 ล้านบาท โดยคิดเป็นอุตสาหกรรมการพิมพ์ประมาณร้อยละ 40 และการบรรจุภัณฑ์ร้อยละ 60
สำหรับปัจจัยหนุนให้อุตสาหกรรมการพิมพ์ไทยโต เช่น อานิสงส์จากความต้องการใช้บรรจุภัณฑ์ทั้งในและต่างประเทศที่เพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง 3 กลุ่มธุรกิจหลัก ได้แก่ ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม ธุรกิจเวชภัณฑ์และเครื่องสำอาง และธุรกิจอี-คอมเมิร์ซ ที่ยังขยายตัวต่อเนื่อง ปัจจุบันไทยมีกลุ่มโรงงานอุตสาหกรรมที่พร้อมผลิตรับดีมานด์ดังกล่าว เช่น บริษัทผู้ผลิตกว่า 5,875 แห่งทั่วประเทศ และนิคมอุตสาหกรรมสินสาครบนพื้นที่กว่า 1,579 ไร่ ด้านโอกาสการเติบโตและการลงทุนในกลุ่มอุตสาหกรรมการพิมพ์ และกระดาษในประเทศไทย สมาคมการพิมพ์สนับสนุนให้โรงงานและผู้ประกอบการตอบรับเทรนด์การผลิตที่น่าสนใจ อย่างการผลิตคุณภาพสูง การพิมพ์ไฮไฟ (High-fidelity) การพิมพ์ลูกผสมบนหลากหลายวัสดุ (Hybrid) ระบบการสั่งการอัตโนมัติ และโรงงานอัจฉริยะ เพื่อตอบสนองแนวคิดแพคเกจจิ้ง 4.0 รวมถึงปรับใช้การพิมพ์ดิจิทัล และกระบวนการผลิตที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม
นายมานิตย์ กมลสุวรรณ นายกสมาคมการบรรจุภัณฑ์ไทย กล่าวว่า อุตสาหกรรมการบรรจุภัณฑ์มีกำลังการผลิตในประเทศสูงถึง 5.83 ล้านตันในปีที่ผ่านมา แบ่งสัดส่วนวัสดุการผลิตจากกระดาษร้อยละ 37.74 แก้วร้อยละ 30.05 พลาสติกร้อยละ 24.34 และโลหะร้อยละ 7.87 และคาดว่าสิ้นปี 2562 จะยังคงมีแนวโน้มการเติบโตที่ดีจากนโยบายกระตุ้นการลงทุนจากทางภาครัฐ และคาดว่าสิ้นปีนี้จะมีมูลค่าอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นคิดเป็นร้อยละ 10 – 20 ด้านนโยบายภาครัฐที่ต้องการส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการผลิต ทำให้ภาคธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม ยังเป็นปัจจัยหนุนอุตสาหกรรมการบรรจุภัณฑ์ เนื่องจากประเทศไทยสามารถเข้าถึงวัตถุดิบการผลิตได้ง่าย และผลิตภัณฑ์เป็นที่ต้องการของตลาดส่งออก ขณะที่การพัฒนาเทคโนโลยีการบรรจุภัณฑ์เพื่อการถนอมคุณภาพ ยืดอายุการเก็บรักษาของอาหาร ควบคู่นโยบายภาครัฐในเรื่องมาตรฐานบรรจุภัณฑ์และฉลาก ทำให้ผลิตภัณฑ์ต้นน้ำจากในประเทศ มีคุณภาพมตราฐานระดับสากล และมีความสามารถแข่งขันในตลาดโลกได้
ทั้งนี้ เมสเซ่ ดุสเซลดอร์ฟ เอเชีย ร่วมกับสมาคมการพิมพ์ไทย และสมาคมการบรรจุภัณฑ์ไทย เตรียมจัดงาน “แพ็ค พริ้นท์อินเตอร์เนชั่นแนล 2019” มหกรรมจัดแสดงสินค้าและเทคโนโลยีสำหรับอุตสาหกรรมการพิมพ์และบรรจุภัณฑ์ รวมรวมมาจากกว่า 25 ประเทศชั้นนำทั่วโลก เพื่อเร่งการเข้าถึงนวัตกรรมและเทคโนโลยีขั้นสูงที่ประเทศไทยกำลังมองหา รวมถึงจุดเด่นของงาน กับบริการแมทชิ่ง และให้คำปรึกษา ระหว่างคู่ธุรกิจที่เกี่ยวข้อง ซึ่งจะช่วยสร้างข้อได้เปรียบให้กับผู้ประกอบการรายย่อย และอุตสาหกรรมไทย โดยมีกำหนดจัดขึ้นระหว่าง 18 – 21 กันยายน 2562 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา.-สำนักข่าวไทย
