ชลบุรี 28 พ.ค. – ทีมข่าวสำนักข่าวไทยลงพื้นที่ตรวจสอบผลกระทบจากเหตุไฟไหม้ตู้คอนเทนเนอร์บรรทุกสารเคมีบนเรือสินค้า ท่าเทียบเรือแหลมฉบัง จ.ชลบุรี ล่าสุดมีประชาชนเข้าลงทะเบียนร้องทุกข์นับพันราย ขณะที่ประมงพื้นบ้านหวั่นน้ำทะเลปนเปื้อนสารเคมีกระทบสัตว์น้ำ
นี่คือเสียงของประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุระทึกเพลิงไหม้ตู้คอนเทนเนอร์บนเรือบรรทุกสินค้าบริเวณท่าเทียบเรือ เอ 2 ต.ทุ่งสุขลา อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ส่งผลให้ตู้คอนเทนเนอร์บางตู้เกิดระเบิดกระเด็นไปตกในทะเลและฝั่งถนนบริเวณท่าเทียบเรือ เหตุเกิดเช้ามืดวันที่ 25 พ.ค.ที่ผ่านมา ทำให้ชาวบ้านที่อยู่รอบรัศมี 15 กิโลเมตร ได้รับผลกระทบจากการสูดดมและสัมผัสสารเคมีดังกล่าว ตามร่างกายเกิดอาการแสบคันตามผิวหนังและเวียนศีรษะ รวมทั้งมีทรัพย์สินได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก
ศูนย์บริการผู้ประสบภัยเปิดให้ประชาชนเข้าร้องทุกข์ตั้งแต่ 25 พฤษภาคมที่ผ่านมา วันนี้เปิดเป็นวันสุดท้าย ประชาชนเข้าร้องทุกข์กว่า 1,000 ราย ส่วนใหญ่ได้รับผลกระทบจากการสัมผัสสารเคมีและมีทรัพย์สิน เช่น รถยนต์ รถจักรยานยนต์ได้รับความเสียหาย เบื้องต้นเร่งดำเนินการกับผู้ได้รับบาดเจ็บก่อน คาดไม่เกิน 2-3 วันจะได้รับเงินเยียวยา
ทีมข่าวลงพื้นที่พูดคุยกับ สมยศ เฉียวกุล ประธานเครือข่ายอนุรักษ์อ่าวอุดม แสดงความหวั่นวิตกเรื่องน้ำปนเปื้อนสารเคมีที่เกิดจากเพลิงไหม้ตู้คอนเทนเนอร์กระทบปลาและวาฬบรูด้า ขณะนี้มีการเฝ้าระวัง หากพบว่าสัตว์น้ำตายจะส่งตรวจหาสารปนเปื้อนทันที
ด้าน นพ.ราเมศร์ อำไพพิศ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลแหลมฉบัง เผยสารเคมีที่ฟุ้งกระจายเป็นสารแคลเซียมไฮโปคลอไรต์ คล้ายสารฟอกขาว พิษไม่รุนแรง มีประชาชนเข้ารับการรักษา 36 ราย นอนรักษาตัว 10 ราย ส่วนใหญ่เกิดจากการสูดดมและสัมผัส ทั้งหมดปลอดภัยและแพทย์อนุญาตให้กลับบ้านแล้ว
ทั้งนี้ ทางเทศบาลนครแหลมฉบังจะต้องรวบรวมรายชื่อผู้เสียหายทั้งหมดส่งไปยังท่าเรือแหลมฉบัง เพื่อดำเนินการเรียกร้องค่าเสียหายจากสายเดินเรือ อย่างไรก็ตาม จะต้องรอผลการสอบสวนจากตำรวจภูธรแหลมฉบังก่อนว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป. – สำนักข่าวไทย