พรรคประชาธิปัตย์ 27 พ.ค.-แกนนำพปชร.นำเทียบเชิญปชป.ร่วมรัฐบาลขออย่าเพิ่งสนใจเรื่องแบ่งเก้าอี้รมต. ให้ประเทศเดินหน้าก่อน พร้อมแถลงเมื่อชัดเจน
นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ พร้อมด้วยนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รองหัวหน้าพรรค นายสมศักดิ์ เทพสุทิน นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ กรรมการบริหารพรรค และแกนนำกลุ่มสามมิตรมาที่ที่ทำการพรรคประชาธิปัตย์เพื่อเชิญร่วมจัดตั้งรัฐบาล โดยมีนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรค และนายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรคให้การต้อนรับ
นายอุตตม กล่าวก่อนการหารือว่า พรรคพลังประชารัฐจะสามารถตั้งรัฐบาลได้เพื่อให้ประเทศเดินหน้า ส่วนตำแหน่งทางการเมืองยังไม่มีการหารือกัน แต่หากร่วมรัฐบาลก็อยากให้สนับสนุนนายกรัฐมนตรีของพรรคพลังประชารัฐด้วย ส่วนที่พรรคประชาธิปัตย์เคยหาเสียงไว้ว่าจะไม่สนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี ต้องดูว่าเป็นเรื่องของพรรคประชาธิปัตย์จริงหรือไม่
“ทั้งหมดอยู่ที่ที่ประชุมพรรคประชาธิปัตย์จะหารือกัน ซึ่งพรรคร่วมก็คงเข้าใจกันดีว่าถ้ามาร่วมงานด้วยกัน เราจะสนับสนุนซึ่งกันและกันอย่างไรในขั้นตอนที่เหลือ” หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าว
ส่วนที่เสียงส.ส.ยังไม่เป็นเอกภาพ นายอุตตม กล่าวว่าในพรรคไม่ได้มีปัญหารุนแรงอะไร ถือเป็นเรื่องเป็นธรรมดาที่ไม่ได้เลือกตั้งมา 5 ปี จึงต้องใช้เวลาหารือกัน แต่วันนี้ขอยืนยันว่าการทำงานเป็นไปในทิศทางเดียวกัน เดินหน้าไปด้วยกัน แต่อาจจะมีความเห็นแตกต่างกันได้ ยืนยันว่าพรรคพลังประชารัฐก้าวไปด้วยกัน และไม่กังวลเรื่องเสียงปริ่มน้ำ เพราะหากประสานงานกันได้ดีก็ไม่มีปัญหา ซึ่งในอดีต ก็เคยมีรัฐบาลเสียงปริ่มน้ำ
ด้านนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า อย่าเพิ่งพูดเรื่องตำแหน่งรัฐมนตรี เรากำลังจะหาหรือว่าจะเดินหน้าประเทศไทยร่วมกันอย่างไร ขอยืนยันว่าขณะนี้ยังไม่มีการต่อรองตำแหน่ง และผลการพูดคุยกันวันนี้จะต้องชี้แจงในที่ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรควันพรุ่งนี้(28 พ.ค.) ซึ่งสิ่งที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรคเคยระบุก่อนการเลือกตั้งเป็นปัจจัยหนึ่งที่จะนำมาพิจารณา แต่ต้องพิจารณาควบคู่ว่าประเทศชาติต้องเดินหน้าไปด้วย
“การร่วมรัฐบาลจะตัดสินใจแยกจากการสนับสนุนบุคคลเป็นนายกรัฐมนตรีหรือไม่ ต้องหารือกันในที่ประชุมพรรค แต่ยืนยันว่าไม่ว่าจะตัดสินใจอย่างไร ต้องมีเหตุผลรองรับ การประชุมร่วมระหว่างคณะกรรมการบริหารและส.ส.ของพรรคไม่ใช่เพียงพิธีกรรม”เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าว
นายเฉลิมชัย กล่าวว่า การหารือกันจะต้องนำทุกมิติมาพูดคุยกัน แม้ว่ารัฐบาลจะมีเสียงปริ่มน้ำใกล้เคียงกัน แต่เชื่อว่าสามารถดำรงอยู่ได้เพราะการประสานงานที่ดี ยืนยันว่าการที่นายชวน หลีกภัย ได้รับเลือกเป็นประธานสภาผู้แทนราษฎร ไม่เกี่ยวกับการต่อรองตำแหน่งรัฐมนตรี เพราะวันนี้มีเพียงนายชวนเท่านั้นที่เหมาะสมดำรงตำแหน่งนี้เพื่อให้ประเทศเดินหน้าไปได้ หากพูดคุยเรื่องตำแหน่งรัฐมนตรีจะแถลงข่าวให้ทราบในเวลาที่เหมาะสม
“ผมมีเพียงเสียงเดียว ไม่สามารถควบคุมทิศทางของที่ประชุมร่วมคณะกรรมการบริหารและส.ส. ของพรรคได้ จึงอยู่ที่การตัดสินใจร่วมกันของที่ประชุม ซึ่งผลการตัดสินใจจะส่งผลกับอนาคตของพรรค” เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าว
ส่วนการมาของพรรคพลังประชารัฐ แสดงว่านายเฉลิมชัยสรุปแล้วใช่หรือไม่ว่าพรรคประชาธิปัตย์จะเข้าร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐ นายเฉลิมชัย กล่าวว่า ทุกอย่างต้องเริ่มต้นการพูดคุย ทำความเข้าใจกันก่อน อย่ากังวลเรื่องกระทรวงหรือตำแหน่ง เพราะหากทำให้ประเทศไทยเดินหน้าไปได้ พรรคประชาธิปัตย์ก็พร้อม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่นายอุตตมให้สัมภาษณ์ นายสนธิรัตน์ได้กระซิบกับนายนิพนธ์ ซึ่งผู้สื่อข่าวสอบถามว่าวันนี้มาสู่ขอพรรคประชาธิปัตย์เตรียมสินสอดทองหมั้นเป็นกระทรวงใดมาบ้าง นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า เอาหัวใจมา เพราะนายเฉลิมชัยรวยอยู่แล้ว เอาหัวใจมาให้ก็พอแล้ว
เมื่อถามย้ำว่าได้ข้อสรุปแล้วใช่หรือไม่ว่าพรรคประชาธิปัตย์จะได้ 7 เก้าอี้คือ 4 รัฐมนตรีว่าการ 3 รัฐมนตรีช่วยว่าการ หรือ 3 รัฐมนตรีว่าการ 4 รัฐมนตรีช่วยว่าการ นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า ให้สอบถามนายอุตตมดีกว่า ขอให้รอพูดคุยกันก่อน
จากนั้นทั้งสองพรรคได้ถ่ายรูปร่วมกัน โดยสื่อขอให้จับมือกัน แต่ทุกคนก็ยืนนิ่งไม่ยอมจับ แต่นายอุตตมหันมายิ้มให้นายเฉลิมชัยแทน ก่อนจะเดินเข้าไปในอาคารควง อภัยวงศ์เพื่อพูดคุยกัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พรรคประชาธิปัตย์นัดประชุมกรรมการบริหารพรรคในวันพรุ่งนี้ (28 พ.ค.) เวลา 17.00 น. จากนั้นประชุมร่วมกับส.ส.ต่อ.-สำนักข่าวไทย
