ตามคาด! “พรเพชร วิชิตชลชัย” นั่งประธานวุฒิสภา

กรุงเทพฯ 24 พ.ค. – การประชุมวุฒิสภา นัดแรก เพื่อเลือกประธานและรองประธานวุฒิสภา ปรากฏว่า ที่ประชุมมีมติเลือกนายพรเพชร วิชิตชลชัย เป็นประธานวุฒิสภา แบบไร้คู่แข่ง เนื่องจากมีการเสนอรายชื่อเพียงชื่อเดียว 


ที่ประชุมวุฒิสภา มีมติให้นายพรเพชร วิชิตชลชัย อดีตประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เป็นประธานวุฒิสภา พล.อ.สิงห์ศึก สิงห์ไพร อดีต สนช. เป็นรองประธานคนที่ 1 และนายศุภชัย สมเจริญ อดีตประธาน กกต. เป็นรองประธานคนที่ 2 โดยการประชุมนัดแรก เริ่มขึ้นเวลา 17.30-18.50 น. ที่หอประชุมใหญ่ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) ถ.แจ้งวัฒนะ 


เวลา 16.00 น. สมาชิกวุฒิสภาทยอยเดินทางมาพร้อมกันจากพิธีเปิดประชุมรัฐสภา ที่กระทรวงการต่างประเทศ โดยรถบัส อาทิ นายพรเพชร วิชิตชลชัย อดีตประธาน สนช., นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย อดีตรองประธาน สนช., นายศุภชัย สมเจริญ อดีตประธาน กกต., พล.อ.สิงห์ศึก สิงห์ไพร อดีต สนช., พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา น้องชายของนายกรัฐมนตรี, นายอุปกิต ปาจรียางกูร สามี ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ, นางจิรดา สงฆ์ประชา พี่สาว ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ, นายสุรชัย ดนัยตั้งตระกูล น้องชายกรรมการบริหารพรรค พปชร., นายสัญชัย จุลมนต์ น้องชายประธานศาลฎีกา, พล.ร.อ.ศิษฐวัชร วงษ์สุวรรณ น้องชาย พล.อ.ประวิตร, พล.อ.ต.เฉลิมชัย เครืองาม น้องชายนายวิษณุ, นายสม จาตุศรีพิทักษ์ พี่ชายนายสมคิด เป็นต้น รวมทั้งอดีตรัฐมนตรี และผู้บัญชาการเหล่าทัพที่เป็น ส.ว.โดยตำแหน่ง เดินทางมาพร้อมกันโดยรถประจำตำแหน่ง 


โดยเริ่มต้นการอ่านพระราชโองการโปรดเกล้าฯ รายชื่อสมาชิกวุฒิสภาทั้ง 250 คน มี ร.อ.ทินพันธุ์ นาคะตะ อดีตประธานสภาปฏิรูปประเทศ อายุ 85 ปี เป็นประธาน ส.ว.ชั่วคราว จากนั้น ร.อ.ทินพันธุ์ นำเข้าสู่วาระที่ 2 คือ การเลือกประธานและรองประธานวุฒิสภา ใช้ระเบียบข้อบังคับเดียวกับเมื่อปี 2551

แต่ทั้งนี้ พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม สมาชิกวุฒิสภา ลุกขึ้นเพื่อเสนอที่ประชุมหารือกันก่อนที่จะเลือกประธานและรองประธานวุฒิสภา เนื่องจากเห็นว่า ประธานวุฒิสภามีความสำคัญอย่างยิ่งในการทำหน้าที่ร่วมกับสภาผู้แทนราษฎร ดังนั้น จึงมีความจำเป็นที่ต้องได้บุคคลที่มีความรู้ความสามารถ ควบคุมสภาได้ และได้รับการยอมรับจากทุกฝ่าย แต่ ร.อ.ทินพันธุ์ ตัดบทและชี้แจงว่า การประชุมในวันนี้ไม่มีวาระการหารือเรื่องอื่น ซึ่งจะต้องเป็นไปตามข้อบังคับการประชุม และถือว่าวันนี้เป็นวันสำคัญที่ ส.ว. จะได้ทำหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญ

จากนั้น นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ ได้เสนอชื่อนายพรเพชร และมีผู้รับรองตามข้อบังคับการประชุม เพียงคนเดียว แต่เมื่อประธานที่ประชุมจะประกาศชื่อนายพรเพชร เป็นประธานวุฒิสภา พล.อ.อกนิษฐ์ หมื่นสวัสดิ์ เสนอว่า ตามข้อบังคับการประชุมให้นายพรเพชร แสดงวิสัยทัศน์ก่อน ซึ่งนายพรเพชร แสดงวิสัยทัศน์ตอนหนึ่งว่า ขอบคุณสมาชิกทุกคนที่รับรองตนให้เป็นประธานวุฒิสภา และขอบคุณ พล.อ.สมเจตน์ ที่จะให้โอกาสตนแสดงวิสัยทัศน์และประวัติ 

จากนั้น นายพรเพชร แนะนำประวัติการศึกษาและการทำงาน ยืนยันว่าได้เรียนรู้พฤติกรรมสมาชิกที่ได้ทำงานร่วมกันในการพัฒนาและเห็นชอบกฎหมาย และได้รับตำแหน่งอันทรงเกียรติ คือ ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ผ่านกฎหมายมากว่า 500 ฉบับที่มีคุณภาพ ตามหลักนิติธรรม และเชื่อว่าจะทำประโยชน์ให้กับประเทศชาติ สนช.ทุกคนพยายามอย่างเต็มที่และระมัดระวังอย่างมาก เพราะกฎหมายทุกฉบับถูกเฝ้ามองและถูกส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย แต่ก็ผ่านการวินิจฉัย ไม่ขัดกับรัฐธรรมนูญเลยสักฉบับ อย่างไรก็ตาม วุฒิสภา 5 ปี มีภารกิจในการปฏิรูปประเทศตามยุทธศาสตร์ชาติในบทเฉพาะกาล และเมื่อตนมารับตำแหน่งจะต้องทำหน้าที่นี้ให้สมบูรณ์ เพราะสิ่งที่ประชาชนคาดหวัง และมี คสช.ขึ้นมาเพื่อการปฏิรูปประเทศ และจะสานต่อสิ่งที่ สนช.ทำมา นอกจากนี้ การทำงานร่วมกับ ส.ส. คือ หัวใจหลักของ ส.ว. สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ ความตั้งใจและจริงใจที่จะทำงานร่วมกัน เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย ไม่ต้องกังวล ตนจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด สุดท้าย นายพรเพชร ขอกำลังใจและความร่วมมือให้การทำหน้าที่จากสมาชิกวุฒิสภาทุกคน และขอบพระคุณสมาชิกผู้ทรงเกียรติ

จากนั้น นายสุวพันธุ์ เสนอ พล.อ.สิงห์ศึก เป็นรองประธานวุฒิสภา คนที่ 1 เพียงคนเดียว มี ส.ว.ยกมือรับรอง และ พล.อ.สิงห์ศึก ขึ้นเวทีแนะนำประวัติและแสดงวิสัยทัศน์ โดยมีเนื้อหา คือ ตนได้รับเกียรติให้เป็น สนช. และทำหน้าที่มากว่า 58 คณะกรรมาธิการและคณะกรรมการ และได้รับรางวัลต่างๆ มากมายในสังคม ตนเห็นว่า ทุกอย่างตนคิดคนเดียวไม่ได้ ต้องอาศัยองคาพยพร่วมมือกัน ตนขอบคุณเพื่อนสมาชิกทุกคน และเห็นว่าสภาแห่งนี้เป็นสภาอันทรงเกียรติ และทุกคนมีความรู้ความสามารถ ทุกคนจะมีส่วนร่วมในการสร้างสรรค์งาน ภายใต้ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตนจะเป็นผู้ประสานงานที่ดี และสนับสนุนงานของเพื่อนสมาชิก เพื่อเป็นประโยชน์ต่อส่วนร่วมและประเทศชาติ ตามแบบอย่างที่ดีของประเพณีในประเทศไทย

จากนั้น นายสุวพันธุ์ เสนอนายศุภชัย เป็นรองประธานวุฒิสภา คนที่ 2 เพียงคนเดียว และมี ส.ว.ยกมือรับรอง โดยนายศุภชัย แสดงวิสัยทัศน์ มีใจความว่า ตนจะจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความสุจริต และปกป้องเกียรติของสมาชิกวุฒิสภา

ส่วนตำแหน่งคณะกรรมาธิการชุดต่างๆ ในวุฒิสภานั้น มีทั้งหมด 22 ชุด เพิ่มขึ้นจากสมัย สนช. ที่มีแค่ 16 ชุด ซึ่งมีรายงานว่าได้มีการวางตัวประธานกรรมาธิการชุดต่างๆ แล้ว โดยชุดที่ลงตัวแล้ว คือ ด้านสังคม เด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ ที่คาดว่าจะเป็นนายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ อดีต สนช. เป็นประธาน ส่วนกรรมาธิการด้านศาสนา ศิลปะ วัฒนธรรม คาดว่าได้มีการวางตัวนายมหรรณพ เดชวิทักษ์ เป็นประธาน 

ขณะที่นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย และนายพีระศักดิ์ พอจิต อดีตรองประธาน สนช. ที่ไม่มีแนวโน้มโผรายชื่อครั้งนี้ คาดว่าที่ประชุมจะมีการวางตัวให้เป็นประธานกรรมาธิการ แต่ยังไม่ได้กำหนดว่าเป็นชุดใด. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทั่วไทยฝนตกหนัก เตือน 5 จังหวัดเสี่ยงรับมือ

กทม. 23 ส.ค.- กรมอุตุฯ เผยทั่วไทยฝนตกหนัก เตือน 5 จังหวัดเสี่ยงรับมือ เฝ้าระวัง “พายุดีเปรสชัน” มีแนวโน้มทวีกำลังแรงเป็นพายุโซนร้อน กระทบไทย 24-27 ส.ค.นี้ กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่บริเวณภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนโดยเฉพาะบริเวณจังหวัดตาก จันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก และฝนตกสะสมที่อาจเกิดขึ้นในระยะนี้ไว้ด้วย เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศลาวตอนบน และเวียดนามตอนบน สำหรับบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบนมีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อน และจะขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามและประเทศลาวตอนบน ในช่วงวันที่ 25–26 ส.ค. 68 ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มมากขึ้น กับมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ กับมีลมแรงบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และภาคเหนือ ในช่วงวันที่ 24–27 ส.ค. 68 -สำนักข่าวไทย

โปรดเกล้าฯ 6 บิ๊ก ขรก.มหาดไทย “ขจรเกียรติ” นั่งอธิบดีกรมที่ดิน

ทำเนียบ 23 ส.ค.- โปรดเกล้าฯ 6 บิ๊กข้าราชการมหาดไทย “ขจรเกียรติ” นั่งอธิบดีกรมที่ดิน ด้าน “เชษฐา” เป็นอธิบดี ปภ. ราชกิจจานุเบกษา ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงมหาดไทย พ้นจากตำแหน่ง และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน 6 ราย ดังนี้ ตั้งแต่วันที่ 21 ส.ค.2568 เป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 22 ส.ค.2568 ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี -สำนักข่าวไทย

จับอดีตหัวหน้าพรรคการเมืองโกงเงินอุดหนุน ก่อนหนีกบดานลาว

22 ส.ค. – ตำรวจภูธรภาค 1 จับอดีตหัวหน้าพรรคการเมือง โกงเงินอุดหนุน 17.6 ล้านบาท หนีกบดานลาว ก่อนจนมุมถูกจับกุมได้ พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (ผบช.ภ.1), พล.ต.ต.นราเดช ทิพย์รักษ์ รอง ผบช.ภ.1, พล.ต.ต.วรชาติ แสนคำ ผบก.สส.ภ.1, พล.ต.ต.ธรรมนูญ เชาวะวนิชย์ ผบก.ภ.จว.สระบุรี และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พระพุทธบาท, ตม.จว.หนองคาย, กกต.จว.หนองคาย ร่วมกันจับกุม นายพีระวิทย์ อายุ 47 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ สืบเนื่องจากเมื่อปี 2562 นายพีระวิทย์ เป็นหัวหน้าพรรคการเมือง รับเงินอุดหนุนพรรคการเมือง เพื่อพัฒนาพรรคการเมือง จำนวนประมาณ 17.6 ล้านบาท โดยไม่มีการทำหลักฐานการเบิกจ่าย ทำให้ กกต. เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับนายพีระวิทย์ และเหรัญญิกพรรค ต่อมาผู้ต้องหาทั้งสองเข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวน สภ.พระพุทธบาท โดยเลื่อนการเข้าให้ปากคำและแสดงหลักฐานการเบิกจ่ายเงิน และต่อมาผู้ต้องหาทั้งสองได้หลบหนี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงออกหมายจับในข้อหา […]

“ธีรรัตน์” สั่งผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ สแตนด์บาย 24 ชม. รับพายุคาจิกิ

กทม. 22 ส.ค.- “ธีรรัตน์” สั่งการผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ สแตนด์บายรับมือผลกระทบ “พายุคาจิกิ” ตลอด 24 ชั่วโมง ย้ำ ประชาสัมพันธ์ข้อมูลให้ประชาชนรับรู้และเตรียมพร้อมอย่างต่อเนื่อง นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า กระทรวงมหาดไทยโดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้ติดตามสภาวะอากาศร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับผลกระทบพายุโซนร้อน “คาจิกิ” ซึ่งพบว่าพื้นที่บางส่วนมีความเสี่ยงต้องเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม น้ำท่วมขังในเขตชุมชนเมืองที่เกิดน้ำท่วมขังซ้ำซาก ระหว่างวันที่ 24 – 28 สิงหาคม 2568 ในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคใต้ 45 จังหวัด และกรุงเทพมหานคร นางสาวธีรรัตน์ ได้สั่งการผู้ว่าราชการจังหวัด 45 จังหวัด และศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต รวมถึงกรุงเทพมหานคร กำชับให้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศ ปริมาณฝน และสถานการณ์น้ำในพื้นที่อย่างใกล้ชิด พร้อมกำชับให้จัดทีมปฏิบัติการพร้อมเครื่องจักรกลสาธารณภัยเข้าประจำพื้นที่เสี่ยง เพื่อเข้าเผชิญเหตุและให้การช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงทีตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมประกาศแจ้งเตือนและปิดกั้นพื้นที่ไม่ให้บุคคลใดเข้าพื้นที่หากพบว่ามีความเสี่ยง ในส่วนพื้นที่ชายฝั่ง ให้สั่งห้ามนักท่องเที่ยวเล่นน้ำและห้ามเดินเรือทุกชนิดหากสถานการณ์มีแนวโน้มรุนแรง “ให้ผู้ว่าฯ […]

ข่าวแนะนำ

ทีมทนายวัดพระบาทน้ำพุแจงปม “หลวงพ่ออลงกต” สวมบัตร ปชช. คนตาย

ลพบุรี 24 ส.ค. – วัดพระบาทน้ำพุ ตั้งโต๊ะแถลง ยืนยันเลขบัตรประชาชนของ “หลวงพ่ออลงกต” ไม่ซ้ำกับ “อลงกต พลมุข” ปัดตอบปมเลขบัตรประชาชนผู้เสียชีวิต ผูกพร้อมเพย์บัญชีมูลนิธิฯ ขอไปตรวจสอบก่อน ส่วนทางคดี จับตาสัปดาห์หน้า จะมีผู้ถูกดำเนินคดีมากกว่า 1 คน วันนี้ ที่วัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี นายศุภชัย สิงคาลวานิช หัวหน้าทีมทนายความของวัดพระบาทน้ำพุ พร้อมตัวแทนมูลนิธิต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับวัดพระบาทน้ำพุ ร่วมกันแถลงข่าวชี้แจงข้อเท็จจริงต่างๆ เป็นครั้งแรก โดยบอกว่าวันนี้ หลวงพ่ออลงกตไม่ได้หลีกเลี่ยงที่จะมาให้สัมภาษณ์ แต่ครั้งนี้มีข้อมูลมาก มีปัญหาเรื่องข้อกฎหมายและปัญหาที่ซับซ้อนหลายอย่าง หากตอบไปอาจกระทบต่อคดี และยืนยันว่า หลวงพ่อมีเจตนาบริสุทธิ์ในการช่วยเหลือผู้ป่วย เด็กกำพร้า ผู้สูงอายุ ผู้ด้อยโอกาส กลุ่มเปราะบางในสังคม ซึ่งขณะนี้สังคมเข้าใจผิดในหลายเรื่อง เพราะเกิดการชี้นำของหลายเพจ กลุ่มผู้มีอิทธิพลในบางสื่อ นำเรื่องมาปะติดปะต่อจนสร้างความเสียหาย ส่วนประเด็นที่กำลังเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ เรื่องที่หลวงพ่ออลงกต สวมชื่อและเลขบัตรประชาชน “อลงกล พลมุข” ข้าราชการที่เสียชีวิตไปแล้วนั้น ทีมทนาย เปิดเผยว่า หลวงพ่ออลงกต มีบัตรประชาชนของท่านเอง และนามสกุลของท่าน […]

สกัดจับขบวนการค้ามนุษย์ ลอบขนคนไทยไปเขมร

สระแก้ว 24 ส.ค. – ทหารพรานลาดตระเวนชายแดนไทย-กัมพูชา บ้านกุดหิน ต.คลองน้ำใส อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว สกัดจับคนไทย 10 คน ขณะลักลอบเข้ากัมพูชา เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นขณะเจ้าหน้าที่กำลังลาดตระเวนตามแนวชาย เพื่อสกัดกั้นสิ่งผิดกฎหมายที่จะแอบลักลอบขนข้ามแดน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตรวจพบรถยนต์ต้องสงสัย 2 คัน ประกอบด้วย รถยนต์ โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์สีขาว (ไม่ทราบทะเบียน) และ รถยนต์เก๋ง สีดำ ทะเบียนกรุงเทพมหานคร ซึ่งทั้งขับผ่านเข้ามาในพื้นที่ล่อแหลม โดยรถยนต์ โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์สีขาว ได้จอดให้คนเดินลงมาจากรถ และเดินเข้าป่าไป จำนวน 6 คน ประกอบด้วย คนนำพา 1 คน และผู้ลักลอบ 5 คน โดยทั้งหมดเป็นคนไทย ซึ่งเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัวไว้ได้ ส่วนรถยนต์เก๋งสีดำที่ขับตามมา เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ จึงขับหลบหนี แต่เจ้าหน้าที่สามารถสกัดจับไว้ได้ (ห่างจากจุดแรกประมาณ 200 เมตร) จากการตรวจสอบภายในรถพบคนไทย 4 คน […]

พบหลุมจรวด BM-21 ที่ยังไม่ระเบิด ใกล้ศูนย์เด็กเล็ก

อุบลราชธานี 24 ส.ค. – พบหลุมจรวด BM-21 ที่ยังไม่ระเบิด ใน อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี อยู่ริมสระน้ำใกล้ศูนย์เด็กเล็ก เพียง 100 เมตร จากกรณีที่กัมพูชา ยิงจรวด BM–21 เข้าใส่ชุมชน บ้านเรือนประชาชน ในฝั่งไทย จนนำไปสู่การสูญเสียชีวิต และทรัพย์สิน ของประชาชนคนไทย เมื่อช่วงปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ซึ่งปัจจุบันผลกระทบจากจรวด BM–21 ต่อประชาชน คนไทย ยังคงมีอยู่ ภาพจากกล้องวงจรปิดที่บันทึกไว้ได้จากบ้านหลังหนึ่ง ในอำเภอน้ำยืน จ.อุบลราชธานี เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ซึ่งขณะนั้นกัมพูชาได้ยิงจรวด BM-21 เข้ามาตกในเขตชุมชนฝั่งไทย โดยเหตุการณ์ครั้งนั้น มีจรวด BM-21 ตกมาทั้งหมด 11 ลูก 2 ใน 11 ลูก ตกใส่บ้านประชาชน จนบ้านพังเสียหายทั้งหมด 2 หลัง และมี 1 […]

“มาริษ” จ่อบินเจนีวา แจงประเทศกลุ่มสัญญาอนุภาคี

สวีเดน 24 ส.ค.-“มาริษ” เตรียมบินเจนีวาต่อ แจงประเทศกลุ่มสัญญาอนุภาคี-องค์การสิทธิมนุษยชน-กาชาด ย้ำไทยรักสันติ ทำตามกฎหมายระหว่างประเทศ ฟ้องเขมรใช้ทุ่นระเบิด-โจมตีพลเรือนไทย นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่าหลังการเยือนสวีเดนอย่างเป็นทางการแล้วจะเดินทางไปเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ในวันที่ 26 ส.ค.นี้ โดยมีเป้าหมายหลัก 3 ประการคือ ไปชี้แจงให้กับประเทศกลุ่มสัญญาอนุภาคีให้เข้าใจสถานการณ์ไทย-กัมพูชา ซึ่งกัมพูชาใช้ยุทธศาสตรฺของการใช้ วัตถุระเบิดสังหารบุคคน ที่ขัดต่อกฎหมายระหว่างประเทศ และอนุสัญญาออตตาวาและในโอกาสนี้จะพบกับสำนักงานข้าหลวงใหญ่สืทธิมนุษยชน ซึ่งเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการใช้ทุ่นระเบิดสังหาร การละเมิดสิทธิมนุษยชนด้วยการโจมตีเป้าหมายพลเรือน ของกัมพูชา รวมทั้งการใช้โซเชียลมีเดีย ซึ่งเมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา คณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ (icrc )ก็ได้ออกมาพูดชัดเจนว่าไม่เห็นด้วยอย่างมาก และไม่สนับสนุนให้มีการใช้สงครามข่าวสารในการต่อสู้ โดยใช้พลเรือนเป็นตัวกระทำให้เกิดความเข้าใจผิดระหว่างกัน ซึ่งในโอกาสนี้ตนจะได้พบปะกับประธาน crc พอดี ซึ่งเคยพบกันที่กรุงเทพมหานครแล้ว และทางประธานทราบว่าตนจะมาเจนีวาก็สามารถมาพูดคุยกันต่อได้ ซึ่งจะได้อธิบายทั้ง 2 ประการเหล่านี้เพราะ icrc เป็นองค์กรหลักที่ดูกฎหมายระหว่างประเทศ ซึ่งทั้งสามองค์กรที่เราวางกลยุทธ์ จะเข้ามาพูดคุย ชี้แจงก็เพื่อยืนยัน ใน ท่าทีบทบาท ของประเทศไทยที่ชัดเจนว่าเราเป็นประเทศ ที่รักสันติ เราต้องการ แก้ไขปัญหาระหว่างกันอย่างสันติวิธี แต่ต้องมีความจริงใจ […]