ชุมพร 24 พ.ค.-ครูสาวดีกรีนักกีฬายิงปืนทีมชาติ หอบความช้ำใจร้องศูนย์ดำรงธรรมชุมพร หลังถูก ผอ. บังคับเป็นทอมแอบคบนานนับ 10 ปี ยอมทำตามทุกอย่าง แต่กลับถูกกลั่นแกล้งบีบให้ลาออก
กรณีดังกล่าวได้รับการเปิดเผยจากครู อายุ 44 ปี ในโรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.สวี จ.ชุมพร และเป็นนักกีฬายิงปืนทีมชาติไทย เข้าร้องทุกข์ต่อเจ้าหน้าที่ของศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดชุมพร เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคมที่ผ่านมา เพื่อขอความเป็นธรรมให้กับตนเอง และต้องการเอาเรื่องให้ถึงที่สุด เพื่อเป็นตัวอย่างให้กับข้าราชการไทย โดยเฉพาะข้าราชการครู
ครูคนดังกล่าวให้ข้อมูลว่า ตนเองเป็นครูอัตราจ้าง แต่ได้รับมอบหมายมาทำหน้าที่ด้านธุรการให้กับโรงเรียนแห่งหนึ่ง ซึ่งทำหน้าที่นี้มานานกว่า 10 ปี และตลอดระยะ 10 กว่าปี ได้แยกกันอยู่กับสามี ซึ่งเป็นข้าราชการตำรวจ เพราะสามีไปมีภรรยาน้อยหลายคน แต่ยังไม่ได้จดทะเบียนหย่าขาดจากกัน และตนเป็นผู้รับภาระเลี้ยงลูก 2 คน ส่วนสามีก็ไปมีลูกกับภรรยาคนใหม่
กระทั่งวันหนึ่งตนเองได้ชอบพอกับผู้อำนวยการโรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.หลังสวน ซึ่ง ผอ.คนดังกล่าวได้แยกกันอยู่กับภรรยาเช่นกัน แต่ไม่ได้จดทะเบียนหย่าขาดเหมือนกับตนเอง คบกันนานกว่า 9 ปี และ ผอ. ได้ขอร้องให้ตนตัดผมสั้นเหมือนผู้ชาย โดยให้เหตุผลว่าเพื่อจะได้ไปไหนมาไหนด้วยกันได้อย่างสบายใจยิ่งขึ้น ด้วยซื่อสัตย์และไว้ใจ จึงยอมตัดผมสั้น รัดหน้าอก ให้ดูเหมือนทอม
ครูวัย 44 ปี เล่าต่อว่า เงินที่ได้จากเบี้ยเลี้ยงนักกีฬาปีละนับล้านบาทและเงินเดือนจะเอามาปรนเปรอ ผอ. สุดท้าย ผอ. ก็แอบคบกับครูคนใหม่ ซึ่งอยู่อีกโรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.สวี เพราะเห็นจากหลักฐานโทรศัพท์มือถือ แต่ด้วยความรักและคบกันมานานหลายปี จึงต้องทนและยอมทุกอย่าง
จากนั้นทาง ผอ. เริ่มหาเรื่องตนหนักขึ้น แม้กระทั่งไปแจ้งความกับตำรวจว่าตนพกพาอาวุธปืน ล่าสุดไปฟ้องสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา ชุมพร เขต 2 ทาง ผอ.เขต ก็เรียกตนเองและ ผอ. มาพบแล้วให้ทำหนังสือขึ้นมา 1 ฉบับ ลงวันที่ 23 เมษายนที่ผ่านมา โดยระบุเชิงบังคับตนไม่ให้เข้าไปยุ่งเกี่ยวเรื่องส่วนตัวของ ผอ. และห้ามนำข้อมูลต่างๆ ที่ไม่ดีไปเผยแพร่ผ่านทางอินเทอร์เน็ตหรือโซเชียล รวมทั้งห้ามพูดให้บุคคลอื่นได้ฟัง ลงชื่อร่วมกันทั้ง 2 คน โดยมีรอง ผอ.เขต ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของ ผอ. เป็นคนทำบันทึกดังกล่าว ตนต้องยอมเซ็นทั้งๆ ที่ไม่เต็มใจ เพราะขณะนั้นรอง ผอ.เขต คือคนที่จะต้องเซ็นสัญญาจ้างตนทำงานต่อ
หลังจากนั้นครูสาวจึงตัดสินใจมาร้องศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดชุมพร เพื่อขอความเป็นธรรม เนื่องจากฝ่ายชายเป็นข้าราชการระดับผู้บริหาร มีการย่ำยีจิตใจและไม่เป็นแบบอย่างที่ดี โดยตนพร้อมให้ความร่วมมือในการสอบสวน
ขณะที่เจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรมกล่าวว่า หลังรับเรื่องร้องเรียนจะได้รวบรวบพยานหลักฐานทั้งหมด จากนั้นจะแจ้งไปยังต้นสังกัดให้ดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริงต่อไป.-สำนักข่าวไทย