“บ้านเชียง” ทำบุญบรรพบุรุษควายไทยหลุมขุดค้นพบอายุกว่า 2 พันปี

อุดรธานี 14 พ.ค.- อุดรธานีจัดกิจกรรมวันอนุรักษ์ควายไทย 14 พ.ค. ชมควายสวยงามของเกษตรกร และร่วมทำบุญอุทิศกุศลบรรพบุรุษควายที่หลุมขุดค้นสมัยบ้านเชียง อายุกว่า 2,000 ปี เล็งพัฒนาอีกมิติเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงวิถีชีวิต นอกจากมาชมไหโบราณ  


วันนี้ (14 พ.ค.) ที่วัดโพธิ์ศรีใน ต.บ้านเชียง อ.หนองหาน จ.อุดรธานี นายทศพร ศรีศักดิ์ นายกสมาคมอนุรักษ์และพัฒนาควายไทย นำเกษตรกรผู้เลี้ยงควาย ร่วมทำบุญอุทิศส่วนกุศลแก่ควายที่ล้มตาย และทำพิธีบายศรีสู่ขวัญควายเลี้ยงของเกษตรกร เนื่องในวันอนุรักษ์ควายไทย 14 พ.ค. จากนั้นเข้าเยี่ยมชมหลุมขุดค้นโบราณคดี ซึ่งขุดพบโครงกระดูกบรรพบุรุษควาย สมัยบ้านเชียงอายุ 2,300 ปีก่อนประวัติศาสตร์ ถูกฝังไปพร้อมกับศพมนุษย์

นอกจากนี้ ในกิจกรรมยังเกษตรกรนำควายสวยงามมาร่วมด้วย เช่น “เจ้าภูพญา” เพศผู้ อายุ 5 ปี เป็นควายงามตัวใหญ่  “เจ้าเทอร์โบ” อายุ 3 ปี  และเจ้าทองก้อน เพศเมีย เพิ่งตกลูกเป็นตัวผู้ อายุ 5 เดือน รวมทั้งควายเผือก


น.ส.เบญพร สารพรม หัวหน้าพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติบ้านเชียง กล่าวว่า การขุดค้นพบโครงกระดูกมนุษย์และสัตว์เลี้ยงโบราณ จนได้เป็นมรดกโลกเมื่อปี พ.ศ.2518  ซึ่งเป็นโครงกระดูกตระกูลกระบือและโค เชื่อว่าเป็นเรื่องราวที่ฝังไปพร้อมกับศพเจ้าของ โดยคนบ้านเชียงสมัยก่อนเป็นเกษตรกร มีการนำควายมาใช้ในการไถนา แต่โครงกระดูกควายที่พบในหลุมฝังศพไม่มีหัว และควายที่เจอในหลุมฝังศพพบว่าแตกต่างจากควายป่า น่าจะเป็นควายเลี้ยง อาจเป็นไปได้ว่าบริเวณนี้มีบรรพบุรุษควายอยู่เช่นกัน นอกจากควายแล้วก็มีวัว หมู มีไก่และสุนัข น่าจะเป็นสัตว์ที่คนบ้านเชียงเลี้ยงไว้ และฝังไว้กับเจ้าของที่ตายไป ตามความเชื่อว่าการฝังสัตว์เลี้ยงไปกับคนตายสมัยก่อนคนตายจะได้เอาสิ่งของเหล่านี้ไปใช้ในภพหน้าได้ด้วย

นายทศพร ศรีศักดิ์ นายกสมาคมอนุรักษ์และพัฒนาควายไทย กล่าวว่า วันนี้กลุ่มผู้เลี้ยงควายไทยได้รวมตัวกันจัดกิจกรรมพิธีบายศรีสู่ขวัญควาย ทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้ควายที่ตายไปแล้ว ซึ่งถือเป็นสัตว์เลี้ยงที่อยู่คู่เกษตรกรไทยมาแต่โบร่ำโบราณ การมาจัดกิจกรรมที่นี่ยังได้มาดูบรรพบุรุษควายตามหลักฐานที่ขุดพบพร้อมกับโครงกระดูกมนุษย์โบราณบ้านเชียง 5,000 ปีด้วย เชื่อว่าควายอยู่กับมนุษย์มาก่อนสมัยประวัติศาสตร์แน่นอน นอกจากนี้ เกษตรกรที่อุดรธานีเลี้ยงควายเพิ่มขึ้นมียอดทั่วจังหวัดประมาณ 60,000 ตัว ต่อไปนี้มาบ้านเชียงนอกจากจะได้ชมไหและโครงกระดูกมนุษย์โบราณแล้ว หากมีการพัฒนาก็จะเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงวิถีชีวิต หรืออาจนั่งควายชมท้องทุ่งได้ด้วย.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย