อสมท ย้ำชัดต้องศึกษาความคุ้มค่าก่อนคืนใบอนุญาต

กรุงเทพฯ 25 เม.ย. – อสมท ย้ำชัดต้องศึกษาความคุ้มค่าก่อนคืนใบอนุญาต  คาดสรุปจับมือพันธมิตรไทย-ตปท.ลงทุนพัฒนาที่ดิน 50 ไร่ ปลายปีนี้


นายเขมทัตต์ พลเดช กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยภายหลังการประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2562 บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) ว่า ได้รับฟังข้อสังเกตและข้อคิดเห็นของผู้ถือหุ้นเกี่ยวกับการบริหารจัดการภายใน การบริหารทรัพย์สิน ที่ดิน 70 ไร่ และประกาศคำสั่ง คสช. มาตรา 44 เมื่อวันที่ 11 เมษายน 2562 เกี่ยวกับการแก้ปัญหากิจการโทรคมนาคมและทีวีดิจิทัล

ทั้งนี้ ได้มีการชี้แจงให้ที่ประชุมฯ รับทราบว่า ขณะนี้ อสมท ยังไม่ได้ข้อสรุปที่ชัดเจน ต้องรอประชุมคณะอนุกรรมการยุทธศาสตร์ ในวันที่ 8 พฤษภาคม 2562 ก่อนถึงจะให้คำตอบได้ว่าจะคืนช่องหรือไม่ แม้ว่า กสทช.จะกำหนดแจ้งสิทธิ์คืนช่องภายในวันที่ 10 พฤษภาคม 2562 แต่มองว่ายังมีเวลาตัดสินใจ เพราะต้องประเมินว่า ระยะยาวแล้วระหว่างคืนช่องกับออกอากาศต่อ จะต้องใช้เงินลงทุนด้านคอนเทนต์เท่าไร คุ้มค่าหรือไม่


ส่วนแผนการพัฒนาที่ดินเปล่าขนาด 50 ไร่ ติดถนนเทียมร่วมมิตรใกล้ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย คาดจะได้ข้อสรุปในช่วงปลายปีนี้ หรืออย่างช้าช่วงต้นปี 2563 โดยขณะนี้มีภาคเอกชนทั้งไทย จีน เกาหลี และอังกฤษ ที่ให้ความสนใจ โดยอยู่ระหว่างพิจารณาถึงความเหมาะสมว่ารูปแบบของการพัฒนาโครงการ ส่วนที่ดิน 20 ไร่ ซึ่งเป็นที่ตั้งของ บมจ.อสมท ในปัจจุบันนั้นจะพิจารณาตามแผนการพัฒนาที่ดินให้มีความเหมาะสม และมีผลตอบแทนในระยะยาวมากกว่าเดิม ด้านที่ดินบางไผ่ จะมีการลงทุนเพิ่มเติม โดยได้ซื้อที่ดินเพื่อเป็นทางเข้าออกให้ที่ดินผืนเดิมแล้ว

ด้านภาพรวมแผนงานในปี 2562 อสมท จะมุ่งเน้นธุรกิจใหม่ๆ โดยในช่วงเดือนหน้า ธุรกิจโทรทัศน์จะมีการปรับผังรายการโทรทัศน์ใหม่ พร้อมมองว่าธุรกิจโทรทัศน์ยังทรงตัว จึงจำเป็นต้องพยายามคัดเลือกคอนเทนต์ที่น่าสนใจมาให้ผู้ชม ส่วนธุรกิจวิทยุจะเปลี่ยนแพลตฟอร์มใหม่ๆ ซึ่งพฤษภาคมนี้ เตรียมเปิดตัวแอปพลิเคชันใหม่ ชื่อ “WHAM” แอปพลิเคชันสำหรับฟังเพลง ที่รวมค่ายเพลงขนาดเล็กและขนาดใหญ่ทั่วประเทศเข้ามาไว้ด้วยกัน และเปิดตัวแอปพลิเคชัน “คู่หู” ซึ่งเป็นแอปพลิเคชันในการฟังเพลงเช่นกัน เชื่อว่าจะเข้ามาช่วยผลักดันผลประกอบการของบริษัทอีกทางหนึ่ง


สำหรับการคืนคลื่นความถี่ย่าน 2600 เมกะเฮิรตซ์ (MHz) ก็ยังไม่ได้ข้อสรุปเกี่ยวกับมูลค่าการเยียวยาว่าจะมากน้อยเพียงใด โดยคาดว่าจะได้ข้อสรุปที่ชัดเจนจากสำนักงานกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ในช่วงครึ่งปีหลัง . – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผู้ใหญ่บ้านมอบตัว คดียิงชายใหม่ของเมียเก่า ดับคากระบะ

นนทบุรี 20 พ.ค. – ผู้ใหญ่บ้านหึงโหด บุกยิงกิ๊กของอดีตภรรยา 6 นัด เสียชีวิตคารถกระบะ มอบตัวแล้ว เบื้องต้นถูกแจ้งหลายข้อหาหนัก ขณะที่เจ้าตัวฝากขอโทษครอบครัวผู้เสียชีวิต นายอานนท์ อายุ 40 ปี ผู้ใหญ่บ้านแห่งหนึ่งใน อ.องครักษ์ จ.นครนายก หึงโหด บุกยิงนายพลาธิป อายุ 34 ปี อาชีพขับรถส่งหมู ซึ่งเป็นกิ๊กของอดีตภรรยา เสียชีวิตภายในรถกระบะที่จอดอยู่ในซอยลาดปลาดุก ถนนบางไผ่-หนองเพรางาย ต.บางบัวทอง อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี เหตุเกิดเมื่อเวลา 21.30 น.ที่ผ่านมา (19 พ.ค.) จากภาพจะเห็นว่าเมื่อเวลา 21.02 น. เห็นผู้ตายขับรถกระบะมาจอดริมทาง ก่อนมีรถกระบะสีดำอีกคันตามมาจอดปิดท้าย จากนั้นผู้ก่อเหตุอยู่ในชุดสวมเสื้อยืดสีดำ กางเกงขาสั้น เดินลงจากรถ ใช้อาวุธปืนยิงใส่ผู้ตายที่ยังนั่งอยู่ในรถ แล้วหลบหนีไป ช่วงสายที่ผ่านมา (20 พ.ค.) พนักงานสอบสวน สภ.บางบัวทอง เบิกตัวนายอานนท์ ผู้ก่อเหตุ มาสอบปากคำเพิ่มเติมอีกครั้ง หลังเมื่อราวตี […]

ขุดลึกลงไป 5 เมตร ยังไม่พบผู้สูญหาย

กทม. 19 พ.ค.-ทีมค้นหาฝังแผ่นเหล็กชีทไพล์ รอบหลุมเสาเข็ม เพื่อขุดค้นหาผู้ประสบเหตุ ซึ่งขุดลึกลงไป 5 เมตร ยังไม่พบผู้สูญหาย เวลา 17.00 น. เจ้าหน้าที่ทีมค้นหา ทั้ง กรมป้องกัน และบรรเทาสาธารณะภัย (ปภ.) Usar Thailand เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู และบริษัทรับเหมาเจาะเสาเข็ม ได้ใช้แบคโฮ เริ่มฝังแผ่นเหล็กชีทไพล์ ความยาวประมาณ 16 เมตร รอบหลุมเสาเข็ม 4 ด้าน เพื่อป้องกันดินสไลด์ปิดทับปากหลุมที่รถแบ็คโฮจะทำการขุด เพื่อค้นหาผู้ประสบเหตุ โดยการฝั่งแผ่นชีทไพล์ รอบหลุมเสาเข็ม เนื่องจากการประเมินของเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญทางด้านวิศวกรรม พบว่าดินที่สไลด์ลงมาส่งผลกระทบรุนแรงต่อโครงสร้างอาคาร และเสาไฟฟ้า ในบริเวณที่เกิดเหตุ ดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกันปัญหาอาคารทรุดตัว เอน และ พังถล่ม จึงจำเป็นต้องนำแผ่นชีทไพล์มากั้น ก่อนทำการขุดดิน และเริ่มค้นหาผู้ประสบเหตุ และหลังจากฝังชีทไพล์ เสร็จสิ้นในเวลา 18.30 น. โดยก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ได้นำเครื่องโซน่า ลงไปในหลุม เพื่อค้นหาร่างผู้ประสบเหตุ ซึ่งจากการใช้ โซน่าสแกน ร่างของผู้ประสบเหตุ ฝังอยู่ในหลุมลึก […]

พบศพ “ดีเจเตเต้” ถูกอุ้มมัดมือไพล่หลังทิ้งกลางไร่อ้อย

กาญจนบุรี 18 พ.ค. – พบแล้วศพ “ดีเจเตเต้” ถูกอุ้มมัดมือไพล่หลัง นำศพทิ้งกลางไร่อ้อย เมืองกาญจน์ หลังครอบครัวแจ้งช่วยตามหาตัวตั้งแต่คืนวันที่ 14 พ.ค. ตั้งปมสังหารเรื่องชู้สาว ความคืบหน้ากรณี “ดีเจเตเต้” ถูกขับรถตามประกบ ก่อนอุ้มขึ้นรถหายตัวไป เหตุเกิดเมื่อเวลา 03.53 น. ของวันที่ 14 พ.ค. ภายในหมู่บ้านแห่งหนึ่งริมถนนแสงชูโต ต.ท่ามะขาม อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ซึ่งหลังเกิดเหตุพ่อของดีเจเตเต้ ได้ออกมาอัดคลิปลงเฟซ บุ๊กเพื่อขอความช่วยเหลือในการตามหาตัวลูกชายที่หายตัวไป ก่อนที่ล่าสุดจะพบว่า กลายเป็นศพอยู่กลางไร่อ้อยเชิงเขาบ้านทุ่งนานางหรอก โดยวันนี้เวลาประมาณ 10.30 น. นายธนพล เสือส่าน กำนันบ้านทุ่งนานางหรอก ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าพบศพอยู่บริเวณไร่อ้อย หมู่ 3 บ้านทุ่งนานางหรอก ต.ลาดหญ้า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี คนที่ไปเจอ เป็นน้าชายของนายกอล์ฟคนในหมู่บ้าน ที่ออกไปหาของป่าแล้วไปเจอศพ ในสภาพนอนตะแคง ถูกมือถูกมัดไขว้หลัง แล้วมาบอกหลานชายคือนายกอล์ฟไปดูด้วยกัน แล้วนายกอล์ฟจึงแจ้งให้กำนันทราบ ทางกำนันก็แจ้งเรื่องต่อไปยังตำรวจ สภ.ลาดหญ้า ซึ่งเบื้องต้นศพสวมเสื้อผ้าตรงกับที่เป็นข่าว […]

หาความจริง “แก๊งแม่ชีพันล้าน” ยันไม่ใช่เรื่องจริง

สมุทรสาคร 18 พ.ค. – วงการสงฆ์ยังไม่แผ่ว กระแสแก๊งแม่ชีพันล้านโผล่อีก สำนักพุทธลงตรวจสอบแล้ว แม่ชีที่ถูกกล่าวหา ตอบได้ทุกคำถาม ยืนยันไม่ใช่เรื่องจริง จากกระแสเมื่อวานนี้ (17 พ.ค.) มีเพจหนึ่งนำภาพกลุ่มแม่ชีหลายภาพพร้อมกองธนบัตร และภาพแม่ชีที่แอดมินระบุอ้างว่าเป็นการใส่วิกผม มาโพสต์ลงโซเชียล พร้อข้อความเขียนแจงอย่างละเอียดว่า กรณีมีเพจดังโพสต์ภาพแม่ชีพร้อมข้อความระบุข้อความเด็ดว่า ทำนองว่า “แก๊งแม่ชีพันล้านคุมวัดเบ็ดเสร็จไร้เงาพระ! 1. แม่ชี 2 พี่น้องบริหารวัดลำพังไม่มีไวยาวัจกร ไม่มีกรรมการ ไม่มีมัคทายก ครอบครองที่ดินนับพันไร่แต่ชื่อเจ้าของไม่ใช่วัด บางแปลงเป็นชื่อแม่ชี อาจเข้าข่าย “ถือครองแทน” หรือใช้วัดบังหน้า? ยอดกฐินปีละเกือบ 100 ล้าน! รายชื่อผู้บริจาคซ้ำๆ เดิมๆ ส่วนใหญ่เป็นแม่ชี-คนในวัด ไม่มีอาชีพ ไม่มีธุรกิจ แต่ “บริจาคเป็นล้านทุกปี” ระบบโบนัสแม่ชีสาวช่วยหาทุนได้มาก พาเที่ยวรีสอร์ตหรูปีละครั้ง ใส่วิกเต็มยศ นั้น วันนี้ผู้สื่อข่าวพร้อม นส.สวาท แซ่ตัน ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนา จ.สมุทรสาคร นายอิทธิธร สีเหลือง นักวิชาการศาสนาปฏิบัติการ เดินทางไปที่วัดที่แม่ชีในภาพบวชอยู่ ต.บางโทรัด […]

ข่าวแนะนำ

“แพทองธาร” ลั่น สส.ย้ายพรรค อยู่ที่ความสมัครใจ เหมือนย้ายองค์กร

ทำเนียบ 20 พ.ค.-“แพทองธาร” ลั่น สส.ย้ายพรรค อยู่ที่ความสมัครใจ ห้ามไม่ได้ เปรียบเหมือนสมัครงาน-ย้ายองค์กร หาสิ่งที่ใช่ นี่เป็นวงการของเรา วงการการเมือง นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์หลังการประชุมคณะรัฐมนตรี ถึงกรณีที่ฝ่ายค้านวิจารณ์ว่า นายกฯ ปล่อยให้ พรรคร่วมรัฐบาลดูด สส. เพื่อมาสนับสนุนรัฐบาล ซึ่งก่อนหน้านี้ นายกฯ ระบุว่า ไม่อยากเห็นภาพการซื้อ สส. มาร่วมรัฐบาล โดยนายกฯ ย้อนถามสื่อว่า แล้วเขาซื้อหรือไม่ ขณะที่สื่อตอบกลับว่า ไม่ได้ซื้อ นายกฯ จึงกล่าวว่า เขามาด้วยความสมัครใจใช่หรือไม่ สื่อจึงตอบว่า ถ้ามาด้วยความสมัครใจได้ใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับแต่ละพรรคจัดการ ซึ่งต้องไปถามหัวหน้าพรรคแต่ละพรรค ว่าจัดการแบบไหน และอยากได้ใครเข้ามาเพิ่ม “เส้นทางการเมืองที่ดิฉันพบเจอมา เป็นความเชื่อ เป็นความเข้าใจของแต่ละคน ว่าเวลานั้นรู้สึกว่าสังกัดพรรคไหนแล้วเป็นตัวเอง สังกัดพรรคไหนแล้วตอบโจทย์ เหมือนกับเราสมัครงาน ถ้าเราสมัครที่ไหนแล้วรู้สึกว่าใช่ องค์กรนี้ใช่เราหรือไม่ ก็ห้ามไม่ได้ว่าใครจะอยากย้ายไปองค์กรไหน สื่อจะอยู่สื่อเดิมหรือสื่อใหม่ก็ย้ายได้เช่นกัน เป็นสิ่งที่แล้วแต่ทุกคนจะชอบ นี่เป็นวงการของเรา […]

ผู้ใหญ่บ้านมอบตัว คดียิงชายใหม่ของเมียเก่า ดับคากระบะ

นนทบุรี 20 พ.ค. – ผู้ใหญ่บ้านหึงโหด บุกยิงกิ๊กของอดีตภรรยา 6 นัด เสียชีวิตคารถกระบะ มอบตัวแล้ว เบื้องต้นถูกแจ้งหลายข้อหาหนัก ขณะที่เจ้าตัวฝากขอโทษครอบครัวผู้เสียชีวิต นายอานนท์ อายุ 40 ปี ผู้ใหญ่บ้านแห่งหนึ่งใน อ.องครักษ์ จ.นครนายก หึงโหด บุกยิงนายพลาธิป อายุ 34 ปี อาชีพขับรถส่งหมู ซึ่งเป็นกิ๊กของอดีตภรรยา เสียชีวิตภายในรถกระบะที่จอดอยู่ในซอยลาดปลาดุก ถนนบางไผ่-หนองเพรางาย ต.บางบัวทอง อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี เหตุเกิดเมื่อเวลา 21.30 น.ที่ผ่านมา (19 พ.ค.) จากภาพจะเห็นว่าเมื่อเวลา 21.02 น. เห็นผู้ตายขับรถกระบะมาจอดริมทาง ก่อนมีรถกระบะสีดำอีกคันตามมาจอดปิดท้าย จากนั้นผู้ก่อเหตุอยู่ในชุดสวมเสื้อยืดสีดำ กางเกงขาสั้น เดินลงจากรถ ใช้อาวุธปืนยิงใส่ผู้ตายที่ยังนั่งอยู่ในรถ แล้วหลบหนีไป ช่วงสายที่ผ่านมา (20 พ.ค.) พนักงานสอบสวน สภ.บางบัวทอง เบิกตัวนายอานนท์ ผู้ก่อเหตุ มาสอบปากคำเพิ่มเติมอีกครั้ง หลังเมื่อราวตี […]

ครม. เคาะตั้ง “ชูศักดิ์” คุมดีเอสไอ แทน “ทวี”

ทำเนียบ 20 พ.ค.- ครม. เคาะ “ชูศักดิ์” คุมดีเอสไอ แทน “ทวี” หลังศาล รธน.สั่งหยุดทำหน้าที่ชั่วคราว คดีฮั้วเลือก สว. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่มีน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน มีมติมอบหมายให้นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทนในการบริหารสั่งการกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) หลังจาก พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ถูกศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ในฐานะกำกับดูแลดีเอสไอ และรองประธานคณะกรรมการคดีพิเศษ จากกรณีที่สมาชิกวุฒิสภา (สว.) จำนวนหนึ่งเข้าชื่อเสนอคำร้องต่อประธานวุฒิสภา ว่า พ.ต.อ.ทวีใช้ดีเอสไอเป็นเครื่องมือแทรกแชงกระบวนการตรวจสอบการเลือกสมาชิกวุฒิสภา ส่วนกรณีของนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ซึ่งนายกรัฐมนตรี ได้เคยมอบหมายให้ดูแลรับผิดชอบกระทรวงยุติธรรมอยู่แล้ว สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เห็นว่าได้รับมอบหมายให้ดูแลด้านความมั่นคง ซึ่งรวมถึงกรมสอบสวนคดีพิเศษอยู่แล้วจึงไม่จำเป็นต้องขอมติที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ในการมอบหมายอีก .-316 -สำนักข่าวไทย

คนงานตกหลุม

เร่งช่วยคนงานตกหลุมเสาเข็ม เปิดหน้าดินค้นหา

20 พ.ค.- เร่งช่วยคนงานตกหลุมเสาเข็ม ไซต์งานก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้ม สถานีหลานหลวง เจ้าหน้าที่ทำการเปิดหน้าดินค้นหาต่อเนื่อง เบื้องต้นยังไม่พบ สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกรุงเทพมหานคร (สปภ.กทม.) เปิดเผยว่า จากเหตุคนงานตกหลุมเสาเข็มขณะก่อสร้างรถไฟฟ้าปฏิบัติการช่วยเหลือตั้งแต่ช่วงค่ำวานนี้ (19 พ.ค. 2568) มีการปักเหล็กชีทไพล์ (Sheet Pile) เพื่อป้องกันการสไลด์ของหน้าดิน ทำระบบค้ำยันเบรสซิ่ง (Bracing) ป้องกันเหล็กชีทไพล์พังทลายจากแรงอัดมวลดิน ควบคู่กับการใช้รถแบ็กโฮเปิดหน้างานเพื่อค้นหาร่างผู้สูญหาย เวลา 07.00 น. วันนี้ (20 พ.ค.2568) ทีมช่างของผู้รับเหมาได้ทำเวลเลอร์ที่ระดับความลึก 6 เมตร เพื่อป้องกันเหล็กชีทไพล์ (Sheet Pile) พังทลาย เนื่องจากพื้นที่ทำงานจำกัดจึงใช้อุปกรณ์ Auger ทำการเปิดหน้าดินหลุมดินด้านข้างเพื่อให้ดินสไลด์ออกด้านข้างแทน .-สำนักข่าวไทย