ตั้งกรรมการสอบ ตร.จร.เก็บค่าจอดรถหน้าหมอชิตรู้ผลใน7วัน

กรุงเทพฯ 22 เม.ย.- หนุ่มรถทัวร์ ถูกตำรวจเรียกเก็บค่าจอดรถหน้าหมอชิต เข้าให้ปากคำ ขณะที่ผู้การจราจรตั้งกรรมการสอบรู้ผลภายใน 7 วันชี้พฤติกรรมแบบนี้โทษถึงไล่ออก


เจ้าของเฟซบุ๊กที่โพสต์คลิปตำรวจจราจรเรียกรับเงิน บริเวณหน้าขนส่งหมอชิต เข้าให้ข้อมูลกับพนักงานสอบสวนกองกำกับการตำรวจจราจร หลังถูกร้อยตำรวจโทมนัส เปี่ยมเนตร รองสารวัตรงานสายตรวจ 1 เรียกเก็บเงินค่าจอดรถกับโชเฟอร์รถประจำทางจำนวน 100 บาท อ้างว่าเป็นประเพณีต้องจ่าย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 17 เมษายน ที่ผ่านมา

นายต้อม (นามสมมุติ) เจ้าของคลิป และคนขับรถทัวร์เสริม เล่าว่า วันเกิดเหตุตนเองขับรถทัวร์ วิ่งมาจากจังหวัดหนองคาย เมื่อมาถึงบริเวณหน้าสถานีขนส่งหมอชิต ตำรวจจราจรได้โบกให้เข้าไปจอดริมถนนเพื่อให้ส่งผู้โดยสาร จากนั้นได้เดินมาเคาะกระจก และเรียกเก็บเงิน 100 บาท อ้างว่า เป็นค่าธรรมเนียมตามประเพณี แต่ไม่ตนไม่ยอมจ่าย พร้อมยอมรับว่า ตลอดเวลาที่ขับรถมานานกว่า 10 ปี ก็มีตำรวจไม่ซ้ำหน้ากันมาเรียกเก็บแบบนี้ตลอด โดยจะเรียกเก็บเฉพาะรถทัวร์เสริม โดยเมื่อ 2 ปีก่อน ได้รับคำยืนยันจากผู้กำกับการคนหนึ่งในพื้นที่ ว่าบริเวณดังกล่าวสามารถจอดได้ และไม่มีการเรียกเก็บเงิน เพราะเป็นจุดที่ตำรวจจัดไว้เพื่ออำนวยความสะดวก และระบายรถในช่วงเทศกาล ดังนั้นวันนี้ตนเองต้องการคำยืนยันจากผู้บังคับการตำรวจจราจรว่าจุดดังกล่าวสามารถจอดได้หรือไม่


ส่วนการแจ้งความดำเนินคดีกับตำรวจคนดังกล่าว ยังอยู่ระหว่างการหารือว่าจะสามารถแจ้งความเอาผิดข้อหาใดบ้าง พร้อมยอมรับรู้สึกกังวลเรื่องความปลอดภัย แต่หลังมีการเผยแพร่คลิปออกไปก็ไม่เคยถูกข่มขู่ หรือได้รับการติดต่อจากคู่กรณี ซึ่งส่วนตัวมองว่า คู่กรณีไม่จำเป็นต้องมาขอโทษ และขอให้เรื่องนี้เป็นไปตามขั้นตอนกฎหมาย

ด้านพลตำรวจตรีนิธิธร จินตกานนท์ ผู้บังคับการตำรวจจราจร เปิดเผยว่า จุดข้อพิพาทดังกล่าวเป็นจุดห้ามจอดรถ แต่เนื่องจากช่วงเทศกาลสงกรานต์มีการอนุโลมให้จอดส่งผู้โดยสารได้เพื่อความสะดวกของผู้โดยสาร ดังนั้นการกระทำของตำรวจนายดังกล่าวจึงไม่ถูกต้อง เบื้องต้นได้สั่งการให้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้ผลการสอบสวนแล้วเสร็จภายใน 7 วัน ซึ่งคนขับรถทัวร์รายนี้ถือเป็นพยานคนสำคัญ โดยหลังจากสอบปากคำคนขับรถทัวร์แล้ว จะแนะนำให้ไปแจ้งความที่ สน.บางซื่อ ในข้อหา เป็นเจ้าพนักงานเรียกรับผลประโยชน์ ยืนยันตำรวจจราจรไม่เคยมีประเพณีการเรียกเก็บเงินตามที่หมวดในคลิปกล่าวถึง

ส่วนคนขับรถทัวร์อ้างว่า เคยถูกเรียกเก็บเงินลักษณะนี้มาแล้วหลายครั้ง ขอให้ผู้เสียหายเข้าให้การกับตำรวจทั้งหมด หากมีพยานหลักฐานชัดเจน สามารถระบุตัวได้ จะถูกดำเนินคดีทั้งทางวินัยและทางอาญาเช่นเดียวกัน อีกทั้งหากใครที่เคยถูกเรียกรับเงินในลักษณะเดียวกันนี้ ก็สามารถมาแจ้งเรื่องได้ ส่วนตัวจะไม่ปล่อยให้ตำรวจไม่ดีเช่นนี้อยู่ในวงการแน่นอน และโทษร้ายแรงที่สุดคือไล่ออกจากราชการ ซึ่งกรณีนี้ส่วนตัวมองว่าการกระทำดังกล่าว โทษถึงไล่ออกจากราชการ


ทั้งนี้ขอฝากเตือนประชาชนที่โพสต์ข้อความว่า ตำรวจนายดังกล่าวมีเงินสดไปซื้อรถใหม่ มีการเชื่อมโยงและทำให้สังคมเข้าใจผิดว่าเป็นเงินที่มาจากการเรียกรับผลประโยชน์ ก็ขอให้ระมัดระวังการโพสต์หรือแชร์ข้อความดังกล่าว เพราะเสี่ยงต่อการถูกฟ้องหมิ่นประมาท เนื่องจากเป็นเรื่องส่วนตัว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

จับมือปืน

ล้อมจับมือปืนอันดับ 1 ประวัติร้ายกาจที่สุดในพื้นที่ภาค 9

ตำรวจล้อมจับมือปืนอันดับ 1 มีประวัติร้ายกาจที่สุดในพื้นที่ภาค 9 มีหมายจับติดตัว 9 หมาย ทั้งคดีฆ่า รับจ้างทวงหนี้ ยิงบ้าน และค้ายาเสพติด

สู้งูจงอาง

สาวใจเด็ด! สู้งูจงอางด้วยมือเปล่าจนรอดตาย

สาวใจเด็ด! เข้าไปหาเห็ดเจองูจงอาง ถูกฉกเป็นแผลเหวอะ ตัดสินใจฮึดสู้ด้วยมือเปล่า เตะก้านคองูแล้วกระทืบซ้ำ ก่อนจับกดพื้นลากไปหาหมอพร้อมกัน ล่าสุดอาการดีขึ้นแล้ว

บริจาคอวัยวะ

หนุ่มวัย 26 ปี บริจาคอวัยวะช่วยต่ออายุ 9 ชีวิต

ชื่นชมหนุ่มพนักงานช่วยเหลือคนไข้ รพ.ภูเขียวเฉลิมพระเกียรติ บริจาคอวัยวะ แม้ต้องเสียชีวิตก่อนวัยอันควร อายุเพียง 26 ปี แต่อวัยวะสามารถต่อชีวิตให้กับผู้อื่นได้อีก 9 ชีวิต

ข่าวแนะนำ

ราคาทอง

ทองร่วงแรง ลงแล้ว 1,300 บาท โลกคลายกังวลสงครามการค้า

ทองคำสินทรัพย์เสี่ยงวันนี้ร่วงแรง ชั่วโมงแรกการค้าลงรวม 1,300 บาท หลังจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ และการคลายความกังวลสงครามการค้า ด้านบาทอ่อนค่าแรง ในขณะที่ไอเอ็มเอฟลดคาดการณ์จีดีพีไทยปีนี้จะโตเพียง 1.8%

จับมือปืน

ล้อมจับมือปืนอันดับ 1 ประวัติร้ายกาจที่สุดในพื้นที่ภาค 9

ตำรวจล้อมจับมือปืนอันดับ 1 มีประวัติร้ายกาจที่สุดในพื้นที่ภาค 9 มีหมายจับติดตัว 9 หมาย ทั้งคดีฆ่า รับจ้างทวงหนี้ ยิงบ้าน และค้ายาเสพติด

นายกฯเยือนกัมพูชา

นายกฯ พร้อมคู่สมรส เยือนกัมพูชา ฉลองความสัมพันธ์ 75 ปี

นายกฯ พร้อมคู่สมรส เดินทางเยือนราชอาณาจักรกัมพูชาอย่างเป็นทางการ 23-24 เม.ย. นี้ ตามคำเชิญของนายกฯ ฮุน มาแนด พร้อมฉลองความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-กัมพูชา ครบรอบ 75 ปี

สู้งูจงอาง

สาวใจเด็ด! สู้งูจงอางด้วยมือเปล่าจนรอดตาย

สาวใจเด็ด! เข้าไปหาเห็ดเจองูจงอาง ถูกฉกเป็นแผลเหวอะ ตัดสินใจฮึดสู้ด้วยมือเปล่า เตะก้านคองูแล้วกระทืบซ้ำ ก่อนจับกดพื้นลากไปหาหมอพร้อมกัน ล่าสุดอาการดีขึ้นแล้ว