หมอนวดไทยถูกฆ่าหั่นศพที่โปรตุเกส

สุรินทร์ 22 เม.ย.-สาวไทยไปทำงานร้านนวดที่โปรตุเกสถูกฆ่าหั่นศพ พบศีรษะในถุงพลาสติกยัดใส่กระเป๋านำมาทิ้งบริเวณชายหาด ครอบครัววอนช่วยเหลือส่งกระดูกกลับมาทำบุญที่บ้านเกิด จ.สุรินทร์ ขณะที่ตำรวจรวบหญิงไทยที่ตกเป็นผู้ต้องสงสัย คาดทะเลาะเรื่องเงินจำนวน 10,000 ยูโร


จากกรณีสื่อนอกตีข่าวหมอนวดไทยถูกฆ่าหั่นศพที่ประเทศโปรตุเกส ทิ้งหัวที่ชายหาด โดยเพจชมรมหมอนวดดี มีจรรยาบรรณ ไม่ทำแอบแฝง โพสต์ภาพและข้อความระบุว่า หมอนวดไทยถูกฆ่าหั่นศพที่ประเทศโปรตุเกส และที่น่าเศร้าใจ..คือ..เธอตายเพราะคนไทย ที่บินข้ามน้ำข้ามฟ้าไปทำงานด้วยกัน ข่าวหน้าหนึ่งในประเทศโปรตุเกสรายงานว่า ฆาตกร ตามบัญชีเฟซบุ๊กชื่อ “Sangam Sawaiprkhon” ได้ฆ่าผู้ตาย ซึ่งใช้ชื่อตามเฟซบุ๊กว่า “Natchaya Saranyaphat” เพราะทะเลาะกันเรื่องเงินจำนวน 10,000 ยูโร ที่นำมาลงทุนทำร้านนวด..(ตามคำให้การรับสารภาพกับตำรวจ) ผู้ตายเสียชีวิตเมื่อวันที่ 7 มี.ค.62 พบชิ้นส่วนเฉพาะส่วนศีรษะที่ชายหาด..ที่เหลือยังไม่พบ

***ฝากถึงคนไทยทุกคนด้วยนะคะ ไปทำงานอยู่ต่างบ้านต่างเมือง ขอให้รักใคร่กลมเกลียวกัน มีอะไรผิดใจกันหากคุยกันไม่ได้ก็ต่างคนต่างอยู่ อย่าถึงกับเข่นฆ่ากันเลย***


ทั้งนี้ สำนักข่าว cmjornal.pt ของประเทศโปรตุเกส รายงานว่า ได้พบศพผู้หญิงชาวไทย ซึ่งมีอาชีพเป็นหมอนวดบริเวณชายหาด Leça da Palmeira เมื่อวันที่ 7 มี.ค.ที่ผ่านมา โดยสุนัขที่อยู่ในบริเวณดังกล่าวได้คาบถุงพลาสติกที่อยู่ในกระเป๋าที่ถูกนำมาทิ้งไว้ ก่อนที่จะมีคนมาพบว่ามีศีรษะของคนอยู่ในถุงพลาสติกดังกล่าว อย่างไรก็ตาม คดีสะเทือนขวัญนี้ได้ขึ้นพาดหัวข่าวหน้า 1 ของหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นประเทศโปรตุเกส

ล่าสุดวันที่ 21 เมษายน 2562 ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปยังบ้านเลขที่ 29 หมู่ 3 บ.ตะคร้อ ต.ช่างปี่ อ.ศีขรภูมิ จ.สุรินทร์ ซึ่งเป็นบ้านของผู้ที่ถูกฆาตกรรมในครั้งนี้ ทราบชื่อผู้ตายคือ นางนัชยา เจนจบ อายุ 41 ปี โดยที่บ้านเกิดบรรยากาศเป็นไปอย่างเศร้าโศกเสียใจของบรรดาญาติๆ หลังทราบข่าว และที่สะเทือนใจไปกว่านั้น ผู้เป็นพ่อคือ นายเมียด เจนจบ อายุ 86 ปี ป่วยติดเตียงมานาน หลังทราบข่าวลูกสาว อาการได้ทรุดลงและเสียชีวิตเมื่อวันที่ 14 เมษายนที่ผ่านมา ในขณะที่นางเสย เจนจบ อายุ 76  ปี ผู้เป็นแม่ ซึ่งป่วยอีกคน ก็เสียใจเป็นอย่างมาก ทุกครั้งที่พูดถึงลูกสาวที่เสียชีวิตก็ได้แต่ร้องไห้ เนื่องจากลูกสาวเป็นคนดี และหาเงินมาจุนเจือครอบครัวทุกครั้ง โดยเดินทางไปทำงานที่ต่างประเทศเป็นเวลา 2 ปีแล้ว

นางสมหวัง ใจงาม อายุ 46 ปี พี่สาวของนางนัชยา ผู้เสียชีวิต เปิดเผยทั้งน้ำตาว่า ทราบข่าวจากทางด้าน อบต. แจ้งมาว่าทางสถานทูตได้โทรมาบอกว่าน้องสาวเสียชีวิต ทันทีที่ทราบข่าว พ่อซึ่งป่วยอยู่แล้วถึงกับเป็นลม เนื่องจากทราบข่าวกะทันหัน ต้องช่วยกันปฐมพยาบาล ส่วนแม่ที่ป่วยอยู่ก็ได้แต่ร้องไห้ ทุกคนร้องไห้กันหมด จนชาวบ้านต่างมาสอบถามว่าเป็นอะไร พอรู้ข่าวก็ร้องไห้กันระงม เพราะสงสาร เนื่องจากผู้ตายเป็นคนดีมาก พี่น้องรักทุกคน น้องสาวไปทำงานต่างประเทศได้ประมาณ 2 ปี และไม่เคยกลับมาบ้าน น้องสาวมีลูก 1 คน กับสามีเก่า อยู่ที่ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งลูกทราบเรื่องแล้ว ที่ผ่านมามีเพียงการโทรศัพท์พูดคุยกัน แม้น้องสาวจะไม่เคยกลับมาบ้าน แต่ก็ส่งเงินมาช่วยเหลือทางบ้านเป็นประจำ เพื่อช่วยสร้างบ้านให้กับพ่อแม่ และบอกว่าจะเก็บเงินสักก้อนมาสร้างบ้านให้เสร็จ ถือว่าน้องเป็นเสาหลักให้กับครอบครัว พ่อที่ไม่สบาย น้องสาวก็ส่งเงินมาเป็นค่ารักษาประจำ ครั้งสุดท้ายได้คุยกันเมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2561 โดยผู้ตายได้ฝากให้ดูแลพ่อกับแม่ให้ดี และให้ทำบุญถวายผ้าไตรในงานบุญให้ด้วย โดยจะส่งเงินมาให้เป็นค่าใช้จ่าย จากนั้นวันวันที่ 28 ธันวาคม ตนได้ไปเบิกเงินที่น้องส่งมาให้ทำบุญและจัดการตามที่น้องบอกไว้ทุกอย่าง จากนั้นได้โทรหาน้องอีกครั้งเพื่อบอกให้ทราบ แต่ไม่สามารถติดต่อได้เลย จนมาทราบข่าวว่าน้องสาวเสียชีวิต


สำหรับเรื่องศพ ทางสถานทูตจะประสานมาทางกำนันให้ทราบอีกครั้ง ทางญาติบอกว่าอยากจะได้ศพน้องมาทำบุญ แต่มีค่าใช่จ่ายมาก ซึ่งครอบครัวก็หาเช้ากินค่ำ ถ้าเป็นไปได้ก็อยากได้กระดูกของน้องสาวมาทำบุญที่บ้าน หากใครมีจิตศรัทธาหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอยากให้ช่วยเหลือส่งกระดูกน้องสาวมาทำบุญที่บ้าน ครอบครัวมีพี่น้องทั้งหมด 5 คน คนตายเป็นคนสุดท้อง โดยน้องสาวเพิ่งไปทำงานต่างประเทศเป็นครั้งแรก ซึ่งทางสถานทูตแจ้งมาเพียงว่าน้องสาวถูกฆาตกรรม รายละเอียดยังไม่ทราบ โดยจะโทรมาแจ้งทางกำนัน โดยทางสถานทูตให้รอก่อน เนื่องจากยังหาชิ้นส่วนศพไม่ครบ

อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 20 เมษายน เพจชมรมหมอนวดดี มีจรรยาบรรณ ไม่ทำแอบแฝง ได้โพสต์ข้อความและภาพ ระบุว่า นี่คือบทสนทนากับเพื่อนชาวโปรตุเกสที่รู้จักกับผู้ตายและครอบครัว.. เหลืออยู่สิ่งเดียวที่แอดมินยังค้างคา..คือที่เขาบอกว่า..ตำรวจไทยรู้ตัวผู้ร้าย (สามีของสงาม) แต่ไม่สามารถส่งตัวผู้ร้ายไปรับโทษที่โปรตุเกสได้ เพราะเขาเป็นพลเมืองไทย (Thai Citizen) แต่เท่าที่แอดมินตามอ่านคอมเมนต์ของลูกเพจหลายเสียงพูดว่า สามีสงามเป็นชาวปากีสถาน..#เหลือแค่ข้อเดียวเนี่ย ที่ยังคงคลุมเครือ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทย เจ้าตัวคุม “โยธาฯ-ปค.”

กระทรวงมหาดไทย 14 ก.ค. –“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทยแล้ว เจ้าตัวคุม “โยธาฯ – ปค.” ฟาก “เดชอิศม์” คุม “ที่ดิน – สถ.” สางปัญหาที่ดิน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย รักษาราชการนายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้แบ่งงานกับทั้ง 2 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งการทำงานของทั้ง 3 คนเราทำงานเป็นทีมเดียวกัน ส่วนหลักเกณฑ์การแบ่งก็กระจายให้ทั่วถึงเพื่อช่วยกันดูแล โดยตนกำกับดูแลกรมโยธาธิการและผังเมือง กรมการปกครอง สำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย การประสานงานส่วนราชการในสังกัด กระทรวงมหาดไทยตาม พ.ร.บ.การบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2553 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปาส่วนภูมิภาค และดูหน่วยงานส่วนที่เหลือทั้งหมด โดยทั้งหมดสงวนไว้ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณ และบุคคลซึ่งตนเป็นผู้ดูแล นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ได้มอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย กำกับดูแล กรมการพัฒนาชุมชน เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับสตรีและการดำเนินการเรื่องผ้าไทย รวมถึงกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมณศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]

ส่งตัวดำเนินคดี นักท่องเที่ยวไทยทำร้ายทหารกัมพูชา

สุรินทร์ 13 ก.ค.-ทบ. เผยนักท่องเที่ยวไทยต่อยทหารกัมพูชา ที่ปราสาทตาเมือนธม เป็นอดีตทหารพราน ส่งตัวให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 13 ก.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบกกล่าวถึงกรณีที่งนักท่องเที่ยวชาวไทย ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ว่า กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี ว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.20 น. ได้เกิดเหตุการณ์นักท่องเที่ยวชาวไทยทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ณ บริเวณปราสาทตาเมือนธม โดยผู้ก่อเหตุได้ชกเจ้าหน้าที่กัมพูชา ทั้งทางด้านหลังและด้านหน้า ก่อนจะหลบหนีออกจากพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยสามารถติดตามและควบคุมตัวได้ในเวลาต่อมา จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายสมหมาย ศรีศุกรานันทน์ อดีตอาสาสมัครทหารพราน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานชมรมทหารพรานจิตอาสาค่ายปักธงชัย และประธานเครือข่ายทหารผ่านศึกจังหวัดสมุทรสาคร ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณพื้นที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทางเจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายไทย ได้ทำความเข้าใจกับผู้เสียหายไปแล้วในเบื้องต้น เพื่อพยายามไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ในระดับเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย สำหรับผู้ก่อเหตุ ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เตือนฝนตกหนักบางแห่ง-กทม.ฟ้าคะนอง 60%

กรุงเทพฯ 15 ก.ค. – กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักบางแห่งบริเวณ จ.เชียงราย พะเยา น่าน หนองคาย บึงกาฬ อุดรธานี สกลนคร นครพนม และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนัก อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล ฝนฟ้าคะนอง 60% และฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนองและมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าว โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดเชียงราย พะเยา น่าน หนองคาย บึงกาฬ อุดรธานี สกลนคร นครพนม และตราด ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้ เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังค่อนข้างแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง คลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่าง มีคลื่นสูงประมาณ […]

ป.ป.ช.ตั้งองค์คณะไต่สวนจริยธรรมร้ายแรง “แพทองธาร” คลิปคุย “ฮุนเซน”

กทม. 14 ก.ค. – ป.ป.ช. มติเอกฉันท์ตั้งองค์คณะไต่สวนจริยธรรมร้ายแรงต่อ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ปมคลิปเสียงคุยกับ “ฮุน เซน” ที่สำนักงาน ป.ป.ช. วันนี้มีรายงานว่าคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)ได้ประชุม และมีมติเป็นเอกฉันท์ให้แต่งตั้งองค์คณะไต่สวน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กรณีปรากฏคลิปเสียงสนทนากับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ซึ่งมีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับความขัดแย้งบริเวณแนวชายแดน ไทย-กัมพูชา โดยนายสุชาติ ตระกูลเกษมสุข ประธานกรรมการ ป.ป.ช. และนายประภาศ คงเอียด กรรมการ ป.ป.ช. ร่วมเป็นองค์คณะไต่สวน การตั้งองค์คณะไต่สวนครั้งนี้ เป็นไปตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา51 ซึ่งเปิดช่องให้ ป.ป.ช. ตั้งกรรมการไม่น้อยกว่า 2 คนไต่สวนได้ในกรณีที่เกี่ยวข้องกับผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองระดับสูงมีผลกระทบต่อสาธารณะอย่างกว้างขวางหรือเกี่ยวพันกับองค์กรตุลาการ ก่อนหน้านี้ ป.ป.ช. มีมติรับเรื่องไว้พิจารณาเบื้องต้น และมอบหมายให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงภายใน 10 วัน โดยให้มีการถอดเทปคำสนทนาและจัดทำคำแปลจากภาษาต่างประเทศอย่างถูกต้อง ครอบคลุมการสอบพยาน และการศึกษา คดีเปรียบเทียบ เช่น […]

เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ลาสิกขา ปมโอน 13 ล้าน

พระนครศรีอยุธยา 14 ก.ค. – เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ สมัครใจลาสิกขา หลังโอนเงินกว่า 13 ล้าน ให้ “สีกากอล์ฟ” ยืนยันไม่มีสัมพันธ์เชิงชู้สาว แต่ยอมรับว่า “อ่อนต่อโลก” พระเทพพัชราภรณ์ อดีตเจ้าอาวาสวัดชูจิตธรรมาราม อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ทำพิธีลาสิกขาด้วยความสมัครใจในวันนี้ ภายหลังจากเจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) และกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ปปป.) ลงพื้นที่ตรวจสอบเส้นทางการเงินของวัด พร้อมสอบปากคำพระเทพพัชราภรณ์ อดีตเจ้าอาวาสฯ นานเกือบ 3 ชั่วโมง พันตำรวจโท สิริพงษ์ ศรีตุลา ผู้ช่วยเลขาธิการ ป.ป.ท. เปิดเผยว่า อดีตเจ้าอาวาสฯ เต็มใจลาสิกขา เข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย เพราะจากการตรวจสอบเส้นทางการเงินของสีกากอล์ฟ พบว่า เส้นเงินถูกโอนจากบัญชีส่วนตัวของอดีตเจ้าอาวาสฯ ซึ่งเจ้าตัวยอมรับว่า เป็นเงินที่ได้มาจากการรับกิจนิมนต์และสอนหนังสือ โดยโอนไปให้สีกากอล์ฟ รวม 12.8 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังมีเงินจากบัญชีวัดอีก 3.8 แสนบาท ซึ่งมีทั้งโอนผ่านโทรศัพพ์และให้เป็นเงินสด เริ่มโอนตั้งแต่เดือนมกราคมไปจนถึงเดือนกรกฎาคม 2567 ซึ่งในเดือนเดียวกันพบว่าโอนให้สีกากอล์ฟ […]

แก๊งจีนดำลวงเพื่อนร่วมชาติเรียกค่าไถ่ สังหารโหด

เชียงราย 14 ก.ค. – ตำรวจเร่งคลี่คลายคดีแก๊งจีนดำฆ่าจีนเทา หลอกเพื่อนร่วมชาติมาเรียกค่าไถ่ที่เชียงใหม่ สังหารโหด และนำศพทิ้งกลางป่า ตำรวจพบศพนายหยาง อายุ 24 ปี สัญชาติจีน ถูกห่อด้วยถุงดำ และผ้าปูที่นอน แล้วใช้ผ้ายางพลาสติกห่อทับอีกชั้น ถูกนำมาทิ้งไว้ที่ป่าละเมาะข้างทางริมถนน ใกล้กับหมู่บ้านป่าเหว ตำบลแม่แรม อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ โดยก่อนหน้านี้ ได้รับการร้องขอความช่วยเหลือจากพี่สาวของนายหยางให้ช่วยติดตามตัวน้องชาย หลังข้ามชายแดนมาจากเขตเศรษฐกิจพิเศษคิงส์โรมัน ในฝั่งลาว ผ่าน ตม.สบรวก อำเภอเชียงแสน ที่ จ.เชียงราย มาพร้อมกับนายฮูกัง เพื่อนชาวจีนอีกคนหนึ่ง โดยจ้างแท็กซี่เดินทางมายังเชียงใหม่ เมื่อ 8 กรกฎาคมที่ผ่านมาและหายตัวไป ก่อนถูกเรียกค่าไถ่ 3 ล้านบาท เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม ที่ผ่านมา พลตำรวจโทกฤตธาพล ยี่สาคร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 เปิดเผยว่า พบตัวนายฮูกัง เพื่อนชาวจีนที่เดินทางมากับนายหยาง และอ้างว่า ถูกนายซาง เบนซิน และนายหวังซวง นัดหมายให้พานายหยาง […]