สำนักข่าวไทย17 เม.ย.-รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ชี้กรณีกลุ่มวัยรุ่นบุกทำร้ายคู่อริภายในโรงพยาบาลในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมา ถือเป็นพฤติกรรมท้าทายกฏหมาย อัยการบรรยายฟ้องขอให้ศาลลงโทษสถานหนักแน่ ให้คอยดูประสิทธิภาพของกฏหมาย
นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก ‘โกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง’ ว่า บ้านป่าเมืองเถื่อนหรืออย่างไร โรงพยาบาลก็ไม่ละเว้น โรงพยาบาลกบินทร์บุรี โรงพยาบาลแก้งคร้อ โรงพยาบาลห้วยแถลง โรงพยาบาลบางสะพานน้อย เป็นข่าวในช่วงเทศกาลสงกรานต์ วัยรุ่นบุกเข้าใช้โรงพยาบาลทำร้ายคู่อริ ส่วนมากน่าจะอยู่ในอาการมึนเมา
การบุกเข้าไปทำร้ายผู้อื่นในโรงพยาบาลเป็นการกระทำผิดที่ท้าทายกฎหมาย ทำลายความสงบสุขของสังคม โรงพยาบาลเป็นที่พึ่งของคนเจ็บป่วย หมอและพยาบาลล้วนทำหน้าที่กันหนักในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ที่ประชาชนใช้รถใช้ถนนมากกว่าปกติ จึงมีสถิติอุบัติเหตุเพิ่มขึ้นอย่างสูง แต่กลุ่มวัยรุ่นที่ขาดจิตสำนึก ประพฤติตนกร่างใหญ่โต ท้าทายกฎหมาย บุกเข้าโรงพยาบาล ทำร้ายคู่อริ แม้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าห้ามปราม ก็ยังไม่หยุด ตามที่เจ้าหน้าที่ตำรวจห้าม ยังตรงเข้าทำร้ายคู่อริ ก่อความวุ่นวายขึ้นในโรงพยาบาล อย่างท้าทายอำนาจรัฐ ท้าทายประสิทธิภาพของกฎหมาย
ภาพจากกล้องวงจรปิดในโรงพยาบาลและจากคลิปโทรศัพท์มือถือ ที่คนเดือดร้อนช่วยบันทึกกันไว้เป็นหลักฐานจะสามารถเป็นหลักฐานได้ว่า วัยรุ่นคนไหน ร่วมกันก่อเหตุร้าย ทำร้ายใครบ้าง ใครทำให้ทรัพย์สินของโรงพยาบาลเสียหาย แม้ในสถานที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจอาจมีกำลังไม่พอที่จะเข้าจับกุม แต่หลักฐานที่ปรากฏจะได้ติดตามจับกุมมาดำเนินคดีกันต่อไป
ความมึนเมา ไม่เป็นข้ออ้างที่จะทำให้พ้นความรับผิดตามกฎหมายไปได้
กลุ่มวัยรุ่นก่อเหตุตะลุมบอนกันในโรงพยาบาล ล่าสุดเกิดขึ้นที่บางสะพานน้อย กลุ่มวัยรุ่นคู่อริฉลองสงกรานต์แล้วเกิดเขม่นจนทะเลาะวิวาท มีผู้บาดเจ็บถูกนำส่งโรงพยาบาล แล้วมาตะลุมบอนกันต่อบริเวณหน้าห้องฉุกเฉิน ทำให้มีผู้บาดเจ็บเพิ่ม รวมทั้งหมด 7 คน
ประมวลกฎหมายอาญา
มาตรา 364 ผู้ใดโดยไม่มีเหตุอันสมควร เข้าไปหรือซ่อนตัวอยู่ในเคหสถาน อาคารเก็บรักษาทรัพย์หรือสำนักงานในความครอบครองของผู้อื่น หรือไม่ยอมออกไปจากสถานที่เช่นว่านั้นเมื่อผู้มีสิทธิที่จะห้ามมิให้เข้าไปได้ไล่ให้ออก ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา 365 ถ้าการกระทำความผิดตามมาตรา 362 มาตรา 363 หรือ
มาตรา 364 ได้กระทำ
(1) โดยใช้กำลังประทุษร้าย หรือขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย
(2) โดยมีอาวุธหรือโดยร่วมกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปหรือ (3) ในเวลากลางคืน
ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา360 ผู้ใดทำให้เสียหาย ทำลาย ทำให้เสื่อมค่าหรือทำให้ไร้ประโยชน์ ซึ่งทรัพย์ที่ใช้หรือมีไว้เพื่อสาธารณประโยชน์ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ประมวลกฎหมายอาญาไม่ได้บัญญัติเรื่องการบุกรุกสถานที่ราชการไว้เป็นพิเศษดังเช่นกฎหมายลักษณะอาญามาตรา 330 ดังนั้น การบุกรุกสถานที่ราชการจึงมีความผิดในลักษณะเดียวกับการบุกรุกสถานที่ของเอกชน กล่าวคือจะเป็นความผิดก็ต่อเมื่อสถานที่ราชการที่บุกรุกนั้นมีลักษณะของเคหสถาน อาคารเก็บรักษาทรัพย์หรือสำนักงาน
โรงพยาบาลของรัฐซึ่งเป็นสถานพยาบาล ถือได้ว่าเป็นสถานที่ราชการที่มีลักษณะของสำนักงาน ซึ่งขณะที่เปิดให้บริการรักษาผู้ป่วยอยู่นั้นจะสภาพเป็นสาธารณะสถานที่ประชาชนมีความชอบธรรมที่จะเข้าไปได้ แต่การที่กลุ่มบุคคลใดได้เข้าไปวิวาททำร้ายคู่อริ ซึ่งเข้ารับการรักษาตัวอยู่ที่
โรงพยาบาลนั้น และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ซึ่งดูแลรักษาความปลอดภัยภายในโรงพยาบาลได้ไล่ให้กลุ่มบุคคลดังกล่าวออกไปแล้ว แต่กลุ่มบุคคลดังกล่าวไม่ยอมออกไปจึงถือได้ว่าเป็นความผิดฐานบุกรุกตามป.อ.มาตรา 364 นี้ เมื่อเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นในเวลากลางคืน มีผู้ร่วมกระทำความผิดตั้งแต่สองคนขึ้นไปและมีการใช้กำลังประทุษร้ายหรือขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย จึงต้องระวางโทษหนักขึ้นตามมาตรา 365
นอกจากนี้การเข้าไปทำร้ายบุคคลอื่นหรือทะเลาะวิวาทกันในโรงพยาบาลซึ่งมีทรัพย์สินของโรงพยาบาลที่จำเป็นต้องใช้ในการให้บริการประชาชนย่อมที่จะเล็งเห็นได้ว่าอาจมีทรัพย์สินของโรงพยาบาลได้รับความเสียหาย เช่น รถเข็นผู้ป่วย เตียงผู้ป่วย เครื่องช่วยหายใจ เครื่องปั้มหัวใจ เป็นต้น ซึ่งถือว่าเป็นทรัพย์ที่ใช้เพื่อสาธารณประโยชน์ได้รับความเสียหายจากการเข้าไปทะเลาะวิวาทดังกล่าว อันอาจเป็นความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์ที่ใช้หรือมีไว้เพื่อสาธารณประโยชน์ตาม ป.อ.มาตรา 360
ข้อหาต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงาน
ข้อหาขัดคำสั่งเจ้าพนักงาน
ข้อหาทำร้ายร่างกาย
และยังอาจมีข้อหาอื่นตามมา ตามการกระทำที่ก่อเหตุความวุ่นวาย ล้วนเป็นโทษสถานหน
‘กร่างให้สุด..แล้วไปหยุดที่เรือนจำ พฤติกรรมท้าทายกฎหมาย อัยการบรรยายฟ้องขอให้ศาลลงโทษสถานหนักแน่ คอยดูประสิทธิภาพของกฎหมายกันนะครับ’ นายโกศลวัฒน์ โพสต์ไว้ในตอนท้ายสุด .-สำนักข่าวไทย