กทม. 14 เม.ย. -ตำรวจยกเลิกจำลองเหตุการณ์ พ่อเลี้ยงโหดใช้ค้อนทุบลูกเลี้ยงท้องแก่ 7 เดือนตายทั้งกลม หวั่นญาติผู้เสียชีวิตรุมประชาทัณฑ์ ด้านผู้ต้องหาสำนึกผิดร้องขอรับโทษประหารชีวิต
พ.ต.อ.สิงห์ สิงห์เดช ผู้กำกับการ สน. คันนายาว แถลงว่าสั่งยกเลิกการคุมตัวนายภูมิใจ เหลืองทอง อายุ 57 ปี พ่อเลี้ยงก่อเหตุใช้ค้อนทุบศีรษะ น.ส.นันท์ชยา จันทะโมคา อายุ 29 ปี ลูกเลี้ยงตั้งท้องแก่ 7 เดือน ตายทั้งกลมในห้องนอนบ้านทาวน์เฮาส์ 3 ชั้น ย่านคลองสามวา เมื่อวันที่ 11 เมษายนที่ผ่านมา ไปจำลองเหตุการณ์ตามคำรับสารภาพของผู้ต้องหา หลังจากญาติและสามีของผู้เสียชีวิต เดินทางมาพูดคุยกับผู้ต้องหาและการโต้เถียงต่อว่าอย่างรุนแรง จึงเกรงจะเกิดความวุ่นวาย หลังจากตำรวจจะคุมตัวผู้ต้องหาไปจำลองเหตุการณ์ในเวลา 11.00 น. วันนี้(14 เม.ย.)
พ.ต.อ.สิงห์ ยังระบุว่า เมื่อวานนี้รับตัวผู้ต้องหาจากโรงพยาบาลนพรัตน์ราชธานี หลังกินยาฆ่าแมลงเพื่อหนีความผิด โดยนำตัวมาสอบสวนตั้งแต่เมื่อคืนนี้ ต่อหน้าทนายความ ซึ่งผู้ต้องหาให้การรับสารภาพทุกข้อกล่าวหา พร้อมกับมีอาการเครียดจึงเฝ้าสังเกตอาการตลอด 24 ชั่วโมง ส่วนสาเหตุเกิดจากการหึงหวงภรรยามีปากเสียงกันจนภรรยาหนีออกจากบ้านและไม่ยอมรับโทรศัพท์ ด้วยความโกรธแค้นจึงหยิบค้อนภายในบ้านเดินไปเคาะประตูห้องผู้เสียชีวิต ซึ่งเป็นลูกสาวของภรรยาที่ภรรยารักมาก โดยอ้างว่าจะขอยืมเงินเมื่อผู้เสียชีวิตเปิดประตูจึงใช้ค้อนกระหน่ำตีจนเสียชีวิต โดยที่ไม่ได้มีความโกรธแค้นกับผู้เสียชีวิตมาก่อน แต่เป็นเพราะโมโหภรรยา
ทั้งนี้ หลังเกิดเหตุผู้ต้องหาหลบหนีไปบ้านเกิดที่จังหวัดฉะเชิงเทรา ก่อนย้อนกลับเข้ามาที่กรุงเทพมหานครอีกครั้ง กระทั่งมีคนพบว่าผู้ต้องหากินยาฆ่าเบื่อหนูเพื่อฆ่าตัวตาย และก่อนหน้านี้ก็พยายามฆ่าตัวตายมาแล้ว 1 ครั้ง โดยใช้สายไฟโรงแรมที่พักระหว่างหลบหนีมาช็อตตัวเอง แต่ระบบตัดไฟทำงานจึงไม่เสียชีวิต นอกจากนี้ ผู้ต้องหายังร้องขอรับโทษประหารชีวิต เนื่องจากสำนึกผิดในสิ่งที่ได้ทำลงไปกับลูกเลี้ยง
วันพรุ่งนี้ (15 เม.ย.) พนักงานสอบสวนจะควบคุมตัวนายภูมิใจ ไปฝากขังที่ศาลจังหวัดมีนบุรี ก่อนเวลา 12.00 น.พร้อมคัดค้านประกันตัวเนื่องจากเป็นคดีอุกฉกรรจ์ สะเทือนขวัญ
ด้านนายธนวัตร แก้วคำสอน สามีของผู้เสียชีวิต กล่าวภายหลังขึ้นไปพบกับผู้ต้องหา ในห้องควบคุมตัวชั้น 2 ของ สน.คันนายาว ว่า ผู้ต้องหาอยู่กินกับแม่ของผู้เสียชีวิตมานานถึง 15 ปี โดยทุกคนในครอบครัวไว้ใจมาโดยตลอด ไม่คิดว่าจะก่อเหตุเพียงเพราะความโมโห ตนต้องสูญเสียลูกและภรรยาอย่างไม่เป็นธรรมจึงเรียกร้องให้ลงโทษสูงสุดประหารชีวิต เพื่อคืนความเป็นธรรมให้กับภรรยาและลูก ส่วนศพของภรรยาอยู่ตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดสัมมาชัญญาวาส หรือวัดใหม่ ย่านซอยพระยาสุเรนท์ 40 และจะฌาปนกิจในวันที่ 17 เมษายนนี้
ด้านญาติผู้ตายอีกส่วนหนึ่ง ขึ้นไปพบผู้ต้องหาเพื่อสอบถามว่า ฆ่าผู้เสียชีวิตทำไม พร้อมทั้งด่าทอด้วยถ้อยคำรุนแรง แต่ผู้ต้องหาไม่ได้ตอบโต้.- สำนักข่าวไทย