“ผบ.ตร.”กำชับทุกพื้นท่ี่กวดขันวินัยจราจรหลังสถิติการเกิดอุบัติเหตุช่วงสงกรานต์สูงกว่าปีก่อน

กรุงเทพฯ 12 เม.ย.- ผบ.ตร.กำชับทุกพื้นที่เข้มงวดและบังคับใช้กฏหมายจราจรอย่างเคร่งครัด หลังสถิติการเกิดอุบัติเหตุสูงขึ้นเทียบกับช่วงสงกรานต์ปีที่ผ่านมา


พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รอง โฆษก ตร. เปิดเผยถึงการอำนวยความสะดวกด้านการจราจรและดูแล ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินให้กับประชาชน ห้วงเทศกาลสงกรานต์ 2562 ว่า รับรายงานจากศูนย์อำนวยการป้องกัน และ ลดอุบัติเหตุทางถนน ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2562 ว่าสถิติการเกิดอุบัติเหตุเมื่อวันที่ 11 เม.ย.62 ที่ผ่านมา มีการเกิดอุบัติเหตุ 468 ครั้ง เพิ่มขึ้น 21 ครั้งเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา คิดเป็น +4.70% , มีผู้เสียชีวิต 46 ราย ลดลง 2 รายเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา คิดเป็น -4.17% , ผู้บาดเจ็บ 482คน เพิ่มขึ้น 30 รายเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านคิดเป็น 6.60% 

พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้กำชับให้ผู้บังคับบัญชาที่เกี่ยวข้อง ลงไปกำกับดูแล การปฏิบัติหน้าที่ของผู้ใต้บังคับบัญชา ดูแลสวัสดิการ อุปกรณ์ เครื่องมือในการปฏิบัติหน้าที่ ให้เรียบร้อย และให้ทุกหน่วยในสังกัดบังคับใช้กฎหมายอย่างเด็ดขาดและจริงจังตามนโยบายของ พล.เอก.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เพื่อป้องกันและลดอัตราการเกิดอุบัติเหตุ โดยเฉพาะ 10 ข้อหา อาทิ เมาแล้วขับ , ขับรถเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด , ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย ฯลฯ อีกทั้งการตั้งจุดตรวจจุดสกัดเพื่อชะลอความเร็วของรถ ให้เจ้าหน้าที่ยึดหลักความปลอดภัยเป็นหลักทั้งตัวผู้ปฏิบัติงานและประชาชนที่สัญจรผ่านไปมา 


รอง โฆษก ตร. กล่าวต่ออีกว่า ผบ.ตร. ขอเป็นกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนาย ในการปฎิบัติหน้าที่อย่างเต็มความสามรถห้วงเทศกาลวงกรานต์2652 เพื่อดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน การอำนวยความสะดวกการจราจร ให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยว ซึ่งถือได้ว่าเป็นการให้ของขวัญชิ้นสำคัญแก่ประชาชนห้วงประเพณีวันขึ้นปีใหม่ของประเทศไทย และขอประชาสัมพันธ์โครงการประชารัฐร่วมใจ(ฝากบ้านไว้กับตำรวจ) เพื่อดูแลความปลอดภัยบ้านให้กับประชาชน ช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2562 ในระหว่างวันที่ 11-17 เม.ย.62 (รวม 7 วัน) ขณะนี้มีจำนวนยอดการฝากบ้านแล้วกว่า 2,500 หลัง โดยประชาชนที่สนใจเข้าร่วมโครงการสามารถติดต่อได้ที่ สถานีตำรวจใกล้บ้านท่าน

อีกทั้งหากต้องการแจ้งเหตุ สอบถามข้อมูลเส้นทาง หรือ ติดต่อขอความช่วยเหลือ สามารถโทรได้ที่หมายเลข 191 , 1193(ตำรวจทางหลวง) ,1599 และ SMS 191 หรือผ่านแอปพลิเคชั่น Police I Lert u ได้ตลอด 24 ชั่วโมง.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

จำคุกสมรักษ์คำสิงห์

ศาลสั่งคุก 2 ปี 13 เดือน 10 วัน “สมรักษ์” พยายามข่มขืนสาววัย 17

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก “สมรักษ์ คำสิงห์” อดีตนักมวยฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก เป็นเวลา 2 ปี 13 เดือน 10 วัน พร้อมชดใช้ค่าสินไหมทดแทนรวม 170,000 บาท คดีพยายามข่มขืนเด็กสาววัย 17 ปี

Chinese foreign ministry in January 2025

ถอดบทเรียนจากจีน แก้ปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 จริงจัง

ปักกิ่ง 23 ม.ค. – สถานการณ์ฝุ่นพิษ PM 2.5 ที่กำลังเป็นปัญหาใหญ่และเร่งด่วนในไทยอยู่ในขณะนี้ หลายฝ่ายกำลังหาทางแก้ไขด้วยการมุ่งไปที่ต้นตอที่ทำให้เกิดฝุ่น จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลกระบุว่า ในปี พ.ศ. 2542 ประชากรโลกมากถึง 92% ได้รับฝุ่น PM2.5 ในระดับความเข้มข้นสูงกว่าที่องค์การอนามัยโลกกำหนด และถ้ารัฐบาลทุกประเทศไม่เร่งแก้ปัญหาอย่างเอาจริงเอาจัง ภายในอีก 7 ปีข้างหน้า หรือ พ.ศ. 2573 คุณภาพชีวิตคนทั่วโลกจะยิ่งเลวร้ายสุดขีด เพราะปริมาณ PM2.5 จะเพิ่มขึ้นจากเดิม 50% และประเทศที่สามารถพิสูจน์ให้เห็นเป็นตัวอย่างว่า หากรัฐบาลตั้งใจจริงจัง ทุ่มสรรพกำลังความพยายาม จะสามารถกำจัดปัญหาฝุ่นควันพิษได้อย่างแน่นอนนั่นก็คือ จีน   จีนเคยมีคนเสียชีวิตเพราะมลพิษในอากาศปีละหลายล้านคน แต่ทุกวันนี้แม้แต่ธนาคารโลกยังยกย่องจีนว่า เป็นแบบอย่างของความพยายาม สามารถพลิกฟ้าหม่นเพราะฝุ่น PM2.5 ให้กลับเป็นฟ้าใสได้สำเร็จ ความพยายามของเหมา เจ๋อตุง ผู้นำจีนที่มุ่งเปลี่ยนสังคมเกษตรกรรมเป็นสังคมอุตสาหกรรม ทำให้จำนวนโรงงานในจีนเพิ่มขึ้นทวีคูณภายใน พ.ศ. 2502 แน่นอนว่า นโยบายเศรษฐกิจของผู้นำจีนช่วยให้คนจีนหลายล้านหลุดพ้นจากขีดความยากจน แต่ก็ต้องแลกกับชีวิตและสุขภาพ เพราะควันพิษจากโรงงานทำให้ฝุ่น PM2.5 พุ่งในระดับเกินกว่าจะรับไหว กว่ารัฐบาลจะรู้ตัวว่าปัญหามาถึงขั้นวิกฤต […]

คึกคัก คู่รักจูงมือกันไปจดทะเบียนวันแรกกฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผล

วันนี้กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ หลายคู่รักควงแขนไปจดทะเบียนสมรสกันชื่นมื่น ที่สยามพารากอน มีคู่รักที่ลงทะเบียนมาจดทะเบียนสมรสที่นี่กว่า 300 คู่

ผู้ป่วยเสียชีวิต

รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก-เสียชีวิต จากเหตุชายผิวสีคลุ้มคลั่ง

ผอ.รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก หรือเสียชีวิต จากเหตุต่างชาติผิวสีคลุ้มคลั่ง มีเพียงเจ้าหน้าที่ รพ.บาดเจ็บจากการถูกต่อยเล็กน้อย

ข่าวแนะนำ

ตร.ทางหลวงไล่ล่ากระบะขนแรงงานต่างด้าวลักลอบเข้าไทย

ระทึก! ตำรวจทางหลวงขับรถไล่ล่ากระบะขนแรงงานต่างด้าว 2 คัน สุดท้ายไม่รอด จนมุมบริเวณ ต.หาดท่าเสา อ.เมือง จ.ชัยนาท ตรวจสอบพบแรงงานต่างด้าวจำนวนมาก จึงนำตัวทั้งหมด พร้อมกับคนขับรถทั้ง 2 คัน ส่งดำเนินคดีที่ สภ.เมืองชัยนาท

คุมพ่อชาวรัสเซียฝากขัง จับลูกชายวัย 13 โยนลงทะเลเสียชีวิต

ตำรวจคุมตัว “หนุ่มรัสเซีย” ฝากขัง หลังก่อเหตุโยนลูกวัย 13 ปี ออกจากเรือ บริเวณหมู่เกาะสุรินทร์ จ.พังงา จนถูกใบพัดเรือบาดเจ็บสาหัส ก่อนเสียชีวิตในเวลาต่อมา อ้างเสียความทรงจำ ไม่รู้ทำอะไรลงไป

ดีเอสไอจ่อล่องเรือใช้เลเซอร์สแกนจำลอง 3 มิติ สืบคดี “แตงโม”

ดีเอสไอ นำผู้เชี่ยวชาญหลายด้านเปิดประชุมนัดแรก ลุยสืบสวน “คดีแตงโม” จ่อล่องเรือใช้เลเซอร์สแกนจำลอง 3 มิติ หาพยานหลักฐานใหม่ และบินเก็บข้อมูลระบบ Cloud ในมือถือทุกคนบนเรือ-นอกเรือ