ขนส่งฯ ตรวจความพร้อมรถโดยสารทุกจุด

กรุงเทพฯ 12 เม.ย.-กรมการขนส่งทางบก  ระบุผลตรวจรถโดยสาร และคนขับก่อนออกจากสถานีขนส่งผู้โดยสารและจุดจอดทั่วประเทศ
195 แห่ง พบปัญหาสภาพไม่พร้อมใช้งานเพียงเล็กน้อย  


นายพีระพล ถาวรสุภเจริญ
อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า กรมการขนส่งทางบกดำเนินการตามมาตรการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน
เทศกาลสงกรานต์ 2562 เพื่อลดสถิติอุบัติเหตุและความสูญเสียที่เกิดจากรถโดยสารสาธารณะเป็นต้นเหตุให้เหลือน้อยที่สุด
สำหรับผลการดำเนินการเฉพาะวันที่ 11 เมษายน 2562 ดำเนินการตรวจรถโดยสารหมวด 2 หมวด
3 และพนักงานขับรถก่อนออกเดินทางจากสถานีขนส่งผู้โดยสารและจุดจอดทั่วประเทศ รวม
195 แห่ง ตรวจรถโดยสารจำนวน 15,907 คัน แบ่งเป็นรถโดยสารหมวด 2
กรุงเทพฯ-ต่างจังหวัด จำนวน 7,183 คัน และรถโดยสารหมวด 3 จำนวน 8,724 คัน

ในจำนวนนี้ พบรถที่มีข้อบกพร่องที่กระทบต่อความปลอดภัยจำนวน
3 คัน โดยได้ดำเนินการสั่งเปลี่ยนรถจำนวน 1 คัน เนื่องจากปัญหายางหน้าฉีกขาด และมีการพ่นห้ามใช้รถ
จำนวน 2 คัน เนื่องจากระบบเบรกชำรุด และระบบ
GPS
Tracking สำหรับติดตามรถใช้งานไม่ได้ ในส่วนของการตรวจความพร้อมพนักงานขับรถ
จำนวน 15
,907 ราย พบการฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดว่าด้วยความปลอดภัยจำนวน
1 ราย สั่งเปลี่ยนตัวพนักงานขับรถทันที


ในส่วนของผลการตรวจความพร้อมรถโดยสารและรถเช่าเหมา ณ จุดตรวจความพร้อมระหว่างทาง (Checkpoint) ใน 17 จังหวัด 18 แห่ง ได้แก่ ลำปาง,
กำแพงเพชร, พิษณุโลก, ตาก,
นครราชสีมา, บุรีรัมย์, ขอนแก่น,
อุดรธานี, ร้อยเอ็ด, ชัยนาท,
ระยอง, ฉะเชิงเทรา, ประจวบคีรีขันธ์,
นครศรีธรรมราช, สุราษฎร์ธานี, กระบี่ และสงขลา
ตรวจรถโดยสารจำนวน
1,815 คัน รถเช่าเหมา จำนวน 312 คัน ไม่พบความผิดที่ส่งผลกระทบต่อความปลอดภัย

อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวเพิ่มเติมว่า การตรวจสภาพรถโดยสารก่อนออกจากสถานี เพื่อตรวจสอบความมั่นคงแข็งแรงของรถ
ยาง ระบบไฟ ติดตั้ง
GPS Tracking
อุปกรณ์อำนวยความสะดวกและความปลอดภัยที่ต้องติดตั้งไว้ภายในรถ เช่น ค้อนทุบกระจก
ถังดับเพลิง เข็มขัดนิรภัย รวมถึงตรวจความพร้อมของพนักงานขับรถต้องพักผ่อนเพียงพอ
ไร้สารเสพติดและแอลกอฮอล์ต้องเป็นศูนย์
เพื่อให้สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างปลอดภัยสูงสุด

 


นอกจากนี้
ในช่วงสงกรานต์ที่มีประชาชนเดินทางด้วยรถโดยสารและเข้าใช้สถานีขนส่งผู้โดยสารพร้อมกันเป็นจำนวนมาก
กรมการขนส่งทางบกได้จัดตั้งศูนย์คุ้มครองผู้โดยสารและรับเรื่องร้องเรียน 1584
(ชั่วคราว) และจัดเจ้าหน้าที่ตรวจตราความปลอดภัยภายในและภายนอกสถานีขนส่งผู้โดยสาร
เฝ้าระวังกลุ่มมิจฉาชีพที่แฝงตัวเข้ามาฉวยโอกาสหลอกลวงประชาชนและตรวจสอบการให้บริการของผู้ประกอบการทุกรายอย่างเข้มงวด
ประชาชนที่พบปัญหาจากการใช้บริการรถโดยสารสาธารณะ สามารถแจ้งศูนย์คุ้มครองผู้โดยสารและรับเรื่องร้องเรียน
1584 (ชั่วคราว) หรือแจ้งสายด่วน
1584 ตลอด 24 ชั่วโมง.-สำนักข่าวไทย

 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง