สนามบินดอนเมือง10 เม.ย.-‘อ.เดชา’ กลับถึงไทยท่ามกลางผู้ป่วยมารอให้การต้อนรับ พร้อมแจงปมถูกดำเนินคดีข้อหากัญชา เชื่อเป็นการกลั่นแกล้ง เพราะที่ผ่านมาเคยยื่นขอนิรโทษมาแล้วแต่ถูกปฏิเสธว่าไม่ใช่หมอพื้นบ้าน ทั้งที่ให้การรักษาผู้ป่วยมากว่า 20 ปี โดยเตรียมให้ ‘พรชัย’ เจ้าหน้าที่ที่ถูกจับกุม ร้องต่อศาลคดีทุจริต เอาผิดเจ้าหน้าที่และพรุ่งนี้เดินหน้าแจง ป.ป.ส. ยืนยันความบริสุทธิ์
บรรยากาศที่สนามบินดอนเมืองมีเหล่าผู้ป่วยมะเร็ง และภาคประชาชน จาก 3 มูลนิธิ ทั้งไบโอไทย , ชีววิถี และมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค เดินทางมาให้กำลังใจ พร้อมร้องตะโกน #SAVRDECHA นายเดชา ศิริภัทร ประธานมูลนิธิข้าวขวัญ สุพรรณ ที่เดินทางกลับจาก สปป.ลาว หลังถูกเจ้าหน้าที่ ป.ป.ส.เข้าตรวจค้นมูลนิธิและของกลางยึดกัญชาทางการแพทย์ที่ใช้รักษาผู้ป่วย พร้อมดำเนินคดีกับนายพรชัย ชูเลิศ เจ้าหน้าที่ของมูลนิธิ ในข้อหา ครอบครองกัญชา ทั้งที่อยู่ในระหว่างการนิรโทษ 90 วัน
นายเดชา กล่าวว่า ขอบคุณประชาชนและผู้ป่วยที่เดินทางมาให้กำลังใจ หลังจากทราบข่าวการบุกค้นภายในมูลนิธิขวัญข้าวสุพรรณ กลางดึก ทั้งที่อยู่ในระหว่างการนิรโทษ 90 วัน ที่จะสิ้นสุดในวันที่ 19 พ.ค.นี้ เชื่อว่ามีความผิดปกติและไม่ชอบ ด้วยการบุกค้นดังกล่าวทำในช่วงที่ตนไม่อยู่ ไม่รู้มีหมายค้นหรือไม่ และการออกมาระบุว่าตนปลูกกัญชาก็ไม่เป็นความจริง ต้นกัญชายังไม่ลงดิน ที่ผ่านมาได้เคยส่งเจ้าหน้าที่ไปยื่นขอนิรโทษ โดยใช้สิทธิความเป็นหมอพื้นบ้าน ซึ่งเรื่องนี้ ภญ.สุภาภรณ์ ปิติพร เภสัชกรเชี่ยวชาญด้านเภสัชกรรมการผลิต โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศรสามารถรับรองตนได้ โดยที่ผ่านมามีผลงานด้านการรักษาและเคยลงบทความวิชาการมาแล้ว ในหมอชาวบ้าน รักษาชาวบ้านมากกว่า 20 ปี แต่กลับถูกปฎิเสธ
นายเดชา กล่าวว่า ยืนยันการดำเนินการรักษาผู้ป่วยที่เกี่ยวข้องกับกัญชาทำมานานด้วยตนเองไม่เกี่ยวข้องกับมูลนิธิ และมั่นใจว่าการรักษาของตนมีความปลอดภัยโดยเคยรักษาบุคคลใกล้ชิดและครอบครัวมาแล้ว และมีคนไข้มากกว่า 5,000 คน ซึ่งในวันพรุ่งนี้ (11เม.ย.) ตนและเครือข่าย จะเดินทางไปพบเจ้าหน้าที่ ป.ป.ส.ด้วยตนเอง เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ ในเวลา 10.00 น.พร้อมขอบคุณพรรคภูมิใจไทย ที่ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ ขณะเดียวกันในวิกฤติแสดงให้เห็นมิตรแท้ จากกรณีนายวิวัฒน์ ศัลยกำธร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล้าเอาตำแหน่ง เอาชีวิต มารับตน ซึ่งรู้สึกซึ้งใจอย่างมาก ขอบคุณที่เห็นคุณค่าการทำงานของตน เพราะการแจกจ่ายยาให้กับผู้ป่วยและผู้ป่วยรับถือเป็นสิทธิพื้นฐาน
นายเดชา กล่าวต่อไปว่า สำหรับกรณีนี้ได้หารือกับนายวิชา มหาคุณ ผู้ร่างกฎหมาย พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษฉบับที่ 7 เห็นว่าการดำเนินการระหว่างนิรโทษไม่สามารถทำได้ ซึ่งถือว่าเป็นการกลั่นแกล้งประชาชน ซึ่งตนจะร้องต่อศาลคดีทุจริต โดยให้นายพรชัย ซึ่งเป็นผู้ถูกดำเนินคดีจับกุมร้อง เพราะถือว่ามีการใช้อำนาจโดยมิชอบ กลั่นแกล้งประชาชนให้เสียสิทธิและกักขังหน่วงเหนี่ยว เพื่อเอาผิดกับเจ้าหน้าที่ที่ดำเนินการบุกค้น และจับกุม อีกทั้งการที่เจ้าหน้าที่อ้างกฎหมาย พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษฉบับ 5 นั้น เห็นว่า แม้แต่ตัวเจ้าหน้าที่เองก็ยังไม่มีความเข้าใจเรื่องกฎหมาย ที่ขณะนี้มีการประกาศใช้ พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษฉบับที่ 7 แล้ว
นายเดชา กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้จะดำเนินคดีกับสื่อมวลชนที่ออกข่าวว่า ตนปลูกข้าวบังหน้าด้วย เพราะถือว่าเป็นการหมิ่นประมาทซึ่งหน้า หากสื่อดังกล่าวยังไม่ดำเนินการขอโทษหรือถอดข้อความดังกล่าว .-สำนักข่าวไทย