กรุงเทพฯ 8 เม.ย.-ก.พลังงาน พร้อมรับซื้อไฟฟ้าพลังงานทดแทนจากเอกชน หากต้นทุนขายไม่ส่งผลค่าไฟฟ้าแพงขึ้น ขณะที่สมาคมผู้ผลิตไฟฟ้าจากก๊าซชีวภาพร้องศาลปกครองชะลอแผน PDP 2018
นายศิริ จิระพงษ์พันธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ขณะนี้ กระทรวงพลังงาน ยังไม่ทราบถึงกรณีที่สมาคมการค้าก๊าซชีวภาพไทย เตรียมร้องศาลปกครอง เพื่อสั่งให้กระทรวงพลังงาน ชะลอการประกาศใช้ร่างแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย ปี 2561-2580 (PDP 2018) หรือแผนพีดีพีฉบับใหม่ เนื่องจากมองว่าไม่เป็นการส่งเสริมเกษตรกร โดยขอยืนยันว่า กระทรวงพลังงานมีนโยบายส่งเสริมการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนทุกชนิด หากสามารถผลิตไฟฟ้าขายเข้าระบบได้ในราคาไม่แพง เช่นเดียวกับโซลาร์ภาคประชาชนที่สามารถผลิตไฟฟ้าขายส่วนเกินจากความต้องการใช้เข้าระบบได้ในต้นทุน 1.68 บาทต่อหน่วย
นายผจญ ศรีบุญเรือง นายกสมาคมผู้ค้าก๊าซชีวภาพไทย เปิดเผยว่า สมาคมการค้าก๊าซชีวภาพไทยได้ฟ้องต่อศาลปกครองขอให้ระงับกระบวนการที่จะประกาศใช้แผน PDP 2018 และจะมีผู้ประกอบการโรงไฟฟ้าพลังงานยื่นฟ้องตามด้วย เนื่องจากที่กระทรวงพลังงานได้จัดทำแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทยฉบับใหม่หรือที่เรียกว่า PDP 2018 แม้ว่าจะได้รับฟังความเห็นไปแล้ว แต่กระบวนการรับฟังความคิดเห็นไม่สมบูรณ์ คือ ก่อนการรับฟังความเห็นดังกล่าวไม่ได้มีการให้ข้อมูลประกอบการรับฟังความคิดเห็นอย่างถูกต้อง และเพียงพอ ทางกลุ่มอุตสาหกรรมพลังงานหมุนเวียนจึงได้ทำหนังสือชี้แจงและเสนอความเห็นเพิ่มเติมต่อผู้จัดเตรียมร่าง PDP 2018 ฉบับนี้และภาคส่วนที่เกี่ยวข้องแล้ว แต่ก็มิได้มีการปรับปรุงตามความเห็นที่ชี้แจงและนำเสนออย่างเป็นรูปธรรม โดยเฉพาะเรื่องเกี่ยวกับการพัฒนาพลังงานหมุนเวียนของประเทศที่ถูกเปลี่ยนแปลงทั้งปริมาณและระยะเวลาในการรับซื้อ ซึ่งเหตุดังกล่าวทำให้เกิดความเสียหายจากการประกาศใช้ PDP 2018 ฉบับนี้ ยิ่งไปกว่านั้น จากการชะลอการพัฒนาพลังงานไฟฟ้าหมุนเวียนบางประเภทไม่เป็นไปตามเจตนารมณ์ของ แผนยุทธศาสตร์ชาติด้านพลังงาน ที่ต้องให้ความสำคัญกับพลังงานหมุนเวียนที่ผลิตได้เองภายในประเทศ ได้แก่ พลังงานไฟฟ้าจากชีวมวลและก๊าซชีวภาพ เพราะเป็นสิ่งที่เกษตรกรจะได้รับผลประโยชน์ทั้งทางตรงและทางอ้อม ดังนั้นการชะลอการพัฒนาพลังงานหมุนเวียน นอกจากจะส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการด้านพลังงานหมุนเวียนแล้ว ยังส่งผลกระทบต่อรายได้และความเป็นอยู่ของเกษตรกร รวมถึงการพัฒนาอุตสาหกรรมเกษตรที่เป็นอุตสาหกรรมหลักของประเทศ อีกทั้งยังกระทบกับความมั่นคงทางด้านพลังงานของไทยที่พึ่งพาการใช้เชื้อเพลิง และพลังงานไฟฟ้านำเข้าจากต่างประเทศ แทนการใช้พลังงานที่ผลิตได้เองภายในประเทศ รวมถึงยังเป็นการไม่ส่งเสริมและสนับสนุนในโครงการที่เป็นประโยชน์ต่อสิ่งแวดล้อม โครงการโรงไฟฟ้าที่ใช้น้ำเสีย ของเสีย และวัสดุเหลือใช้จากการเกษตรมาเป็นเชื้อเพลิง ซึ่งจะช่วยลดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกสู่ชั้นบรรยากาศอันเป็นสาเหตุของสภาวะโลกร้อน.-สำนักข่าวไทย