กทม. 3 เม.ย.-ตำรวจ-ภาคเอกชน ผนึกกำลังสร้างจิตสำนึกด้านความปลอดภัยทางถนนให้แก่ผู้ใช้รถใช้ถนนขับขี่ปลอดภัยช่วงสงกรานต์
ที่ปั๊ม ปตท.ร.1 รอ. ถนนวิภาวดีรังสิต พลตำรวเอกวิระชัย ทรงเมตตา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ร่วมกับภาคเอกชนเปิดโครงการรณรงค์ “ดื่มไม่ขับ กลับบ้านปลอดภัย สงกรานต์ 2562” ร่วมรับผิดชอบสังคม” เพื่อสร้างจิตสำนึกที่ดีให้แก่ประชาชนชาวไทยที่จะเดินทางกลับบ้านช่วงเทศกาลสงกรานต์ โดยเฉพาะช่วง 7 วันอันตราย มีเตำรวจจราจรสังกัด บก.จร., ตำรวจจราจรในสังกัด บก.น.2, กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว, อาสาสมัครมูลนิธิ และอาสาจราจรกว่า 115 นาย ร่วมในพิธี
พลตำรวจเอกวิระชัย กล่าวว่า เนื่องจากช่วงเทศกาลสงกรานต์ 7 วันอัตราย จากสถิติพบว่า มียอดอุบัติเหตุและยอดผู้เสียชีวิตทุกปี สำนักงานตำรวจแห่งชาติร่วมกับภาคเอกชนสร้างจิตสำนึกด้านความปลอดภัยทางถนนให้แก่ผู้ใช้รถใช้ถนน ปีนี้บริษัท เพอร์นอต ริคาร์ด ประเทศไทย จำกัด ได้สนับสนุน กระบองไฟจราจรจำนวน 300 อัน,ไฟฉาย 300 อัน, กระเป๋ากันง่วงลดอุบัติเหตุ จำนวน 200 ใบ สำหรับการปฏิบัติหน้าที่ตำรวจจราจร
พลตำรวจเอกวิระชัย ย้ำว่า เจ้าหน้าที่จะบังคับใช้กฎหมาย อย่างเข้มงวด และต่อเนื่องใน 10 ข้อหาหลัก เน้นหนักจับกุมข้อหาที่เป็นปัจจัยเสี่ยงการเกิดอุบัติเหตุทางถนนสูงที่สุด คือ ขับขี่รถโดยใช้ความเร็วเกิน อัตราที่กฎหมายกำหนด ขับขี่รถในขณะเมาสุรา ไม่สวมหมวกนิรภัย ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย และไม่มี ใบขับขี่ อย่างเข้มข้น กวดขันกับการเกิดอุบัติเหตุทางถนนที่เป็นเหตุให้มีผู้บาดเจ็บ หรือเสียชีวิต โดยผู้ขับขี่ทั้ง 2 ฝ่ายจะต้องถูกตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ และพนักงานสอบสวน และจะบันทึกผลการตรวจลงในระบบเทคโนโลยีสารสนเทศสถานีตํารวจ (ระบบ CRIMES) เพื่อเป็นข้อมูลใน การตรวจสอบการกระทําผิดซ้ำ เพื่อเป็นข้อมูลให้ศาลพิจารณาโทษที่สูงขึ้น หากตรวจพบผู้ขับขี่มึนเมามีปริมาณแอลกอฮอล์เกินกว่ากฎหมายกำหนด เจ้าหน้าที่จะยึดรถไว้ที่โรงพัก เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้รถใช้ถนน ส่วนการกระทำอนาจาร ลวนลาม มีโทษสูงสุดจำคุก 10 ปี ปรับ 200,000 บาท, บังคับให้เล่นน้ำโทษจำคุก 3 ปี ปรับ 60,000 บาท และก่อความเดือดร้อนรำคาญ ปรับ 5,000 บาท
นอกจากนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยังบูรณาการกับเครือข่าย ภาคเอกชน ทั้งกู้ภัยชุดเคลื่อนที่เร็ว ทีมแก้วิกฤติจราจร รถพยาบาล รถยก รถดับเพลิงในการอำนวยความสะดวก ตั้งเป้าลดจำนวนครั้งของการเกิดอุบัติเหตุจำนวนผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บในช่วงเทศกาลปีสงกรานต์ 2562 ให้เหลือน้อยที่สุด.-สำนักข่าวไทย