ปลัด มท.เผยความพร้อมการจัดทำน้ำอภิเษก

กระทรวงมหาดไทย 2 เม.ย.-ปลัดกระทรวงมหดาไทย เผย รมว.มหาดไทย ลงพื้นที่ติดตามความพร้อมการเตรียมการจัดทำน้ำอภิเษกในการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ย้ำการจัดทำน้ำอภิเษกของทุกจังหวัดให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและสมพระเกียรติ


นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า ตามที่กระทรวงมหาดไทย ได้รับมอบหมายให้เป็นหน่วยงานจัดทำน้ำอภิเษกในการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พ.ศ.2562 พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้มอบนโยบายในการประชุมผู้ว่าราชการจังหวัดเพื่อชี้แจงทำความเข้าใจเกี่ยวกับขั้นตอนพิธีการต่าง ๆ และได้ลงพื้นที่ติดตามความพร้อมในการเตรียมการจัดทำน้ำอภิเษกของทุกจังหวัดให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและสมพระเกียรติ โดยในทุกจังหวัดมีความพร้อมในการจัดพิธีดังกล่าว

ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า สำหรับกำหนดการจัดทำน้ำอภิเษก มีกำหนดดังนี้ พิธีพลีกรรมตักน้ำจากแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ ได้กำหนดขึ้นในวันที่ 6 เมษายน 2562 ฤกษ์เวลา 11.52-12.38 น.  พิธีทำน้ำอภิเษก ในวันที่ 8 เมษายน 2562 ฤกษ์เวลา 17.10-22.00 น. ณ สถานที่ตามที่จังหวัดกำหนด พิธีเวียนเทียนสมโภชน้ำอภิเษก ในวันที่ 9 เมษายน 2562 เวลา 10.00-12.00 น.


ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวด้วยว่า การเชิญคนโทน้ำอภิเษกของจังหวัดมาเก็บรักษาไว้ที่กระทรวงมหาดไทย ในวันที่ 10 เมษายน 2562 ตั้งแต่เวลา 06.00-18.00 น. การเชิญคนโทน้ำอภิเษกจากกระทรวงมหาดไทยไปยังวัดสุทัศนเทพวราราม ในวันที่ 18 เมษายน 2562 เวลา 07.00 น. และในเวลา 17.19 น. เป็นการประกอบพิธีเสกน้ำพระพุทธมนต์รวม ณ พระวิหารหลวง วัดสุทัศนเทพวราราม โดยมีสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ทรงเป็นประธานฝ่ายสงฆ์ และ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานฝ่ายฆราวาส และในวันที่ 19 เมษายน 2562 เวลา 06.30 น. เป็นการเชิญคนโทน้ำอภิเษกจากวัดสุทัศนเทพวรารามไปยังพระอุโบสถ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม

ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวอีกว่า สำหรับแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์สำหรับใช้ในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พ.ศ.2562 ประกอบด้วย 2 ส่วน คือ ส่วนที่ 1 น้ำเพื่อใช้ในการพระราชพิธีสรงมุรธาภิเษก ได้แก่ แม่น้ำศักดิ์สิทธิ์ 5 สาย เรียกว่า “เบญจสุทธคงคา” ได้แก่ 1.แม่น้ำบางปะกง  2.แม่น้ำป่าสัก  3.แม่น้ำเจ้าพระยา 4.แม่น้ำราชบุรี 5.แม่น้ำเพชรบุรี และจากสระศักดิ์สิทธิ์ 4 สระ ได้แก่ สระเกษ สระแก้ว สระคงคา และสระยมนา ที่จังหวัดสุพรรณบุรี ส่วนที่ 2 น้ำเพื่อใช้เป็นน้ำอภิเษกจากแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ 76 จังหวัด มี 107 แหล่งน้ำ และกรุงเทพมหานคร 1 แหล่งน้ำ รวม 108 แหล่งน้ำ โดยจังหวัดที่มีแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ 1 แหล่ง มี 60 จังหวัด จังหวัดที่มีแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ 2  แหล่ง มี 7 จังหวัด จังหวัดที่มีแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ 3 แหล่ง มี 5 จังหวัด จังหวัดที่มีแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ 4 แหล่ง มี 3 จังหวัด และจังหวัดที่มีแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ 6 แหล่ง มี 1 จังหวัด

นายฉัตรชัย กล่าวว่า ด้านการจัดทำคนโทน้ำอภิเษก กระทรวงมหาดไทยได้ดำเนินการจัดทำเรียบร้อยแล้ว โดยใช้วัสดุเซรามิกค์ มีความสูง 40 เซนติเมตร กว้าง 20 เซนติเมตร ช่วงท้องเป็นรูปทรงกลม พร้อมฝาปิดลวดลายกระจังเป็นลายน้ำทอง เคลือบสีขาวทั้งใบ ด้านหน้ามีตราสัญลักษณ์งานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พ.ศ.2562 ด้านหลังมีภาพเครื่องหมายราชการจังหวัด และจัดทำขันน้ำสาครพร้อมที่ตักน้ำเพื่อใช้ในพิธีพลีกรรมตักน้ำสำหรับทุกจังหวัดและกรุงเทพมหานคร ทั้งนี้ ทุกจังหวัดได้รับคนโทน้ำและขันน้ำสาครเรียบร้อยแล้ว ด้านการปรับปรุงภูมิทัศน์และบริเวณโดยรอบแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ ทุกจังหวัดได้ดำเนินการปรับปรุงภูมิทัศน์ บริเวณโดยรอบแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์และบริเวณสถานที่ประกอบพิธีทำน้ำอภิเษกแล้วทุกจังหวัด เพื่อให้เกิดความเรียบร้อยและสวยงาม


นายฉัตรชัย กล่าวด้วยว่า สำหรับการเตรียมริ้วขบวนเชิญคนโทน้ำอภิเษกและพิธีเสกน้ำพระพุทธมนต์ ในวันที่ 18-19 เมษายน 2562 กระทรวงมหาดไทยได้จัดเตรียมริ้วขบวนเชิญคนโทน้ำอภิเษก  ซึ่งประกอบด้วยผู้บริหารระดับสูง ผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และข้าราชการของกระทรวงมหาดไทย วงดุริยางค์ กำลังพลกองอาสารักษาดินแดน (อส.) จำนวน 500 คน พร้อมด้วยรถเชิญคนโทน้ำอภิเษก จัดเตรียมและปรับปรุงเส้นทางการเดินขบวนเชิญคนโทน้ำอภิเษกจากกระทรวงมหาดไทยไปยังวัดสุทัศนเทพวราราม และจากวัดสุทัศนเทพวรารามไปยังวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ซักซ้อมการเดินริ้วขบวนให้เกิดความสวยงาม รวมทั้งจัดเตรียมขั้นตอน พิธีการและสถานที่เพื่อประกอบพิธีเสกน้ำพระพุทธมนต์ในพระวิหารวัดสุทัศนเทพวราราม โดยจะมีการซ้อมใหญ่เดินริ้วขบวนในวันที่ 11 เมษายน 2562 และขณะนี้ กระทรวงมหาดไทยพร้อมดำเนินการตามกำหนดพิธีการและขั้นตอนการจัดทำน้ำอภิเษก ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและสมพระเกียรติตามโบราณราชประเพณี.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ตรวจสอบบ้านลักลอบทำประทัดไล่นก บึ้มกลางชุมชน

สุพรรณบุรี 31 ก.ค. – จากเหตุบ้านที่ลักลอบทำประทัดไล่นก เกิดระเบิดขึ้น ทำให้มีผู้เสียชีวิต วันนี้ตำรวจเข้าเก็บหลักฐานเพิ่มเติม ยืนยันว่าที่เกิดเหตุไม่ใช่โรงงาน แต่เป็นที่ลักลอบทำ ที่น่าตกใจคือหลังเกิดเหตุชาวบ้านโดยรอบบอกว่า ไม่เคยรู้มาก่อนว่าบ้านดังกล่าวลักลอบทำประทัดไล่นก จี้หน่วยงานตรวจสอบ กลัวว่าอาจจะมีบ้านที่ลักลอบทำอีก.-สำนักข่าวไทย

พระราชทานน้ำหลวงอาบศพ 7 ผู้บริสุทธิ์

ศรีสะเกษ 31 ก.ค. – ที่จังหวัดศรีสะเกษ มีพิธีพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ 7 ผู้บริสุทธิ์ ที่เสียชีวิตบริเวณปั๊มน้ำมัน ในพื้นที่ อ.กันทรลักษ์ จากการโจมตีของกัมพูชา ที่วัดมหาพุทธาราม หรือวัดพระโต พระอารามหลวง จ.ศรีษะเกษ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระบรมราชานุเคราะห์ ในการพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ และวางพวงมาลาพระราชทาน แก่ประชาชน รวม 7 คน ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ความความไม่สงบ ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยผู้เสียชีวิต 6 คน เป็นประชาชนเสียชีวิตบริเวณปั๊มน้ำมัน ในพื้นที่บ้านผือ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีษะเกษ และอีก 1 คนเสียชีวิตจากระเบิดลงบ้าน ในพื้นที่หมู่ที่ 4 ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ โดยมีนายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ เป็นประธานในพิธี พร้อมครอบครัวผู้เสียชีวิต และมีพิธีการบำเพ็ญกุศลสวดพระอภิธรรมทุกคืน ถึงวันที่ 2 ส.ค.นี้ ก่อนจะมีพิธีพระราชทานเพลิงศพ 3 สิงหาคมนี้ ด้านนายคมสันต์ […]

พบโดรนปริศนาหลายพื้นที่ คาดเป็นโดรนจารกรรม

บุรีรัมย์ 31 ก.ค. – แม้จะมีประกาศห้ามบินโดรนทั่วประเทศตั้งแต่เมื่อวานนี้ แต่ในหลายพื้นที่ยังตรวจพบโดรนปริศนาขึ้นบิน เบื้องต้นคาดเป็นโดรนสอดแนม ขณะที่วิทยุการบินฯ วอนประชาชนร่วมมือ หากฝ่าฝืนจะใช้มาตรการทางทหารจัดการทันที เมื่อเวลาประมาณ 23.00 น. คืนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยสว่างจรรยา จุด อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ ใช้โทรศัพท์บันทึกภาพโดรนที่บินเหนือ รพ.เฉลิมพระเกียรติ ไว้ได้ และยังพบว่ามีโดรนบินเหนือบ้านตะโก, บ้านยายคำ, ตลาดตาเป๊กและบ้านเจริญสุข รวมทั้งหมด 4 แห่ง บินวนเวียนประมาณ 5 นาที จึงพยายามตรวจสอบโดยรอบพื้นที่ ก่อนจะพบรถตู้ยี่ห้อฮุนไดสีดำจอดอยู่ เชื่อว่าน่าจะเป็นเจ้าของโดรน เมื่อเข้าไปสอบถามคนในรถตู้ ที่เปิดกระจกลงมาพูดคุย เห็นภายในรถตู้มีคนประมาณ 3-4 คน มีอุปกรณ์คล้ายเครื่องควบคุมอะไรบางอย่างอยู่ในรถ จึงสอบถามว่าจะไปที่ไหน ได้รับคำตอบว่าจะไปสระแก้ว หลังจากนั้นรถตู้ได้ขับหนีออกไปอย่างรวดเร็ว แม้จะพยายามขับรถไล่ตามแต่ตามไม่ทัน เชื่อว่าเป็นโดรนของกัมพูชามาบินสอดแนมอย่างแน่นอน ส่วนที่ อำเภอบ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ตรวจพบโดรนปริศนาหลายสิบลำ บินว่อนเหนือพื้นที่อำเภอบ้านกรวด ครอบคลุมพื้นที่ 7 ตำบล คือ ตำบลสายตะกู ตำบลจันทบเพชร […]

ทบ. เชิญผู้ช่วยทูตทหารอาเซียนรับฟังข้อเท็จจริงชายแดนไทย-กัมพูชา

กทม. 31 ก.ค.- ทบ. เชิญผู้ช่วยทูตทหารอาเซียนร่วมหารือและรับฟังการชี้แจงข้อเท็จจริง อัปเดตสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา หลังตั้งทีมเฝ้าติดตามหยุดยิงชายแดนไทย-กัมพูชา วันนี้ (31 ก.ค.68) พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า กองทัพบกโดยกรมข่าวทหารบก ร่วมหารือกับผู้ช่วยทูตทหารอาเซียนประจำประเทศไทย นำโดยผู้ช่วยทูตทหารมาเลเซียประจำประเทศไทย ณ อาคารศรีสิทธิสงคราม ภายในกองบัญชาการกองทัพบก โดยมี พล.ท.กำชัย วงศ์ศรี เจ้ากรมข่าวทหารบก เป็นประธานในการหารือ การหารือครั้งนี้มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อหารือเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา รวมทั้งการจัดตั้ง Interim ASEAN Defence Attaches Monitoring Team (Interim ASEAN DAs Monitoring Team) ในการปฏิบัติหน้าที่สังเกตการณ์สถานการณ์หยุดยิง (Ceasefire) ตามแนวชายแดนไทยกัมพูชา ซึ่งการหารือในครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากข้อตกลงหยุดยิง ที่ประเทศมาเลเซีย เมื่อวันที่ 28 ก.ค.68 ที่ผ่านมา ซึ่งมีการเห็นพ้องร่วมกันในการจัดตั้งทีมเฝ้าติดตามชั่วคราวของฝ่ายทูตทหารจากชาติสมาชิกอาเซียนโดยเร่งด่วน เพื่อเป็นกลไกเบื้องต้นในการติดตามสถานการณ์และสร้างความไว้วางใจระหว่างทั้งสองฝ่าย นอกจากนี้ในที่ประชุมได้มีการหารือเกี่ยวกับการจัดตั้งกลไก ASEAN Monitoring Team (AMIT) ในอนาคต […]