กรุงเทพฯ 2 เม.ย. – สสว. จับมือ ซีอีเอ ร่วมกันยกระดับอุตสาหกรรมสปาไทย ด้วยความคิดสร้างสรรค์ ติดสปีด “สปา-นวดไทย” ด้วยบันได 5 ขั้น สู่ ธุรกิจบริการเพื่อสุขภาพเกรดพรีเมียมระดับสากล
นายสุวรรณชัย โลหะวัฒนกุล ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) กล่าวว่า “ธุรกิจสปา” ธุรกิจเพื่อสุขภาพและความงามของไทย ยังได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างประเทศต่อเนื่อง โดยกลุ่มนักท่องเที่ยวหลักที่ชื่นชอบการทำสปา คือ จีน ฮ่องกง และไต้หวัน ทั้งนี้สปาไทยมีจุดแข็งด้านการให้บริการ และสมุนไพร ซึ่งเป็นวัตถุดิบจากธรรมชาติ ดังนั้น ธุรกิจสปาและนวดไทย จึงถือเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่มีความสำคัญและขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศ และช่วยสร้างอาชีพให้กับบุคคลทั่วไปได้มีรายได้ ขณะเดียวกัน ยังก่อให้เกิดรายได้แก่อุตสาหกรรมอื่นที่เชื่อมโยงในกระบวนการสปา นับตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำอย่าง อุตสาหกรรมเกษตรและการท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก
นายอภิสิทธิ์ ไล่สัตรูไกล ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (CEA) กล่าวว่า ปัจจุบัน ภาพรวมอุตสาหกรรมสปาของไทย ติดอันดับที่ 16 ของโลก และเป็นอันดับที่ 5 ของเอเชีย จากการประมาณการโดย Global Wellness Institute (GWI) และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยปีนี้คาดจะมีมูลค่าตลาด 37,000 ล้านบาท จากมูลค่าตลาดโลกรวม 2.7 ล้านล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 8 เทียบกับปีที่ผ่านมา ซึ่งขณะนี้มีผู้ประกอบการด้านสปาที่จดทะเบียนกับกรมการแพทย์แล้วกว่า 2,000 ราย โดยในระยะต่อไปจะหารือกับผู้ประกอบการเพื่อผลักดันให้อุตสาหกรรมสปาของไทยขึ้นอันดับ 1 ใน 10 ของโลกในระยะถัดไป โดยจะมุ่งยกระดับอุตสาหกรรมสปาไทยได้เปรียบด้านวัฒนธรรม วัตถุดิบทางการเกษตร ชื่อเสียงด้านบริการและการท่องเที่ยว สู่อุตสาหกรรมสปาไทยให้สามารถแข่งขันได้ในระดับโลก สอดคล้องกับนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพของรัฐบาล ที่มุ่งผลักดันให้ประเทศไทยก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางด้านสปา เวลเนส และนวดไทยระดับโลก
นอกจากนี้ การที่จะลบภาพลักษณ์ธุรกิจสีเทาได้ ต้องคัดคุณภาพ เช่น วิธีการนวด จะเป็นนวดไทย นวดแบบสวีดิช หรือนวดแบบอื่นๆต้องชัดเจนด้วยศาสตร์เฉพาะพาง ไม่ส่อไปทางกามรมณ์หรือธุรกิจสีเทา กระบวนการจัดการที่โปร่งใส สถานที่ต้องจัดให้ลูกค้าสัมผัสได้ว่า ยินดีต้อนรับสู่บริการด้านสุขภาพ เชื่อว่าจะสามารถช่วยแก้ปัญหาได้อีกทางหนึ่ง
ทั้งนี้ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) หรือ CEA ได้ร่วมกับ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) ดำเนินกิจกรรม “ยกระดับและเพิ่มมูลค่าอุตสาหกรรมสปาไทย” (Creative Spa & Wellness Thailand) ภายใต้โครงการส่งเสริมและพัฒนาธุรกิจระดับเติบโต (SME Regular Level) ปี 2562 เพื่อเป็นการยกระดับศักยภาพผู้ประกอบการอุตสาหกรรมสปาไทย ด้วยกระบวนการคิดสร้างสรรค์ สร้างจุดขายให้แบรนด์และเพิ่มมูลค่าธุรกิจ ผ่าน 5 กิจกรรมหลัก ประกอบด้วย 1. การจัดอบรมสัมมนาเทรนด์ธุรกิจสปา เพื่อกระตุ้นแนวทางการสร้างจุดขายใหม่ของผลิตภัณฑ์หรือบริการสปา เวลเนส และนวดไทย แนวโน้มการตลาดสปา (Spa Market & Trends) การออกแบบและการเพิ่มมูลค่า (Design & Value Creation) การสร้างแบรนด์และการตลาด (Creative Spa Branding & Digital Marketing)
2. การอบรมเชิงปฏิบัติการเพื่อสร้างจุดขายที่แตกต่าง สำหรับกลุ่มธุรกิจบริการ และกลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์ เพื่อสร้างไอเดียและปรับกลยุทธ์ในการสร้างจุดขายที่แตกต่าง ผ่านการออกแบบบริการ (Service Design) การพัฒนาผลิตภัณฑ์ (Product Development)
3. การให้คำปรึกษาเชิงลึกโดยผู้เชี่ยวชาญ ด้วยการลงพื้นที่เยี่ยมธุรกิจอย่างใกล้ชิด เพื่อแนะนำการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต พร้อมทั้งสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าหรือบริการ
4. การพัฒนาการออกแบบผลิตภัณฑ์และบริการ ให้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวและสร้างมูลค่าเพิ่ม
5. การออกงานแสดงสินค้าในต่างประเทศ การนำผลิตภัณฑ์หรือสินค้าของผู้ประกอบการมาต่อยอดทางธุรกิจด้วยช่องทางการขายและทดสอบตลาดในต่างประเทศ
ทั้งนี้ โครงการดังกล่าว กำลังเปิดรับสมัครผู้ประกอบการสปาและนวดไทยจากทั่วประเทศเพื่อพัฒนาศักยภาพในการดำเนินธุรกิจด้วยความคิดสร้างสรรค์อย่างเข้มข้น โดยกิจกรรมจะเกิดขึ้นภายในเดือนเมษายน – สิงหาคม 2562 ด้วยการอบรมเชิงปฏิบัติการ การให้คำปรึกษาเชิงลึก พัฒนาการออกแบบผลิตภัณฑ์และบริการ และคัดเลือก 15 ผู้ประกอบการ เพื่อทดสอบตลาดในต่างประเทศเป็นลำดับต่อไป
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) กรุงเทพฯ โทรศัพท์ 02-105-7441 หรือติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ www.facebook.com/creative.spa.thailand . – สำนักข่าวไทย