รฟท.เปลี่ยนระบบจำหน่ายตั๋วโดยสารไทย-มาเลเซียใหม่

รฟท. 26 ส.ค.-การรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) ปรับเปลี่ยนระบบการจำหน่ายตั๋วโดยสารกับขบวนรถด่วนพิเศษระหว่างประเทศใหม่ จากเดิมระหว่างสถานีปาดังเบซาร์-บัตเตอร์เวอร์ธ-ปาดังเบซาร์ เป็นตั๋วโดยสารระหว่างสถานีกรุงเทพ-ปาดังเบซาร์-กรุงเทพ มีผลตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน เป็นต้นไป ส่วนผู้โดยสารที่ต้องการต่อขบวนรถไฟฟ้าของมาเลเซีย ต้องชำระค่าโดยสารเพิ่มตามที่กำหนด


นายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร ผู้ว่าการรฟท. เปิดเผยว่า รฟท.ได้ปรับเปลี่ยนระบบการจำหน่ายตั๋วโดยสารกับขบวนรถด่วนพิเศษระหว่างประเทศที่ 35/36 ใหม่ จากเดิมระหว่างสถานีปาดังเบซาร์-บัตเตอร์เวอร์ธ-ปาดังเบซาร์ เป็นตั๋วโดยสารระหว่างสถานีกรุงเทพ-ปาดังเบซาร์-กรุงเทพ โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2559 เป็นต้นไป ส่วนผู้โดยสารที่ต้องการเดินทางระหว่างสถานีปาดังเบซาร์-บัตเตอร์เวอร์ธ-ปาดังเบซาร์ จะต้องไปต่อขบวนรถไฟฟ้าของมาเลเซีย พร้อมชำระค่าโดยสารเพิ่มตามที่การรถไฟมาเลเซียกำหนดไว้

“เดิมการจำหน่ายตั๋วล่วงหน้าสามารถจำหน่ายได้ถึงสถานีบัตเตอร์เวอร์ธ โดยผู้โดยสารต้องลงต่อรถจากรถไฟของไทยไปต่อรถไฟฟ้าของมาเลเซีย แต่ระหว่างนั้นมีผู้โดยสารสารหลายคนประสบปัญหาขึ้นรถผิดขบวน ทำให้ต้องเสียค่าโดยสารเพิ่ม ซึ่งรฟท.จะเร่งประชาสัมพันธ์การให้บริการเดินรถในเส้นทางดังกล่าว พร้อมกับปรับระบบการจำหน่ายตั๋วโดยสารใหม่เพื่อลดปัญหาที่เกิดขึ้น”ผู้ว่าการรฟท.กล่าว


นายวุฒิชาติ กล่าวอีกว่า สำหรับตั๋วโดยสารขบวนรถด่วนพิเศษที่ 35/36 ระหว่างสถานีปาดังเบซาร์-บัตเตอร์เวอร์ธ-ปาดังเบซาร์ ที่มีการจำหน่ายให้ผู้โดยสารล่วงหน้าไปนั้น ผู้โดยสารยังคงใช้เดินทางได้ถึงสถานีปาดังเบซาร์ และสามารถเดินทางต่อด้วยรถโดยสารกับขบวนรถไฟฟ้า EMU ซึ่งเป็นขบวนรถธรรมดาของมาเลเซียโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายแต่จะต้องแสดงตั๋วโดยสารแก่เจ้าหน้าที่ขบวนรถให้รับทราบ แต่ถ้าเกิดผู้โดยสารไปต่อรถด้วยขบวนรถไฟฟ้าชนิด Intercity หรือ ETS Train ซึ่งเป็นประเภทรถด่วนพิเศษจะต้องชำระค่าโดยสารเพิ่มในอัตราที่การรถไฟมาเลเซียกำหนด นอกจากนี้ ในการเปิดสำรองที่นั่งให้กับผู้โดยสารทางอีเมล์ รฟท.จะส่งข้อความแจ้งผู้โดยสารทราบก่อนสำรองที่นั่ง พร้อมข้อมูลการเดินทางต่อเนื่องจากสถานีปาดังเบซาร์ ตลอดเส้นทางสถานีบัตเตอร์เวอร์ธ ประเทศมาเลเซียทุกครั้ง ส่วนตั๋วที่สำรองไว้ล่วงหน้าให้อีเมล์แจ้งข้อมูลการเดินทางแก่ผู้โดยสารด้วยเช่นกัน-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”