ไฟแนนซ์บุกยึดรถกลางโรงเรียนที่กระบี่ ถูกทำร้ายเจ็บ 1 ราย

กระบี่ 28 มี.ค.-ไฟแนนซ์บุกยึดรถเก๋งสาววัย 37 ปี กลางโรงเรียนดังเมืองกระบี่ ขณะพาลูกมาสมัครเรียน จึงโทรขอความช่วยเหลือจากเพื่อน จนเกิดการปะทะกัน บาดเจ็บ 1 ราย


เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสายตรวจ สภ.เมืองกระบี่ เข้าตรวจสอบภายในโรงเรียนเทศบาล 2 (คลองจิหลาด) ต.ไสไทย อ.เมือง จ.กระบี่ หลังรับแจ้งเหตุมีการขโมยรถยนต์ภายในโรงเรียนดังกล่าว และเกิดการทะเลาะวิวาทกัน จนมีผู้บาดเจ็บ 1 ราย เมื่อไปถึงพบเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิประชาสันติสุขนำตัวผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลกระบี่ เป็นชายไม่ทราบชื่อ อายุประมาณ 30 ปี มีบาดแผลถลอกฟกช้ำตามร่างกาย ทราบภายหลังว่าเป็นคนของบริษัทไฟแนนซ์แห่งหนึ่ง ที่เกิดเหตุพบรถยนต์เก๋งสีดำจอดอยู่ โดยมี น.ส.ดวงใจ นนทสิทธิ์ อายุ 37 ปี เป็นผู้ขับขี่รถคันดังกล่าว ยืนอยู่ข้างรถ ในอาการตื่นตระหนก  

นางสาวดวงใจ เล่าว่า ขณะที่ตนกำลังพาลูกมาสมัครเรียนชั้น ม.ต้น ที่โรงเรียนที่เกิดเหตุ มีกลุ่มชายฉกรรจ์ 3 คน แต่งตัวดี เดินตามและเข้ามาดึงกุญแจรถ ตนรู้สึกตกใจมาก เกรงว่ากลุ่มชายดังกล่าวจะขโมยรถ จึงโทรขอความช่วยเหลือจากเพื่อน ระหว่างนั้นได้บอกกับกลุ่มชายฉกรรจ์ว่ารถไม่ใช่ของตน เป็นรถที่ยืมมาจากเพื่อน ตนไม่รู้เรื่อง ขณะเดียวกันกลุ่มเพื่อนๆ มาถึงพอดี ได้เกิดการปะทะกันขึ้นจนเกิดการชุลมุน ต่อหน้าเด็กๆ ที่มาสมัครเรียน จนหนึ่งในกลุ่มชายฉกรรจ์ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะเข้ามาระงับเหตุ ขณะที่เพื่อนของนางสาวดวงใจบอกว่าการที่มายึดรถในสถานที่ราชการเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม และกระทำการเกินกว่าเหตุ


ล่าสุดนางสาวดวงใจได้แจ้งความที่ สภ.เมืองกระบี่ เอาผิดกับกลุ่มชายฉกรรจ์ที่ยึดกุญแจรถแล้ว ในข้อหาร่วมกันปล้นทรัพย์โดยใช้กำลังตั้งแต่ 3 คนขึ้นไป ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้สอบปากคำพยานในเหตุการณ์ ติดตามตัวกลุ่มผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดี ส่วนกรณีการทำร้ายกันจนได้รับบาดเจ็บนั้น หากมีการแจ้งความจะดำเนินการไปตามกฎหมาย ซึ่งจะให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย