นักวิชาการ มสธ.วิเคราะห์ปัจจัย ‘อนาคตใหม่’ ติดTOP3

สำนักข่าวไทย 25 มี.ค.-นักวิชาการชี้ วิธีคิดเเละการทำงานการเมืองเเบบใหม่ หัวใจสำคัญให้ ‘อนาคตใหม่’ ประสบความสำเร็จ ติด Top3 คะเเนน เสียงสูง เเซงหน้าพรรคใหญ่หน้าเดิม สะท้อนสังคมเปิดกว้างคนทุกช่วงวัยอยากเห็นความต่าง แนะพรรคระวังการตีกลับของกระเเสหากนโยบายที่เสนอทำไม่ได้จริง


นายยุทธพร อิสรชัย อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช (มสธ.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่พรรคอนาคตใหม่ พรรคการเมืองน้องใหม่ได้รับคะเเนนเลือกตั้งเป็นอันดับ 3 ของประเทศ นำพรรคประชาธิปัตย์เเละพรรคภูมิใจไทยขาดลอย ว่า เรื่องนี้พอคาดหมายได้ เพราะในกระเเสความเปลี่ยนแปลง ณ วันนี้ มีความเปลี่ยนค่อนข้างมากในช่วง 7-8 ปีที่ไม่ได้มีการเลือกตั้ง ในกรณีอนาคตใหม่เป็นพรรคการเมืองที่ตั้งใหม่ มีวิธีคิด วิธีการทำงานการเมืองที่ค่อนข้างใหม่ ซึ่งสามารถตอบสนองการเปลี่ยนเเปลงเหล่านี้ได้ดี


ความเปลี่ยนเเปลงดังกล่าว ประกอบด้วย 2 เรื่องใหญ่ เรื่องเเรก ความเปลี่ยนเเปลงเชิงโครงสร้างประชากร วันนี้เรามีกลุ่มผู้ไปใช้สิทธิเลือกตั้งที่หลากหลาย มีทั้งกลุ่มแรกที่เป็น First Voter ซึ่งเลือกตั้งครั้งแรกอายุ 18-25 ปี คนกลุ่มนี้มีวิธีคิดทางการเมืองรูปแบบหนึ่ง

กลุ่มที่สองYoung Voter อายุ 26-45 ปี เป็นกลุ่มที่น่าสนใจ เติบโตมาใน ช่วง10 ปีที่มีความขัดเเย้งทางการเมือง ซึ่งได้รับผลกระทบทางการเมืองโดยตรง จึงทำให้มีภูมิทัศน์ทางการเมืองที่เปลี่ยนไป เพราะอาจเห็นว่าการเมืองหยุดนิ่งมานาน ไม่อยากอยู่ในวังวนความขัดเเย้งเหมือนเดิมอีก ,  เฉพาะกลุ่มที่ 1เเละ 2 รวมกัน 27 ล้านเสียง 

ขณะที่กลุ่มที่ 3 กลุ่มวัยกลางคน อายุ 46-60 ปี มีบางส่วนที่มีทัศนคติที่ผูกพันกับกลุ่มการเมืองเก่าเเละสุดท้ายกลุ่ม Senior voter หรือกลุ่มอาวุโส ซึ่งออกไปใช้สิทธิจำนวนไม่น้อย ซึ่งความเปลี่ยนเเปลงเชิงโครงสร้างประชากรทำให้ภาพรวมผลการเลือกตั้งทั้ง 4 กลุ่ม มีความหลากหลายมาก มีทั้งพรรคการเมืองเก่าที่ตรึงทางเสียงได้ เช่น เพื่อพรรค หรือพรรคใหม่ที่ใช้ยุทธศาสตร์ในการรวบรวมบรรดาเครือข่ายในการดึง ส.ส.ทำคะเเนนเสียง อย่าง พลังประชารัฐ , พื้นที่พรรคการเมืองใหม่ อย่างอนาคตใหม่ เพราะในช่วงที่ผ่านมา เราไม่เห็นพรรคการเมืองเดิมทำงานการเมืองในรูปแบบใหม่เลย จนทำให้การทำงานการเมืองเเบบเก่า ไม่สามารถดึงคะเเนนเสียงของบรรดาคนรุ่นใหม่ได้ คะเเนนเหล่านี้จึงไปตกที่พรรคการเมืองที่ตั้งใหม่ 


อย่างไรก็ตาม ในบรรดากลุ่มVoter เเต่ละกลุ่มก็ไม่ได้มีทิศทางไปทางเดียว กันทั้งหมด บางครั้งคนรุ่นใหม่เเต่มีความคิดอนุรักษ์นิยมก็มี คนรุ่นเก่าเเต่ความคิดหัวก้าวหน้าก็มี ดังนั้นในกรณีอนาคตใหม่ จึงสามารถเก็บคะแนนได้จากหลายกลุ่ม ซึ่งสะท้อนจากที่พรรคได้พื้นที่ใน ส.ส.เขตด้วย จากเดิมที่คาดว่าจะได้แค่ปาร์ตี้ลิสต์ ซึ่งตรงนี้มาจากความสำเร็จมีวิธีการทำงานที่มีการรับสมัครผู้สมัคร ส.ส.เเบบเเบ่งเขตเลือกตั้ง โดยเปิดโอกาสให้บุคคลซึ่งเป็นหน้าใหม่ทางการเมือง ไม่มีเครือข่ายในพื้นที่ เเต่สามารถสมัครได้ผ่านเว็บไซต์ ซึ่งพรรคมีกระบวนการคัดสรรบุคลากรเหล่านี้ สะท้อนภาพการทำงานการเมืองเเบบใหม่ ทั้งทำให้คนรู้สึกมีความเป็นส่วนร่วม ซึ่งถือเป็นการสร้างฐานเสียงไปในตัว ความสดใหม่ของพรรคการเมืองของผู้สมัครในเเต่ละพื้นที่ทำให้น่าสนใจ ไม่เคยมีประเด็นความขัดเเย้งมาก่อน ทำให้บางพื้นที่พรรคอนาคตใหม่ไม่จำเป็นต้องหาเสียงเลยก็ได้ จึงย้ำว่าเป็นการใช้ความคิดในการทำงานการเมืองไม่ได้ใช้เครือข่ายการเมืองสร้างคะเเนนเสียง

ขณะเดียวกันความเปลี่ยนเเปลงอีกด้าน คือความเปลี่ยนเเปลงด้านเทคโนโลยี ทำให้กระบวนการหาเสียงต่างจากเดิม อาจไม่จำเป็นต้องเดินลงพื้นที่เคาะประตูบ้านเพียงอย่างเดียวใช้การหาเสียงผ่านสื่อโซเซียลมีเดีย ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ สร้างภาพลักษณ์หัวหน้าพรรคให้โดดเด่นผ่านขบวนการดีเบตต่างๆ ซึ่งทั้งสองความเปลี่ยนเเปลงเป็นส่วนที่อนาคตใหม่สามารถกำหนดวิธีทำงานทางการเมืองให้สอดรับการเปลี่ยนเเปลงได้ จึงเป็นปัจจัยเเห่งความสำเร็จของอนาคตใหม่ในการเลือกตั้งครั้งนี้

นายยุทธพร กล่าวต่อไปว่า พรรคอนาคตใหม่มาถูกที่ถูกเวลา มาในช่วงคนเบื่อหน่ายพรรคการเมืองเเบบเก่า เมื่อผลคะเเนนได้ที่นั่ง ส.ส.ในเเต่ละพื้นที่ เเละส.ส.บัญรายชื่อรวมกัน 80 กว่าที่นั่ง ซึ่งถือว่าเยอะมากสำหรับพรรคการเมืองที่ตั้งใหม่ มุมหนึ่งสะท้อน คนเเต่ละกลุ่มมีการเปิดใจรับมากขึ้น มีความหลากหลายทางความคิด ส่งผลให้อนาคตของการเมืองไทยไม่เหมือนเดิม ความเปลี่ยนแปลงในไทยจะไม่เหมือนอดีต หากพรรคใดต้องการประสบความสำเร็จจึงต้องเปลี่ยนวิธีคิดย้อนกลับไปเหมือนกับการเมืองในปี 2544 ในเวลานั้นเมื่อมีพรรคการเมืองที่หยิบจับการตลาดทางการเมืองมาใช้ ก็ได้รับเสียงตอบรับดี หลายพรรคทำตาม เเต่วันนี้เกือบ 20 ปี การทำงานโดยการตลาดอาจไม่ประสบความสำเร็จ เเต่ใช้การเมืองมิติใหม่ อาจเป็นคำตอบใหม่ของการเมือง มองมิติหลากหลาย อาทิ ไม่ใช่เเค่การเมืองในสภา เเต่เป็นการเมืองสิ่งแวดล้อม พลังงาน เพศสภาพ ความเสมอภาค ซึ่งประเด็นเหล่านี้เป็นประเด็นที่อนาคตใหม่นำมาเป็นนโยบาย ความสำเร็จของการคิดเเละการทำงานเเบบใหม่ จึงหัวใจหลักของอนาคตใหม่ ซึ่งพรรคการเมืองเดิมเปลี่ยนได้ยาก เนื่องจากวัฒนธรรมองค์กรเดิม ระบบอาวุโสต่างๆในพรรค การทำงานเเบบเดิมๆ

อย่างไรก็ตามหากมองอนาคตของพรรคอนาคตใหม่ ที่มีนโยบายหลายด้าน ซึ่งค่อนข้างเปลี่ยนโครงสร้างสังคมการเมือง ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายนัก หลังจากนี้ไปพรรคอนาคตใหม่ต้องระวัง คือการพลิกกลับของคะเเนนนิยม เพราะถ้าสุดท้าย สิ่งที่เสนอเเล้วทำไม่ได้ เรื่องความคาดหวังทางการเมืองจะเป็นปัญหาใหญ่สำหรับพรรค เเละพรรคเองยังเป็นคนหน้าใหม่สำหรับการเมือง ยังไม่เคยสัมผัสการเมืองในเเบบรัฐสภา ที่ข้อจำกัดทางการเมืองมีมาก ไม่ว่าจะเรื่องกฎหมาย วิธีการทำงานหรือกลไกระบบรัฐสภา พรรคจะมีวิธีการอย่างไรที่จะทะลุข้อจำกัดเหล่านี้ได้ เพราะไม่อย่างนั้นการเลือกตั้งครั้งต่อไป จะถูกตั้งคำถามว่าสิ่งที่ได้เสนอจะทำได้จริงหรือไม่.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทย เจ้าตัวคุม “โยธาฯ-ปค.”

กระทรวงมหาดไทย 14 ก.ค. –“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทยแล้ว เจ้าตัวคุม “โยธาฯ – ปค.” ฟาก “เดชอิศม์” คุม “ที่ดิน – สถ.” สางปัญหาที่ดิน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย รักษาราชการนายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้แบ่งงานกับทั้ง 2 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งการทำงานของทั้ง 3 คนเราทำงานเป็นทีมเดียวกัน ส่วนหลักเกณฑ์การแบ่งก็กระจายให้ทั่วถึงเพื่อช่วยกันดูแล โดยตนกำกับดูแลกรมโยธาธิการและผังเมือง กรมการปกครอง สำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย การประสานงานส่วนราชการในสังกัด กระทรวงมหาดไทยตาม พ.ร.บ.การบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2553 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปาส่วนภูมิภาค และดูหน่วยงานส่วนที่เหลือทั้งหมด โดยทั้งหมดสงวนไว้ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณ และบุคคลซึ่งตนเป็นผู้ดูแล นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ได้มอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย กำกับดูแล กรมการพัฒนาชุมชน เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับสตรีและการดำเนินการเรื่องผ้าไทย รวมถึงกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมณศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]

ส่งตัวดำเนินคดี นักท่องเที่ยวไทยทำร้ายทหารกัมพูชา

สุรินทร์ 13 ก.ค.-ทบ. เผยนักท่องเที่ยวไทยต่อยทหารกัมพูชา ที่ปราสาทตาเมือนธม เป็นอดีตทหารพราน ส่งตัวให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 13 ก.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบกกล่าวถึงกรณีที่งนักท่องเที่ยวชาวไทย ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ว่า กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี ว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.20 น. ได้เกิดเหตุการณ์นักท่องเที่ยวชาวไทยทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ณ บริเวณปราสาทตาเมือนธม โดยผู้ก่อเหตุได้ชกเจ้าหน้าที่กัมพูชา ทั้งทางด้านหลังและด้านหน้า ก่อนจะหลบหนีออกจากพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยสามารถติดตามและควบคุมตัวได้ในเวลาต่อมา จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายสมหมาย ศรีศุกรานันทน์ อดีตอาสาสมัครทหารพราน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานชมรมทหารพรานจิตอาสาค่ายปักธงชัย และประธานเครือข่ายทหารผ่านศึกจังหวัดสมุทรสาคร ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณพื้นที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทางเจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายไทย ได้ทำความเข้าใจกับผู้เสียหายไปแล้วในเบื้องต้น เพื่อพยายามไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ในระดับเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย สำหรับผู้ก่อเหตุ ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เตือนฝนตกหนักบางแห่ง-กทม.ฟ้าคะนอง 60%

กรุงเทพฯ 15 ก.ค. – กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักบางแห่งบริเวณ จ.เชียงราย พะเยา น่าน หนองคาย บึงกาฬ อุดรธานี สกลนคร นครพนม และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนัก อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล ฝนฟ้าคะนอง 60% และฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนองและมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าว โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดเชียงราย พะเยา น่าน หนองคาย บึงกาฬ อุดรธานี สกลนคร นครพนม และตราด ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้ เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังค่อนข้างแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง คลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่าง มีคลื่นสูงประมาณ […]

ป.ป.ช.ตั้งองค์คณะไต่สวนจริยธรรมร้ายแรง “แพทองธาร” คลิปคุย “ฮุนเซน”

กทม. 14 ก.ค. – ป.ป.ช. มติเอกฉันท์ตั้งองค์คณะไต่สวนจริยธรรมร้ายแรงต่อ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ปมคลิปเสียงคุยกับ “ฮุน เซน” ที่สำนักงาน ป.ป.ช. วันนี้มีรายงานว่าคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)ได้ประชุม และมีมติเป็นเอกฉันท์ให้แต่งตั้งองค์คณะไต่สวน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กรณีปรากฏคลิปเสียงสนทนากับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ซึ่งมีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับความขัดแย้งบริเวณแนวชายแดน ไทย-กัมพูชา โดยนายสุชาติ ตระกูลเกษมสุข ประธานกรรมการ ป.ป.ช. และนายประภาศ คงเอียด กรรมการ ป.ป.ช. ร่วมเป็นองค์คณะไต่สวน การตั้งองค์คณะไต่สวนครั้งนี้ เป็นไปตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา51 ซึ่งเปิดช่องให้ ป.ป.ช. ตั้งกรรมการไม่น้อยกว่า 2 คนไต่สวนได้ในกรณีที่เกี่ยวข้องกับผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองระดับสูงมีผลกระทบต่อสาธารณะอย่างกว้างขวางหรือเกี่ยวพันกับองค์กรตุลาการ ก่อนหน้านี้ ป.ป.ช. มีมติรับเรื่องไว้พิจารณาเบื้องต้น และมอบหมายให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงภายใน 10 วัน โดยให้มีการถอดเทปคำสนทนาและจัดทำคำแปลจากภาษาต่างประเทศอย่างถูกต้อง ครอบคลุมการสอบพยาน และการศึกษา คดีเปรียบเทียบ เช่น […]

เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ลาสิกขา ปมโอน 13 ล้าน

พระนครศรีอยุธยา 14 ก.ค. – เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ สมัครใจลาสิกขา หลังโอนเงินกว่า 13 ล้าน ให้ “สีกากอล์ฟ” ยืนยันไม่มีสัมพันธ์เชิงชู้สาว แต่ยอมรับว่า “อ่อนต่อโลก” พระเทพพัชราภรณ์ อดีตเจ้าอาวาสวัดชูจิตธรรมาราม อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ทำพิธีลาสิกขาด้วยความสมัครใจในวันนี้ ภายหลังจากเจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) และกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ปปป.) ลงพื้นที่ตรวจสอบเส้นทางการเงินของวัด พร้อมสอบปากคำพระเทพพัชราภรณ์ อดีตเจ้าอาวาสฯ นานเกือบ 3 ชั่วโมง พันตำรวจโท สิริพงษ์ ศรีตุลา ผู้ช่วยเลขาธิการ ป.ป.ท. เปิดเผยว่า อดีตเจ้าอาวาสฯ เต็มใจลาสิกขา เข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย เพราะจากการตรวจสอบเส้นทางการเงินของสีกากอล์ฟ พบว่า เส้นเงินถูกโอนจากบัญชีส่วนตัวของอดีตเจ้าอาวาสฯ ซึ่งเจ้าตัวยอมรับว่า เป็นเงินที่ได้มาจากการรับกิจนิมนต์และสอนหนังสือ โดยโอนไปให้สีกากอล์ฟ รวม 12.8 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังมีเงินจากบัญชีวัดอีก 3.8 แสนบาท ซึ่งมีทั้งโอนผ่านโทรศัพพ์และให้เป็นเงินสด เริ่มโอนตั้งแต่เดือนมกราคมไปจนถึงเดือนกรกฎาคม 2567 ซึ่งในเดือนเดียวกันพบว่าโอนให้สีกากอล์ฟ […]

แก๊งจีนดำลวงเพื่อนร่วมชาติเรียกค่าไถ่ สังหารโหด

เชียงราย 14 ก.ค. – ตำรวจเร่งคลี่คลายคดีแก๊งจีนดำฆ่าจีนเทา หลอกเพื่อนร่วมชาติมาเรียกค่าไถ่ที่เชียงใหม่ สังหารโหด และนำศพทิ้งกลางป่า ตำรวจพบศพนายหยาง อายุ 24 ปี สัญชาติจีน ถูกห่อด้วยถุงดำ และผ้าปูที่นอน แล้วใช้ผ้ายางพลาสติกห่อทับอีกชั้น ถูกนำมาทิ้งไว้ที่ป่าละเมาะข้างทางริมถนน ใกล้กับหมู่บ้านป่าเหว ตำบลแม่แรม อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ โดยก่อนหน้านี้ ได้รับการร้องขอความช่วยเหลือจากพี่สาวของนายหยางให้ช่วยติดตามตัวน้องชาย หลังข้ามชายแดนมาจากเขตเศรษฐกิจพิเศษคิงส์โรมัน ในฝั่งลาว ผ่าน ตม.สบรวก อำเภอเชียงแสน ที่ จ.เชียงราย มาพร้อมกับนายฮูกัง เพื่อนชาวจีนอีกคนหนึ่ง โดยจ้างแท็กซี่เดินทางมายังเชียงใหม่ เมื่อ 8 กรกฎาคมที่ผ่านมาและหายตัวไป ก่อนถูกเรียกค่าไถ่ 3 ล้านบาท เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม ที่ผ่านมา พลตำรวจโทกฤตธาพล ยี่สาคร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 เปิดเผยว่า พบตัวนายฮูกัง เพื่อนชาวจีนที่เดินทางมากับนายหยาง และอ้างว่า ถูกนายซาง เบนซิน และนายหวังซวง นัดหมายให้พานายหยาง […]