กทม.21มี.ค.-ประธานมูลนิธิส่งเสริมศึกษาไข้หวัดใหญ่คาดปีนี้ไข้หวัดใหญ่ระบาด จากการคาดการณ์ WHOสายพันธุ์ บี เป็นสายพันธุ์ที่คาดว่าจะพบมากที่สุด แนะกลุ่มเสี่ยง 7 โรคเร่งฉีดวัคซีนป้องกัน เพื่อลดความรุนแรง ลดการนอน รพ.นานและเสียชีวิต โดยผู้สูงอายุ และหญิงตั้งครรภ์ เด็กเล็ก ควรไปรับวัคซีน
ศ.เกียรติคุณ นพ.ประเสริฐ ทองเจริญ ประธานมูลนิธิส่งเสริมศึกษาไข้หวัดใหญ่ กล่าวว่าจากข้อมูลและการคาดการณ์ขององค์การอนามัยโลก พบว่า ปีนี้สถานการณ์การระบาดของไข้หวัดใหญ่น่าจะมีความรุนแรง จำเป็นต้องมีการฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ไว้ล่วงหน้า เนื่องจากโรคไข้หวัดใหญ่ เป็นโรคที่ติดต่อได้ง่ายแต่ก็ป้องกันง่ายเช่นกันด้วยวัคซีน อีกทั้งพบว่า อัตราการเสียชีวิตจากไข้หวัดใหญ่ทั่วโลก ประมาณ 6 แสนคน เกิดขึ้นในกลุ่มผู้สูงอายุ มากกว่า 65 ปี การรับวัคซีนป้องกัน จึงเป็นหนทางที่ดีที่สุด
ศ.เกียรติคุณ นพ.ประเสริฐ กล่าวต่อว่า สำหรับประเทศไทยปัจจุบัน สปสช.ได้มีการจัดหาวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ฉีดให้กับกลุ่มเสี่ยงอยู่แล้ว ประกอบด้วย 7 กลุ่ม ได้แก่ หญิงตั้งครรภ์ อายุครรภ์ 4 เดือนขึ้นไป,เด็กอายุ 6เดือนถึง 2 ปี ,ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง ปอด หัวใจ หลอดเลือดสอมง ไตวาย มะเร็ง ,ธาลัสซีเมีย ผู้ป่วยติดเชื้อเอชไอวีและโรคอ้วน แต่กลับพบว่ากลุ่มเสี่ยงเหล่านี้มารับวัคซีนน้อย แค่ร้อยละ 10 เท่านั้น ทั้งนี้ในส่วนของหญิงตั้งครรภ์อยากให้มารับวัคซีนกันให้ครบ เนื่องจากในช่วงตั้งครรภ์ร่างกายอ่อนแอ การได้รับวัคซีนจะช่วยให้ร่างกายแม่และเด็กปลอดโรค ซึ่งองค์การอนามัยโลก ยืนยันแล้วว่า การฉีดวัคซีนในหญิงตั้งครรภ์ไม่มีปัญหา หรือ ส่งผลกระทบต่อเด็ก
ด้าน รศ.(พิเศษ)นพ.ทวี โชติพิทยสุนนท์ นายกสมาคมโรคติดเชื้อในเด็กแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ขณะนี้จากการคาดการณ์และข้อมูลเชื่อว่าปีนี้สายพันธุ์ของไข้หวัดใหญ่ที่จะระบาดในไทย และพบมากน่าจะเป็นสายพันธุ์บี โดยสายพันธุ์บีนั้น เป็นแบ่ง บี วิกตอเรีย และ บี ยามากาตะ ซึ่ง ในวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่แบบ 3 สายพันธุ์ ก็มีการบรรจุ สายพันธุ์บีรวมด้วย 1สายพันธุ์ สามารถป้องกันไข้หวัดใหญ่ได้ ส่วนในวัคซีน 4 สายพันธุ์ ที่ต้องซื้อหาเองนั้น จะจัดแบ่งเป็น วัคซีนชนิด เอ 2สายพันธุ์ และชนิด บี 2 สายพันธุ์ ซึ่งก็มีประสิทธิภาพป้องกันได้เช่นกันหรืออาจจะดีกว่าเล็กน้อยเพราะการฉีดวัคซีน จะสามารถป้องกันไข้หวัดใหญ่ได้ อย่างน้อยร้อยละ 60-70
รศ(พิเศษ)นพ.ทวี กล่าวด้วยว่า สำหรับการตรวจหาเชื้อไข้หวัดใหญ่แบบระบุสายพันธุ์เพื่อรักษา ยืนยันเป็น เป็นการสิ้นเปลือง เพราะแค่ทำให้มั่นใจมากขึ้น ซึ่งการรักษาไม่แตกต่างเพราะต้องรับยาชนิดเดียวกันอยู่แล้ว ขอเพียงแค่มีกลุ่มอาการชัดเจนของไข้หวัดใหญ่ เช่น ไข้สูง 38 องศาขึ้นไป มีอาการปวดเมื่อยตามเนื้อตัว ปวดศีรษะ หนาวสั่น เจ็บคอ คัดจมูก อ่อนเพลีย อาการเช่นนี้เข้าข่ายไข้หวัดใหญ่แล้ว ทั้งการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ นอกจากเป็นการป้องกันยังลดอัตราการเสียชีวิต และการนอนโรงพยาบาลเป็นเวลานาน ลดอาการปอดบวมอักเสบ ขณะเดียวกันหากพบการป่วยในเด็กเล็กมาตรการที่ดีที่สุด ยังคงเป็นการหยุดเรียน เพื่อลดโรค และป้องกันการแพร่เชื้อในเด็ก .-สำนักข่าวไทย