กรุงเทพฯ 19 มี.ค.- สพม.1 ตรวจสอบพบรถตู้ 2 คัน จอดไว้ในโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาตั้งแต่ 2 ปีก่อน คาดอาจเป็นแป๊ะเจี๊ยะแลกที่เรียน ขณะที่มีผู้ปกครองกว่า 200 คน เดินทางไปโรงเรียนเพื่อฝากบุตรหลาน สพฐ.ขยายผลตรวจสอบ ซึ่งอีกไม่กี่สัปดาห์จะเข้าสู่ช่วงการรับนักเรียนใหม่ของทุกโรงเรียน
รถตู้ 2 คัน ไม่มีทะเบียนและเอกสารแจงที่มาที่ไป ทราบเบื้องต้นมี 1 คัน รับมาวันที่ 6 มิ.ย.60 ซึ่งเป็นช่วงหลังรับนักเรียน ที่เหลือไม่มีรายละเอียด เมื่อถามไถ่บุคลากรก็ไม่ทราบ ผอ.คนปัจจุบัน จึงตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงเมื่อวานนี้ ก่อนจะดำเนินการหรือเอาผิดย้อนหลัง ส่วนรถจะขนย้ายไปไว้ที่ สน.ปทุมวัน
นอกจากสิ่งของที่เป็นรถตู้ ทีมข่าวสังเกตบรรยากาศภายในโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา มีผู้ปกครองเดินทางมาพบครูและ ผอ.ต่อเนื่อง หลังโรงเรียนประกาศผลสอบคัดเลือกและอยู่ระหว่างเรียกสำรอง เพราะมีคนสละสิทธิ์กว่า 200 คน บางคนมาแจ้งความจำนงขอบริจาคเงินหลังลูกหลานผิดหวัง เพราะสอบไม่ติด บ้างระบุชื่อของบุตรและเลขที่นั่งสอบรอรับความช่วยเหลือจากครู ขณะที่แหล่งข่าวเปิดเผยว่า โรงเรียนบางแห่งใช้วิธีการบริจาคตั้งแต่ระดับเตรียมอนุบาลเพื่อสร้างคอนเนคชั่น ค่าฝากเข้า ป.1 สูงถึง 5 ล้านบาท ซ้ำมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นได้ถึงร้อยละ 40
ผอ.เล่าว่า มีผู้ปกครอง 200-300 ราย ประสงค์จะมอบเงินตั้งแต่ 500,000 บาท ถึง 1 ล้านบาท มากสุด 5 ล้านบาท หากบุตรหลานได้เรียน บางคนถึงขั้นโยนเงินใส่รถทันที หลังถูกปฏิเสธ จึงขอย้ำว่าทำไม่ได้ ขณะเดียวกัน การรับนักเรียนเงื่อนไขพิเศษ ต้องมีคุณสมบัติ 4 ข้อตามเกณฑ์การรับนักเรียนใหม่ปี 62 ของ สพฐ. ซึ่งปีนี้โรงเรียนรับได้แค่ 4 คน จาก 23 คน เป็นบุตรของครู 2 คน และผู้เสียสละ 2 คน
ด้าน ป.ป.ช.ติดตามการรับนักเรียนเงื่อนไขพิเศษที่เตรียมอุดมฯ เป็นโรงเรียนแรก ซึ่งปฏิบัติตามมติที่ ป.ป.ช.เสนออย่างเคร่งครัด พร้อมไปพิจารณาเพื่อปรับปรุงเกณฑ์ต่อไป และเดินหน้าตรวจสอบโรงเรียนอื่นๆ
ขณะที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษากำชับ สพฐ.ให้ติดตามใกล้ชิด ส่วนกรณีรถตู้ในสมัยอดีต ผอ.คนก่อน ส่วนที่ผู้ปกครองติดต่อบริจาคเงินฝากเด็ก เป็นสิทธิของเขา แต่การรับต้องเป็นไปตามเงื่อนไขและกฎหมาย ป.ป.ช.
ปัญหาแป๊ะเจี๊ยะ ส่วนใหญ่มักเกิดในโรงเรียนชื่อดัง แข่งขันสูง ซึ่งเตรียมอุดมฯ เป็นโรงเรียนแรกที่มีการสอบคัดเลือก จากนี้ไปอีกไม่กี่สัปดาห์ จะเริ่มเข้าสู่ฤดูกาลสอบเข้าเรียนต่อของทุกโรงเรียน ซึ่งได้รับรายงานว่าโรงเรียนขนาดใหญ่ในต่างจังหวัดเริ่มมีการฝากเด็กกันแล้ว.-สำนักข่าวไทย