“ทูตวีรชัย พลาศรัย” ถึงแก่อนิจกรรม

กรุงเทพฯ 16 มี.ค.-นายวีรชัย พลาศรัย เอกอัครราชทูตวิสามัญ ผู้มีอำนาจเต็มประจำสหรัฐอเมริกา ฮีโร่หัวหน้าทีมต่อสู้คดีข้อพิพาทพื้นที่ทับซ้อนปราสาทเขาพระวิหาร ระหว่างไทยกับกัมพูชา ถึงแก่อนิจกรรมแล้ว วันนี้สำนักข่าวไทยจะพาไปย้อนดูผลงานของท่าน 


นี่เป็นรอยยิ้มและถ้อยคำที่ นายวีรชัย พลาศรัย เอกอัครราชทูตวิสามัญ ผู้มีอำนาจเต็มประจำสหรัฐอเมริกา กล่าวกับคนไทยที่มารอต้อนรับ เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน ปี 2556  หลังกลับจากการทำหน้าที่หัวหน้าทีมกฎหมายต่อสู้คดีข้อพิพาทพื้นที่ทับซ้อนปราสาทเขาพระวิหาร 1.6 ตารางกิโลเมตร ระหว่างไทยกับกัมพูชา ที่ศาลโลกกรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ โดยในวันตัดสินคดีได้ชี้แจงเป็นภาษาฝรั่งเศสอย่างคล่องแคล่ว หนักแน่น สร้างความประทับใจ จนชาวไทยยกย่องให้เป็นฮีโร่ 


ล่าสุดนายวีรชัย ได้ถึงแก่อนิจกรรมแล้ว ที่กรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐ เนื่องจากป่วยเป็นโรคมะเร็งกระดูกไขสันหลัง หรือโรคเอ็มดีเอส จนต้องเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่วันที่ 3 มีนาคม ก่อนจากไปอย่างสงบเมื่อช่วงค่ำคืนที่ผ่านมา


นายวีรชัย เกิดเมื่อวันที่ 9 มิถุนายน ปี 2503  จบการศึกษาระดับมัธยมจากโรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (รุ่น12) เคยเข้าศึกษาที่คณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ก่อนไปศึกษาต่อระดับปริญญาตรี และปริญญาโท ที่มหาวิทยาลัยปารีส (นองแตร์) ระดับปริญญาเอก จากมหาวิทยาลัยซอร์บอนน์ ประเทศฝรั่งเศส ระดับประกาศนียบัตร หลักสูตรป้องกันราชอาณาจักรภาครัฐร่วมเอกชน เข้ารับราชการในกระทรวงการต่างประเทศเมื่อปี พ.ศ. 2530 และเคยดำรงตำแหน่งสำคัญ ๆ อาทิ อธิบดีกรมเศรษฐกิจระหว่างประเทศ อธิบดีกรมสนธิสัญญาและกฏหมาย เอกอัครราชทูต ณ กรุงเฮก ราชอาณาจักรเนเธอร์แลนด์ และเอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก เป็นนักการทูตที่มีความรู้ ความสามารถ และเป็นแบบอย่างที่ดีในกระทรวงการต่างประเทศ มีผลงานที่เป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวางในฐานะนักกฏหมายระหว่างประเทศ และนักเจรจาในเวทีทวิภาคีและพหุภาคี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในฐานะหัวหน้าคณะทนายกฏหมายระหว่างประเทศในคดีปราสาทพระวิหาร และในฐานะหัวหน้าคณะเจรจาการแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฏหมาย ขาดการรายงาน และไร้การควบคุม (IUU) 

ในด้านชีวิตส่วนตัว สมรสกับนางอลิซาเบธ พลาศรัย และมีความสามารถในการเล่นดนตรี จากที่นายวีรชัยร่วมก่อตั้งวงดนตรีของคณะทูตประจำสหประชาชาติที่นิวยอร์กที่ชื่อว่า UNRocks การจากไปของเอกอัครราชทูตวีรชัย นับเป็นการสูญเสียบุคลากรทางการทูตที่สำคัญของไทย ซึ่งเป็นที่นับถือในวงการระหว่างประเทศ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”