อุดรธานี 14 มี.ค.-จังหวัดอุดรธานี ได้รับการขนานนามว่าเป็นเมืองหลวงของคนเสื้อแดง เพราะที่ผ่านมามีการเคลื่อนไหวทางการเมืองที่ชัดเจน และพรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้งยกจังหวัด แต่การเลือกตั้งครั้งนี้ พรรคเพื่อไทยต้องทำงานหนักขึ้น เพราะคู่แข่งมีฐานคะแนนที่ดี การเลือกตั้งครั้งนี้จะพิสูจน์ว่าจังหวัดอุดรธานีจะยังเป็นเมืองหลวงของคนเสื้อแดงอยู่หรือไม่
จังหวัดอุดรธานี นับเป็นอีกหนึ่งจังหวัดสำคัญของภาคอีสานที่เป็นฐานที่มั่นสำคัญของพรรคเพื่อไทย การเลือกตั้ง ส.ส. ปี 54 พรรคเพื่อไทยกวาดที่นั่ง ส.ส.อุดรธานีทั้ง 9 เขต แต่การเลือกตั้งครั้งนี้ จังหวัดอุดรธานีถูกลดเขตเลือกตั้งลงเหลือ 8 เขต หรือมี ส.ส. ได้ 8 คน ทำให้ผู้สมัครแต่ละเขตต้องออกหาเสียงหนักขึ้น เพราะมีพื้นที่กว้างขึ้น
พื้นที่ที่พรรคเพื่อไทยต้องทำงานหนักที่สุดคือ เขต 2 อำเภอเมืองอุดรธานี 7 ตำบล, อำเภอเพ็ญ, อำเภอพิบูลย์รักษ์ ยกเว้นตำบลนาทราย เมื่อเจอคู่แข่งอย่างพรรคพลังประชารัฐ และภูมิใจไทย พรรคพลังประชารัฐ ส่งนายแพทย์วิชัย ชัยจิตวนิชกุล อดีต ส.ส.หลายสมัย ลงชิงเก้าอี้ หมอวิชัยเป็น ส.ส.ตั้งแต่ปี 35 ชนะเลือกตั้งมาตลอดไม่ว่าสังกัดพรรคไหน เป็นอดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย และถูกตัดสิทธิทางการเมืองจากคดียุบพรรคไทยรักไทยเมื่อปี 50 การกลับมาครั้งนี้แม้สวมเสื้อคลุมตัวใหม่ แต่มั่นใจฐานคะแนนยังเหนียวแน่น
ด้านเจ้าถิ่นพรรคเพื่อไทย ส่งนายอนันต์ ศรีพันธุ์ อดีต ส.ส.เขต 3 ครั้งนี้ขยับมาลงเขต 2 เนื่องจากการแบ่งเขตเลือกตั้งใหม่ นายอนันต์ไม่ประมาทแม้เป็น ส.ส.พรรคเพื่อไทยมาถึง 2 สมัย ยังขยันหาเสียงแบบเคาะประตูบ้าน ออกปราศรัย ชูนโยบายเด่นของพรรค
นายหรั่ง ธุระพล ผู้สมัครหมายเลข 5 จากพรรคภูมิใจไทย แม้เป็นรอง แต่ในฐานะคนพื้นที่ เป็นอดีตนักการเมืองท้องถิ่น นับเป็นตัวชิงคะแนนของ 2 พรรคการเมืองใหญ่
ขณะที่อีก 7 เขตเลือกตั้งของจังหวัดอุดรธานี พรรคเพื่อไทยยังได้เปรียบพรรคอื่น เพราะส่วนใหญ่ส่งผู้สมัครหน้าเดิม มีเพียงเขต 4 และ 5 ผู้สมัครหน้าใหม่ ซึ่งผู้สมัครหน้าใหม่ที่น่าจับตามองคือ นางอาภรณ์ สาราคำ อดีต ส.ว.อุดรธานี ภรรยานายขวัญชัย ไพรพนา อดีตประธานชมรมคนรักอุดร ที่ลงสมัครรับเลือกตั้งในเขต 4.-สำนักข่าวไทย