fbpx

ญาติยังรอ เรียกร้องรัฐอย่าหยุดค้นหา ‘ทนายสมชาย’

กทม.12 มี.ค.-ครบ15 ปีทนายสมชายหายตัว ญาติเผยยังรอความยุติธรรม เรียกร้องรัฐอย่าหยุดการค้นหา ไม่ใช่เยียวยาเเล้วจบคดี เร่งออกกฎหมายคุ้มครอง ส่วนความคืบหน้าร่าง พ.ร.บ.บังคับบุคคลให้ศูนย์หาย ถูกเลื่อนพิจารณา จากเดิมเข้า สนช.7 มี.ค.ที่ผ่านมา ฝากรัฐบาลใหม่คำนึงศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์



สถานทูตเนเธอร์เเลนด์ ร่วมกับมูลนิธิผสานวัฒนธรรมเเละเเอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลประเทศไทย จัดงานครบรอบ 15 ปีการหายตัวไปของนายสมชาย นีละไพจิตร และเสียงจากญาติผู้สูญหาย เนื่องในโอกาสครบ รอบ15 ปีที่นายสมชาย นีละไพจิตร ทนายความหายตัวไป ภายในงานมีการเสวนา เสียงจากผู้สูญหาย เเละพัฒนาการของกรอบกฎหมายเเละการสืบสวนสอบสวนในประเทศไทย รวมถึงการเเสดงศิลปะวาดภาพเหมือนผู้สูญหายและวาดตามคำบอกเล่าของญาติ


ผู้แทนสถานทูตราชอาณาจักรเนเธอร์แลนด์ประจำประเทศไทย กล่าวว่า สถานทูตขอบคุณทุกคน โดยเฉพาะญาติผู้สูญหายที่มาร่วมงานในวันนี้ ที่ยืดหยัดต่อสู้เพื่อความเป็นธรรม เชื่อว่าทุกการต่อสู้มีความหมายเเน่นอน สำหรับเนเธอร์เเลนด์เองก็มีนโยบายการต่างประเทศที่ต่อสู้เพื่อความเป็นธรรม การบังคับให้สูญหายถือเป็นอาชญากรรมร้ายแรง ต้องลงโทษให้ถึงที่สุด เพื่อให้ญาติเเละเหยื่อได้รับความเป็นธรรม 


นางอังคณา นีละไพจิตร ภรรยาทนายสมชาย กล่าวว่า ในทุกวันที่12 มี.ค.ของทุกปี ตนจะออกมาทวงถามถึงความเป็นธรรมให้กับผู้ถูกบังคับให้สูญหาย นับเเต่วันเเรกที่ทนายสมชายหายไป เดินทางไปทุกทีที่เชื่อว่าจะมีการนำชิ้นส่วนไปทิ้ง ไปศาลทุกวันเพื่อถามหาความเป็นธรรม เเต่ผ่านมา15ปี หลายสิ่งเปลี่ยนแปลง หากเริ่มตั้งแต่ปี 2555 รัฐบาลไทยได้ลงนามร่วมกับสหประชาชาติ เพื่อให้มีกฎหมายบังคับบุคคลสูญหายในไทย แต่ต่อมาปี 2558 ศาลฎีกายกฟ้องจำเลยที่เกี่ยวกับทนายสมชาย โดยระบุว่าถูกคนกลุ่มหนึ่งผลักขึ้นรถเเล้วหายไปโดยไม่ทราบชะตากรรม ครอบครัวไม่มีสิทธิดำเนินการเรียกร้องเเทนได้ เพราะไม่มีหลักฐานว่าทนายได้รับบาดเจ็บ หรือเสียชีวิต เมื่อไม่มีศพเเสดงว่านายสมชายยังไม่ตาย ต้องมาเรียกร้องด้วยตนเอง ญาติพี่น้องทำอะไรไม่ได้ สรุปคดีนี้ไม่มีผู้เสียหาย 

ขณะที่ความคืบหน้า ร่าง พ.ร.บ.บังคับบุคคลให้สูญหาย กระบวนการพิจารณาของ สนช.ไม่ให้ความสำคัญของการมีส่วนร่วมประชาชน เเละ  ไม่รับฟังข้อเรียกร้องของญาติเหยื่อ การเขียนกฎหมายเหมือนเขียนด้วยความกลัว สาระสำคัญเทไปที่เจ้าหน้าที่รัฐมากกว่าสิทธิประชาชน ร่างกฎหมายอาจไม่ช่วยการบังคับกฎหมายได้จริงและไม่เป็นไปตามหลักกฎหมายของสหประชาชาติ เเละล่าสุดเมื่อวันที่ 7 มี.ค.ที่ผ่านมา สนช.มีวาระการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ เเต่ก็ถูกถอนออกไปโดยไม่มีการพิจารณา

นอกจากนี้รัฐจำเป็นต้องให้ความสำคัญ มีเจตนาคุ้มครองประชาชนไม่ควรยุติการค้นหา ต้องนำคนผิดมาลงโทษให้ประชาชนได้ทราบความจริง โดยเฉพาะครอบครัวเหยื่อที่ต้องได้รับรู้เพื่อให้ครอบครัวได้พ้นพันธนาการกับการที่ไม่รู้เลยว่าคนรักอยู่ที่ใด เเต่ผ่านมา 15 ปีได้เรียนรู้ว่าไม่ว่ารัฐบาลไหน การดำเนินการเพื่อความยุติธรรมไม่เคยเกิดขึ้นจริง ยังมีการงดเว้นโทษเจ้าหน้าที่รัฐต่อเนื่อง การเยียวยาเป็นการสงเคราะห์มากกว่าสำนึกผิด ตนต้องการความรับผิดชอบ คือการเปิดเผยความจริงการเอาคนผิดลงโทษ และการสร้างหลักประกันว่าจะไม่มีใครถูกยังคับให้สูญหายอีก ซึ่งการให้เงินเยียวยาไม่ได้หมายความว่าจะหมดภาระหน้าที่ในการเอาคนผิดเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม  หลังคดีทนายสมชาย ตนหวังเสมอว่า จะไม่มีคนถูกบังคับให้สูญหายอีกเเต่ก็ยังเห็นเหยื่อการบังคับสูญหายต่อเนื่อง เเต่เชื่อว่าตลอดการต่อสู้ 15 ปี จะทำให้คนรุ่นใหม่เห็นคุณค่าเเละศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ให้ออกมาเเสดงพลังเรียกร้องไม่ยอมให้มีการใช้อำนาจไม่ชอบอีกต่อไป เเละฝากถึงรัฐบาลใหม่ คำนึงศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของทุกคน

ด้านนางพิณนภา พฤกษาพรรณ ภรรยานายพอละจี บิลลี่ รักจงเจริญ กล่าวว่า บิลลี่เป็นชาวบ้านธรรมดา ไม่มียศอะไร ตั้งเเต่เด็กพยายามคิดหาความรู้เพื่อช่วยหมู่บ้านของตนเอง ที่ถูกอุทยานประกาศทับเป็นเขตอุทยาน ต่อมาปี 2554 หมู่บ้านถูกเผา คิดหาทางไปช่วยปู่คออี้ สุดท้ายหายตัวไป 17 เม.ย.2557  เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่รับแจ้งความ หัวหน้าอุทยานบอกว่า  จับตัวไปจริงเเต่ปล่อยตัวไปเเล้ว เเต่ทุกวันนี้ก็ยังไม่เจอตัว ตนเเละครอบครัวยังรอคอยความยุติธรรม 

ไม่ต่างจากนางปราณี เเซ่ด่าน(ด่านวัฒนานุสรณ์) ภรรยานายสุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์ ที่วันนี้หายไปครบ 3 เดือนพอดีที่ สปป.ลาว ซึ่งที่ผ่านมาต่อสู้ด้านการเมืองเเละสิทธิประชาชนมาโดยตลอด เเละนายอดิศร โพธิ์อ่าน ลูกชายนายทนง โพธิ์อ่าน กล่าวว่า นายทนงเป็นผู้นำเเรงงานที่มีบทบาทเเละมีความเข้มแข็งคนหนึ่งในไทย หลังจากที่พ่อสูญหายไป ชีวิตครอบครัวพัง สิ่งที่ต้องการมากที่สุดตอนนี้คือให้เอาคนผิดมาลงโทษ ไม่ใช่รับเงินเยียวยา 

นางซุยเม็ง เอิง ภรรยานายสมบัด สมพอน  กล่าวว่า  ขอเป็นพันธมิตรกับนางอังคณาเเละครอบครัว ร่วมต่อสู้เพื่อคืนความเป็นธรรมเเละความจริงให้ เพราะ15 ปีที่ผ่านมาเข้าใจความรู้สึกของทุกครอบครัวผู้เสียหาย เนื่องจากก็รับรู้ได้เช่นกัน ‘สมบัด สมพอน’ เป็นคนที่ต่อสู้ด้านสิ่งแวดล้อมเเละช่วยเหลือคนยากจนในลาว สหพันธ์เอเชีย

ขณะที่นางนงภรณ์ รุ่งเพ็ชรวงศ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านสิทธิมนุษยชน กรมคุ้มครองสิทธิเเละเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงพัฒนาการของกรอบกฎหมายและการสืบสวนสอบสวนในประเทศไทยว่า ร่าง พ.ร.บ.ขณะนี้รอการพิจารณา จากเดิมที่จะเข้าพิจารณาในวันที่ 7 มี.ค.นี้ เเต่ก็ถูกเลื่อนไป ซึ่งยังมีเวลาอีก 3-4 วันในการพิจารณา ซึ่งถือว่ายังมีความหวัง กระทรวงเองก็ผลักดันให้เกิดกฎหมายโดยเร็ว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

“อนุทิน” ลุยเชียงใหม่ร่วมบิ๊กคลีนนิ่ง ฟื้นฟูหลังน้ำลด

“อนุทิน” ลงพื้นที่เชียงใหม่ ร่วมทีม จนท.-กู้ภัย-อาสาสมัคร “บิ๊กคลีนนิ่ง” ฟื้นฟูเมืองหลังน้ำลด เร่งจ่ายเยียวยาผู้ประสบภัย