กรุงเทพฯ 12 มี.ค. – หอการค้าไทยเผยผลสำรวจดัชนีเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน ก.พ.62 ดีขึ้นต่อเนื่อง หลังวันเลือกตั้งชัดเจน ย้ำปัจจัยภายนอกต้องจับตาเศรษฐกิจไทยอาจโตต่ำกว่าร้อยละ 4
นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนกุมภาพันธ์ 2562 พบว่า ดัชนีความเชื่อมั่นปรับตัวดีขึ้นเป็นเดือนที่ 2 ในรอบ 6 เดือน โดยอยู่ที่ระดับ 69.0 เป็นผลจากการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้งวันที่ 24 มีนาคม 2562 อย่างเป็นทางการ คาดจะมีเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจในการเลือกตั้งครั้งนี้ 30,000-50,000 ล้านบาท โดยเดือนกุมภาพันธ์ 10,000-15,000 ล้านบาท และมากขึ้นในเดือนมีนาคม 20,000-30,000 ล้านบาท ขณะที่ปัญหาสงครามการค้าจีนกับสหรัฐเริ่มคลี่คลาย รวมถึงนักท่องเที่ยวจีนเริ่มกลับเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยหลังจากใช้มาตรการยกเว้นค่าธรรมเนียม VISA on Arrival เป็นสำคัญ
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าผู้บริโภคยังมีความกังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนของการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยและเศรษฐกิจโลกที่มีความเสี่ยงจากสงครามการค้าและ Brexit ตลอดจนราคาพืชผลทางการเกษตรหลายรายการยังทรงตัวระดับต่ำ แต่มีบางรายการเริ่มปรับตัวดีขึ้น โดยหลายปัจจัยดังกล่าว แม้ว่าผู้บริโภคยังคงระมัดระวังการจับจ่ายใช้สอยในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้บ้าง แต่น่าจะดีขึ้นปลายไตรมาส 2 โดยกำลังซื้อในส่วนของหมวดสินค้าคงทน ทั้งบ้าน รถยนต์ และเครื่องใช้ไฟฟ้าจะดีขึ้น ขณะที่ผู้มีรายได้น้อยยังคงระมัดระวังต่อเนื่อง
ทั้งนี้ ยังคงมีหลายปัจจัยที่ต้องจับตาและยังไม่ชัดเจนในช่วง 2 ไตรมาสแรกปีนี้ แม้จะมีเงินสะพัดเลือกตั้งลงสู่ระบบ ทำให้เวลานี้ไม่มีเงินงบประมาณจากรัฐบาลปัจจุบันอัดเข้าสู่ระบบมากนัก จึงต้องรอดูหลังเลือกตั้งได้นายกนัฐมนตรีใหม่และมีรัฐบาลใหม่ในช่วงไตรมาส 3 ถึงจะมีเม็ดเงินเข้าสู่ระบบใหม่ ทำให้ทางศูนย์พยากรณ์ฯ มีการเฝ้าติดตามจากเดิมมองว่าเศรษฐกิจไทยจะเติบโตปีนี้ร้อยละ 4-4.2 ส่งออกโตร้อยละ 4-5 ซึ่งแนวโน้มเศรษฐกิจปีนี้อาจจะโตต่ำกว่าร้อยละ 4 หรือโตเพียงร้อยละ 3.7-4.2 และส่งออกโตเพียงแค่ร้อยละ 3-4 เท่านั้น โดยปัจจัยมาจากเศรษฐกิจโลก ซึ่งตัวเลขดังกล่าวยังไม่ได้ปรับลดลงขอรอดูความชัดเจนด้านต่าง ๆ ก่อน. – สำนักข่าวไทย