เตรียมเสนอ กกต.ลบ 88 โพสต์หาเสียงผิด กม. ในสื่อโซเชียล

กรุงเทพฯ 10 มี.ค.- คณะทำงานติดตามการหาเสียงฯ  เตรียมเสนอ กกต. พิจารณาลบโพสต์หาเสียงผิดกฎหมายในสื่อโซเชียล เผย มี 88 เรื่องผิดกฎหมายที่ต้องสั่งลบ และดำเนินคดีอาญา


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะทำงานติดตามเกี่ยวกับการหาเสียงเลือกตั้งทางอิเล็กทรอนิกส์ ตามคำสั่งของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้มีการประฃุมไปแล้ว 6 ครั้ง ล่าสุด เมื่อวันที่ 7 มีนาคม ที่ผ่านมา  รวมเรื่องที่พิจารณา 106 เรื่อง  มี 18 เรื่อง ที่เห็นว่าไม่เข้าข่ายความผิดและไม่ลบ ขณะที่ เห็นควรให้ลบเรื่องและข้อความที่เข้าข่ายเป็นการโพสต์ผิดกฎหมาย 88 เรื่อง 

โดย 88 เรื่อง มี  24 เรื่อง เป็นเรื่องที่เข้าข่ายความผิดตามมาตรา 73  (5)  ของ พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร  เป็นเรื่องหลอกลวง บังคับ ขู่เข็ญ ใช้อิทธิพลคุกคาม ใส่ร้ายด้วยความเท็จ หรือจูงใจให้เข้าใจผิดในคะแนนนิยมของผู้สมัครหรือพรรคการเมือง


มี 15 เรื่อง เป็นเรื่องที่เข้าข่ายผิดระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าด้วยวิธีการหาเสียงและลักษณะต้องห้ามในการหาเสียงเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร  ข้อ 18 วง (3) คือ ข้อห้ามในการหาเสียงเลือกตั้งโดยใช้ถ้อยคำรุนแรง  ก้าวร้าว  หยาบคาย หรือปลุกระดม

และมี 49 เรื่อง ที่เข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร มาตรา 73 (5)  และระเบียบ กกต. ข้อ 18 (3)   

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ใน  88 เรื่อง ได้รวม 12 เรื่อง ที่ก่อนหน้านี้  กกต.มีคำสั่งให้มีการลบภาพและข้อความหาเสียงไปแล้ว  ที่เป็นการโพสต์ข้อความใส่ร้ายนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ พรรคอนาคตใหม่ พรรคเพื่อไทย พรรคไทยรักษาชาติ พรรคเพื่อชาติ ด้วยถ้อยคำหยาบคายและมีการใส่ร้ายป้ายสี ระบุข้อความว่า เผาบ้านเผาเมือง และโพสต์ที่เรียกร้องให้คว่ำบาตรพรรคพลังประชารัฐ 


สำหรับขั้นตอนเมื่อคณะทำงานมีความเห็นว่า สมควรลบข้อความหรือเรื่องที่โพสต์ ก็จะเสนอให้ กกต.พิจารณา แล้วเจ้าหน้าที่จะเร่งดำเนินการแจ้งผู้โพสต์หรือเจ้าของเว็บไซต์ลบข้อความดังกล่าว และเมื่อแจ้งให้ลบแล้ว เจ้าของเว็บไซต์ลบก็ถือว่าจบไป  แต่ในกรณีความผิดตาม มาตรา 73  ของ พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งถือว่าเป็นความผิดทางอาญา ที่จะต้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินคดีต่อไป  คณะทำงานจะเสนอ กกต.ให้พิจารณาอีกในสัปดาห์หน้า. – สำนักข่าวไทย   

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Joe Biden and Kamala Harris on stage

ผู้เชี่ยวชาญชี้สาเหตุที่ “แฮร์ริส” พ่ายแพ้

ผู้เชี่ยวชาญชี้สาเหตุที่นางคอมมาลา แฮร์ริส ตัวแทนพรรคเดโมแครต พ่ายแพ้การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ให้แก่นายโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน

“ทรัมป์” คว้าชัยเด็ดขาด ครองตำแหน่งประธานาธิบดีอีกสมัย

โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครจากพรรครีพับลิกัน คว้าชัยชนะเด็ดขาดในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ เหนือคู่แข่งอย่าง คอมมาลา แฮร์ริส จากพรรคเดโมแครต นับเป็นการกลับมาครองตำแหน่งผู้นำสหรัฐอีกครั้ง หลังต้องออกจากทำเนียบขาวไปเมื่อ 4 ปีก่อน

พบศพไวยาวัจกรวัดดังระยองถูกยิงดับพร้อมหญิงสาวในบ้านพัก

พบศพไวยาวัจกรวัดดัง จ.ระยอง ถูกยิงเสียชีวิตในบ้านพัก พร้อมหญิงสาวหน้าตาดี คาดเสียชีวิตมาแล้ว 3 วัน ตำรวจเร่งหาสาเหตุ

พบเด็กหญิงฝาแฝดวัย 9 ขวบ ดวงตาสีฟ้า

พบเด็กหญิงฝาแฝดชาวนครพนม วัย 9 ขวบ มีดวงตาสีฟ้าสดใส ซึ่งเป็นโรคทางพันธุกรรมที่พบได้ยาก อาศัยอยู่กับแม่เลี้ยงเดี่ยว แม่เผยลูกมีปัญหาทางการได้ยิน ใช้ชีวิตลำบาก ถูกบลูลี่ แต่ไม่ขอเปิดรับบริจาค เพราะเคยถูกมิจฉาชีพแอบอ้าง

ข่าวแนะนำ

นำ “ทนายตั้ม-ภรรยา” ฝากขัง เจ้าตัวยกมือไหว้ ปัดตอบทุกประเด็น

กองปราบฯ นำ “ทนายตั้ม-ภรรยา” ฝากขังศาลอาญารัชดา เบื้องต้นท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัว ด้านเจ้าตัวยกมือไหว้ ปัดตอบทุกประเด็น

ครูปรีชาทนายตั้ม

“ครูปรีชา” หิ้วกาแฟ-ข้าวผัด เยี่ยม “ทนายตั้ม”

เกือบ 24 ชั่วโมง ที่ตำรวจกองปราบฯ คุมตัว “ทนายตั้ม-ภรรยา” มาสอบปากคำ เบื้องต้นทั้งคู่ยังให้การปฏิเสธ เตรียมส่งตัวฝากขังบ่ายนี้ ส่วนคู่กรณีหวย 30 ล้าน “ครูปรีชา” นำข้าวผัดและกาแฟ เข้าเยี่ยม “ทนายตั้ม” พร้อมยืนยันคำเดิม “ความจริงก็คือความจริง”

นายกฯ เร่งตั้งทีม JTC เจรจา MOU44 คาดชัด 18 พ.ย.นี้

นายกฯ ยันรัฐบาลเร่งตั้งคณะกรรมการ JTC หารือเส้นเขตแดน MOU 44 และพลังงานใต้ทะเล คาด 18 พ.ย.นี้ ชัดเจน “ภูมิธรรม” มั่นใจกัมพูชายึดตามสนธิสัญญาเจนีวา แม้ไม่เข้าร่วม ย้ำมีผลผูกพันทุกประเทศทั่วโลก