ภูมิภาค 29 ส.ค.- ศาลจังหวัดมหาสารคามออกหมายจับโชเฟอร์รถทัวร์ร้อยเอ็ด-บุรีรัมย์ ก่อเหตุสะเทือนขวัญฆ่าชิงทรัพย์ผู้โดยสารระหว่างทาง รองผู้การสั่งระดมทีมชุดสืบเร่งตามจับ ด้านเจ้าของรถวอนให้เข้ามอบตัว
พ.ต.อ.บรรพต เทพพานิช รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดมหาสารคาม เปิดเผยถึงคดีนางบุญเพ็ง ปัญโญ อายุ 56 ปี ถูกทำร้ายชิงทรัพย์เสียชีวิตขณะโดยสารมากับรถประจำทางปรับอากาศ ร้อยเอ็ด-บุรีรัมย์ บนถนนบ้านดงบาก-บ้านเหล่าน้อย ต.นาสีนวล อ.พยัคฆภูมิพิสัย วานนี้ (28 ส.ค.) ว่า ล่าสุดได้รับรายงานจากร้อยเวรเจ้าของคดีว่าศาลจังหวัดมหาสารคามได้อนุมัติหมายจับผู้ก่อเหตุแล้วเป็นชาย อายุ 26 ปี คนขับรถคันดังกล่าวและอยู่ระหว่างการหลบหนี ส่วนที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่พบว่าทรัพย์สินของผู้เสียชีวิตหายไปเป็นสร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท และสร้อยข้อมือหนัก 1 บาท ขณะนี้ได้กำชับให้ชุดสืบสวน สภ.พยัคฆภูมิพิสัย สภ.วาปีปทุม และชุดสืบสวน ภูธรจังหวัด ลงพื้นที่หาเบาะแสของผู้ต้องหาทั้งในพื้นที่ รวมถึงจังหวัดร้อยเอ็ดและบุรีรัมย์ ซึ่งเป็นเขตรอยต่อ ส่วนรายละเอียดของคดีอยู่ระหว่างการสืบสวนให้ชัดเจนไม่สามารถเปิดได้ในเวลานี้ และเชื่อว่าจะตามจับกุมผู้ต้องหาได้แน่นอน คดีนี้ถือเป็นคดีสะเทือนขวัญและเป็นที่น่าสนใจของประชาชนทั่วไป จึงได้กำชับให้พนักงานสอบสวนทำงานอย่างรอบคอบที่สุด
พ.ต.อ.บรรพต กล่าวด้วยว่า เส้นทางการหลบหนีของผู้ต้องหาเริ่มจากบริเวณจุดเกิดเหตุที่รถติดหล่ม อาจเดินออกมาแล้วโบกรถคันอื่นให้ช่วยไปส่งยังจุดหมาย ซึ่งผู้ต้องหาเป็นคนในพื้นที่คงจะรู้เส้นทางหลบหนีเป็นอย่างดี ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้สอบปากคำพยานไปแล้ว 3 ปาก เป็นน้องชายของผู้เสียชีวิตที่ได้พูดคุยโทรศัพท์กันเป็นรายสุดท้ายก่อนที่โทรศัพท์จะถูกตัดไป และพยานแวดล้อมที่อยู่พื้นที่เกิดเหตุอีก 2 ปาก
ด้านนางสมพร ปัญโญ อายุ 39 ปี ลูกสาวของผู้เสียชีวิต ให้การเบื้องต้นก่อนหน้านี้ว่าแม่เดินทางมาจากจังหวัดสุรินทร์ เพื่อเยี่ยมอาการป่วยของป้า ซึ่งเป็นพี่สาวแท้ ๆ ที่ อ.วาปีปทุม จ.มหาสารคาม จากนั้นน้าชายได้พาแม่มาส่งขึ้นรถเมื่อบ่ายวันที่ 27 ส.ค.ที่ผ่านมา เพื่อกลับบ้านที่สุรินทร์ กระทั่งตอนเย็นจึงรู้สึกเป็นห่วงแม่ และได้โทรศัพท์มือถือ แต่ไม่สามารถติดต่อได้ จึงได้โทรศัพท์ไปสอบถามญาติที่สุรินทร์อีกครั้งทราบว่ายังไม่ถึงบ้าน จึงโทรหาแม่อีกครั้งจนรับสาย ได้ยินเสียงแม่ขอความช่วยเหลือ จากนั้นได้โทรศัพท์หากำนันและแจ้งตำรวจ เพื่อช่วยสกัดรถคันดังกล่าว
ส่วนนายสุพิศ วัตรสุนทร อายุ 38 ปี เจ้าของรถบัสคันเกิดเหตุ เล่าว่า ปกติจะนั่งไปกับรถบัสคันดังกล่าวประจำ และช่วงเช้าวันเกิดเหตุ (27 ส.ค.) ได้นั่งไปด้วย โดยรถได้ออกจาก บขส.บุรีรัมย์เวลา 10.20 น. ปลายทางที่ บขส.ร้อยเอ็ด หลังจากส่งผู้โดยสารเสร็จ ก็ขึ้นรถอีกคันกลับมาที่ จ.บุรีรัมย์ ส่วนคนขับรถก็จะขับรถเปล่ากลับมารอเข้าคิวที่ อ.พยัคฆภูมิพิสัย จ.มหาสารคาม ในเช้าวันรุ่งขึ้น แต่ระหว่างที่คนขับตีรถเปล่ากลับมาทราบว่าได้รับผู้โดยสารโดยพละการ และไม่ทราบว่ามีจุดประสงค์อะไร กระทั่งเวลา 22.00 น. เสมียนบริษัทได้โทรศัพท์มาแจ้งว่ารถบัสคันดังกล่าวได้วิ่งออกนอกเส้นทาง และพบผู้โดยสารถูกทำร้ายบาดเจ็บทิ้งอยู่บริเวณนั้น ก่อนเสียชีวิตเวลาต่อมา จึงรีบเดินทางไปตรวจสอบจึงทราบว่าคนขับเป็นผู้ก่อเหตุชิงทรัพย์ผู้โดยสาร และได้พยายามโทรศัพท์ติดต่อกับคนขับรถ ก็ไม่เป็นผล ซึ่งคนขับรายนี้มาขับรถได้เป็นเวลา 6 เดือน ไม่เคยมีพฤติกรรมก้าวร้าวหรือมีเรื่องกับใคร อีกทั้งยังขยันทำงาน แต่เคยพูดถึงเรื่องปัญหาหนี้สิน อย่างไรก็ตาม อยากให้มาเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ ยอมรับผิดในการกระทำดีกว่าหลบหนี พร้อมกันนี้ต้องขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิตและจะรับผิดชอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น.-สำนักข่าวไทย