จำคุก 8 ปี “ครูจอมทรัพย์” สร้างพยานเท็จ

นครพนม 6 มี.ค. – ศาลจังหวัดนครพนมพิพากษาจำคุก นางจอมทรัพย์ ศรีบุญหอม หรือแสนเมืองโคตร 8 ปี โดยไม่รอลงอาญา ส่วนอดีตสามี เพื่อนครู และประจักษ์พยาน โทษลดหลั่นกัน ฐานมีส่วนรู้เห็นปั้นพยานเท็จให้ตัวเองพ้นผิดในคดีขับรถชนคนตาย 


กว่า 1 ปี หลังพิจารณาคดีขบวนการปั้นพยานเท็จเพื่อช่วยเหลือนางจอมทรัพย์ ศรีบุญหอม หรือแสนเมืองโคตร อดีตครูโรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดสกลนคร ให้พ้นผิดในคดีขับรถชนคนตายเมื่อปี 2548 ช่วงสายวันนี้ ศาลจังหวัดนครพนมอ่านคำพิพากษาจำคุกนางจอมทรัพย์ 8 ปี ในฐานความผิด 3 ข้อหาหนัก ได้แก่ แจ้งความเท็จต่อเจ้าพนักงาน ร่วมกันแจ้งเจ้าพนักงานจดข้อความอันเป็นเท็จ และร่วมกันเบิกความเท็จ กรณีใช้หลักฐานเท็จยื่นขอศาลอุทธรณ์ภาค 4 ให้รื้อฟื้นคดีขับรถชนคนตายขึ้นพิจารณาใหม่ ขณะที่นายสุริยา นวลเจริญ หรือครูอ๋อง เพื่อนสนิท จำคุก 7 ปี 9 เดือน นางทัศนีย์ หาญพยัคฆ์ และนางทองเรศ วงศ์ศรีชา ประจักษ์พยาน 2 ปาก ที่อ้างว่าเห็นผู้ก่อเหตุเป็นผู้ชาย จำคุก 2 ปี 19 เดือน และ 2 ปี 12 เดือนตามลำดับ นายนิรันดร์ แสนเมืองโคตร อดีตสามีนางจอมทรัพย์ จำคุก 2 เดือน ทั้งหมดศาลสั่งจำคุกโดยไม่รอลงอาญา แต่ยกฟ้องนายเสน่ห์ สุพรรณ  นางรจนา จันทรัตน์ เพื่อนครูจอมทรัพย์ และนางวาสนา เพ็ชรทอง หลานสาว อย่างไรก็ตาม จนถึงวันนี้ครูอ๋องก็ยังยืนยันว่าไม่ได้ทำอะไรผิด ขณะที่ทนายความก็พร้อมยื่นอุทธรณ์ต่อสู้คดีจนถึงที่สุด

ส่วนนายสับ วาปี ที่รับสมอ้างเป็นคนขับรถชนคนตายตัวจริง และนางจันทร์ วาปี ภรรยา ศาลสั่งจำคุกไปก่อนแล้ว 2 ปี 10 เดือน และ 1 ปี 9 เดือน ตามลำดับ เมื่อเดือนกันยายน 2561 หลังทั้งคู่ให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณาคดี 


ขบวนการปั้นพยานเท็จ เกิดขึ้นหลังนางจอมทรัพย์ได้รับพระราชทานอภัยโทษเมื่อปี 2558 หลังถูกจำคุก 1 ปี 6 เดือน ในคดีขับรถชนคนตาย จากอัตราโทษเต็ม 3 ปี 2 เดือน จากนั้นได้เดินหน้าเรียกร้องขอความเป็นธรรมอ้างว่าตกเป็นแพะ ขอให้กระทรวงยุติธรรมช่วยรื้อฟื้นคดี โดยมีนายสับเป็นพยานใหม่ แต่ตำรวจพบหลักฐานสำคัญว่ามีการลงบันทึกประจำวัน 2 ครั้ง อ้างคนขับตัวจริงขัดแย้งกันระหว่างนายเสริฐ รูปสะอาดและนายสับ วาปี สอดคล้องคำให้การของนายเสริฐว่าเคยถูกว่าจ้างให้มารับผิด แต่ขับรถไม่เป็น จึงนำนายสับมารับสารภาพเป็นคนขับแทน ตำรวจจึงมั่นใจว่าเป็นการสร้างพยานหลักฐานเท็จ ศาลเห็นพ้องจึงสั่งจำคุกดังกล่าว. – สำนักข่าวไทย 


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”

วางระเบิด 4 ลูก เกาะกลางถนนหน้าโรงเรียน จ.นราธิวาส

เช้ามืดวันนี้ (21 พ.ย.) เกิดระเบิดขึ้นอีก 4 ลูก บริเวณเกาะกลางถนนหน้าโรงเรียนบ้านฮูแตทูวอ ต.โคกเคียน อ.เมือง จ.นราธิวาส เบื้องต้นไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน