เพื่อไทย 5 มี.ค.- พรรคเพื่อไทยประกาศนโยบายหาเสียงโค้งสุดท้าย “ลดหนี้ เติมเงิน ลดภาษี สร้างเศรษฐีใหม่” สร้างโอกาสธุรกิจ เพิ่มค่าเเรง ทำให้ราคาสินค้าเกษตรเพิ่ม ยันทำได้ทันทีใน 180 วัน เศรษฐกิจจะต้องดีขึ้น
ผู้สื่อข่าวรายงาน บรรยากาศที่พรรคเพื่อไทย วันนี้ (4 มี.ค.) มีการประชุมผู้สมัคร ส.ส.ทั่วประเทศ ในช่วงโค้งสุดท้ายของการหาเสียงเลือกตั้ง เพื่อเป็นการชี้แจงนโยบาย “ลดหนี้ เติมเงิน ลดภาษี สร้างเศรษฐีใหม่” เพื่อนำไปทำความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่ โดยแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคทั้ง 3 คน คือ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรค นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ คณะทำงานด้านเศรษฐกิจ และนายชัยเกษม นิติศิริ คณะทำงานฝ่ายกฎหมาย รวมถึง หัวหน้าพรรค กรรมการบริหารพรรค และผู้สมัคร ส.ส.เข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง ที่ห้องประชุมพรรคเพื่อไทย ชั้น 7
นายชัชชาติ ขึ้นเวทีเล่าถึงปัญหาของประเทศที่เผชิญมาตลอด 5 ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะสิ่งที่ประชาชนเดือดร้อนจากปัญหาเศรษฐกิจปากท้อง จึงกำหนดยุทธศาสตร์ 4 ปีข้างหน้า ซ่อมสร้างไปพร้อมกัน เปรียบเศรษฐกิจของประเทศติดหล่ม ต้องขับเคลื่อนด้วยรถ 4 ล้อ ประกอบด้วย 1.เพิ่มศักยภาพด้านการส่งออกและการท่องเที่ยว 2.การลงทุนทั้งภายในและภายนอกประเทศ ที่จะตัองสร้างความมั่นใจให้กลับคืนมาหลังเลือกตั้ง 3.กระตุ้นการบริโภคให้เกิดการหมุนเวียนของเงินจาก48 % เป็น 52% ปรับหนี้ เติมเงิน ลดทุน และ 4. เร่งการลงทุนภาครัฐให้เกิดการใช้จ่ายงบประมาณ
“การปรับสร้างเศรษฐกิจระยะยาว เป็นการสร้างอนาคต ที่ไม่เน้นการเเจกเงิน แต่หัวใจสำคัญคือการสร้างโอกาส เติมพลัง ต้องแก้ปัญหาที่ราก ไม่ใช่กิ่งใบ รวมพลังระหว่างเมืองและชนบท” นายชัชชาติ กล่าว
ขณะที่ คุณหญิงสุดารัตน์ ขึ้นเวทีประกาศนโยบาย แผนงานเร่งด่วน 30, 100, และ 180 วัน หากได้รับไว้วางใจจากประชาชนให้เป็นรัฐบาล เพื่อลงมือทำทันที แก้ไขปัญหาปากท้องและหนี้สินของประชาชน ปรับหนี้ เติมเงิน ลดภาษี สร้างเศรษฐีใหม่ โดยพรรคเพื่อไทยมีแผนพลิกฟื้นเศรษฐกิจใน 180 วัน จะเริ่มทำทันที หากได้เข้าบริหารประเทศ เพราะเห็นว่าปัญหาปากท้องเป็นสิ่งที่ประชาชนต้องการให้แก้ไขในทุกพื้นที่
คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า การทำงานแบ่งเเผนออกเป็น 3 ระยะ คือ แผนเร่งด่วน 30 วัน ประกอบด้วย สำรวจความเสียหาย 5 ปีที่ผ่านมาจากการบริหารงาน ตรวจสอบภาระหนี้รัฐบาลที่ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชน และกฎหมายที่ก่อความเสียหายทางเศรษฐกิจ กลไกคอร์รัปชั่นของเจ้าหน้าที่รัฐในปัจจุบัน เพื่อเร่งดําเนินการปรับโครงสร้างงบประมาณแผ่นดินให้มีประสิทธิภาพ
คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า จากนั้น จะเป็นแผนเร่งด่วน 100 วัน “ปรับหนี้-เพิ่มรายได้” พลิกฟื้นเศรษฐกิจไทย 100 วันแรก จะเริ่มต้นพักชำระหนี้เกษตรกร 3 ปี ปรับโครงสร้างหนี้ SME ที่อยู่ในภาวะเสี่ยง ปรับโครงสร้างหนี้สินครู นักเรียนนักศึกษา และประชาชนที่กู้เงินผ่านหน่วยงานของรัฐ มีแผนการเติมทุน ด้วยการเริ่มต้นจัดตั้งสถาบันพัฒนารายได้ทั่วประเทศ ขยายวงเงินสินเชื่อรายย่อย Pico Finance ให้ทุนชาวนาเข้าโครงการปรับปรุงการผลิต เร่งเจรจาการค้ากับต่างประเทศ ปรับลดภาษีน้ำมัน ยกเว้นภาษีเงินได้ 2 ปีแก่ธุรกิจเกิดใหม่ ให้ SME เริ่มจดทะเบียน สามารถทำใบกำกับภาษีมูลค่าเพิ่มแบบเหมาจ่าย 1% เริ่มต้นปรับปรุงกฎหมายที่เป็นข้อจำกัดในการทำธุรกิจ โดยจะปลดล็อคคราฟท์เบียร์และสุรากลั่นชุมชน กัญชงและพืชสมุนไพรทางการแพทย์ เพื่อทำเป็นอุตสาหกรรมใหม่
คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า ส่วนแผนเร่งด่วน 180 วัน จะมีการสร้างฐานรายได้ใหม่ให้คนไทยอย่างเร่งด่วน เจรจากับประเทศที่มีศักยภาพเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยว เจรจายกเลิกวีซ่า ส่งเสริมสตรีทฟู้ด ต่อยอด OTOP ส่งเสริมธุรกิจโฮมสเตย์ และฟาร์มสเตย์ ตั้งเป้าหมายจะทำให้ราคาสินค้าเกษตรสูงขึ้นทุกตัว ตั้งกองทุนคนเปลี่ยนงาน เพื่อเพิ่มทักษะแรงงานที่ต้องการยกระดับฝีมือ จัดตั้งกองทุนสร้างผู้ประกอบการรุ่นใหม่ และเร่งยกระดับไปรษณีย์ไทยอีกครั้ง ให้แข่งขันกับเอกชนได้อย่างทัดเทียม เพื่อลดต้นทุน E-Commerce เพิ่มรายได้จากการค้าสู่ระดับธุรกิจรายย่อย
“เป้าหมายของพรรคเพื่อไทย จะนำพาประเทศไทยออกจากกับดักรายได้ระดับกลาง ก้าวเข้าสู่สังคมที่ประชาชนมีรายได้ระดับสูง ค่าแรงขั้นต่ำและเงินเดือนต้องสูงขึ้นอย่างน้อย 15% ราคาสินค้าเกษตรมีเสถียรภาพและสูงขึ้นไม่ต่ำกว่า 30% รายได้ประชาชาติใน 4 ปีต้องเพิ่มขึ้น 15% ซึ่งนโยบายของพรรคในวันนี้มองว่า ใน 30 วันแรกเป็นการรักษาโรค 100 วันเป็นการให้ยา 180 วันเป็นการให้วัคซีนสร้างความยั่งยืน ส่วนนโยบายบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ย้ำว่าไม่ยกเลิก แต่จะทำให้ดีขึ้น”คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าว ..- สำนักข่าวไทย