กทม. 1 มี.ค.- คับข่าวมีของ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เปิด “สภากาแฟ” เชิญเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายของสถานทูตต่างๆ ร่วมตั้งวงสนทนา สร้างความสัมพันธ์และแลกเปลี่ยนข้อมูลคนร้ายข้ามชาติ ทำให้หลายคดีได้เบาะแสคนร้ายจากการพูดคุยในสภากาแฟ นำไปสู่การจับกุม
พลตำรวจโทสุรเชษฐ์ หักพาล หรือบิ๊กโจ๊ก ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ให้การต้อนรับ พูดคุยและเลี้ยงสังสรรค์ เจ้าหน้าที่ตัวแทนสถานทูต ด้วยบรรยากาศแบบเป็นกันเอง เรียกการพบปะอย่างไม่เป็นทางการนี้ว่า “สภากาแฟ” ส่วนอาหารที่นำมาจัดเลี้ยง พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ คัดสรรมาจากเจ้าอร่อย ทั้งของหวาน ของคาว และผลไม้ ไม่ให้เสียชื่อประเทศไทย คุยไป ทานไป ฟังดนตรีไทย บรรยากาศสุดชื่นมื่น อย่างขนมปังหน้ากุ้ง พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ชิมแล้วยังต้องยกนิ้วให้กับความอร่อย
พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ มีเป้าหมายให้สภากาแฟ เป็นเวทีสานสัมพันธ์ แลกเปลี่ยนข้อมูลอาชญากรข้ามชาตินายซอง วา ลี ชาวเกาหลีใต้ ถูกจับตามหมายจับตำรวจสากลที่คอนโดมิเนียมในกรุงเทพฯ เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เป็นหนึ่งในตัวอย่างคดีที่อาศัยช่องทางสภากาแฟประสานความร่วมมือ เนื่องจากนายซอง ก่อคดีกับคนเกาหลีกว่า 300 คนแล้วหนีออกนอกประเทศ โดยไม่ปรากฏข้อมูลที่ไหนอีกนาน 10 ปี ตม.ทราบจึงสนใจ ขอข้อมูลจากเจ้าหน้าที่เกาหลี ที่มาสภากาแฟ สืบเสาะจนพบผู้ต้องหามีภรรยาเป็นชาวยูเครน มีลูก 2 คน จึงตีกรอบหาตัวคนเกาหลีที่มีภรรยาต่างชาติ สุดท้ายพบและจับกุมตัวได้ภายใน 1 เดือน
เช่นเดียวกับคดีจับกุมชาวอิหร่าน ซึ่งหลอกนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นถูกรางวัลแจ๊กพ็อต 300,000 บาท พร้อมตั๋วเครื่องบินท่องเที่ยว 8 ประเทศ แต่เบื้องหลังเป็นการหลอกใช้ชาวญี่ปุ่น ให้หิ้วเฮโรอีนขึ้นเครื่องบิน คดีนี้ พลตำรวจตรีพนัญชัย ชื่นใจธรรม ผู้การสืบสวนตรวจคนเข้าเมือง บอกว่า ผู้เสียหายไหวตัวจึงปรึกษากับทางสถานทูต จากนั้นตำรวจญี่ปุ่น ซึ่งคุ้นเคยกับ ตม.ไทย ในสภกาแฟ จึงร่วมกันซ้อนแผนจับกุมได้
นอกจากสืบสวนจับกุมผู้ต้องหาจากสภากาแฟแล้ว ทีมสืบสวน ตม. ยังตามจับผู้ต้องหาหมายแดงของอินเตอร์โพล โดยแบ่งทีมสืบสวนเป็น 10 ทีม อาศัยทักษะความชำนาญของเจ้าหน้าที่-ตรวจสอบตามทวีป
ผู้การพนัญชัย บอกว่า จากการสังเคราะห์หมายแดงของผู้เชี่ยวชาญด้านพฤติกรรมศาสตร์และเครื่องมือทันสมัย พบว่าเดือนมกราคมที่ผ่านมา มีความเป็นไปได้ ที่ผู้ต้องหาหมายแดง ประมาณ 600 คน หลบหนีคดีมาไทย ในจำนวนนี้มีหลายคนที่จับกุมได้แล้ว
ผู้การสืบสวน ตม. ยังจัดกำลังชุดสืบสวนลงพื้นที่ ตรวจสอบชาวต่างชาติ แบบเคาะประตูห้องพักและตามแหล่งชุมชน เพื่อปัดกวาดอาชญากร ไม่ให้มีที่ยืน ใช้ไทยเป็นแหล่งกบดาน หรือฐานกระทำผิด สภากาแฟ จึงไม่ใช่ที่นัดพบแล้วจาก แต่เป็นแหล่งของเบาะแสอาชญากรข้ามชาติ.-สำนักข่าวไทย
