“กรวีร์” นำหลักฐานยื่นศาลขอคืนคุณสมบัติผู้สมัคร ส.ส.

ศาลฎีกา 22 ก.พ.-“กรวีร์ ปริศนานันทกุล” นำใบเสร็จรับเงินและใบสมัครเป็นสมาชิกพรรคภูมิใจไทย ยื่นต่อศาลเพื่อขอคืนสิทธิ์เป็นผู้สมัคร ส.ส. มั่นใจคุณสมบัติครบถ้วน


ผู้สื่อข่าวรายงานจากศาลฎีกา ว่า เวลา  09.00 น. วันนี้ (22 ก.พ.) นายกรวีร์  ปริศนานันทกุล  สมาชิกพรรคภูมิใจไทย เดินทางมายื่นคำร้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งให้วินิจฉัยคุณสมบัติและคืนสิทธิการเป็นผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อพรรคภูมิใจไทย หลังคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ไม่ประกาศรับรองการเป็นผู้สมัคร โดยได้นำเอกสารหลักฐานในการยื่นต่อศาลเพื่อยืนยันสถานะการเป็นสมาชิกพรรคภูมิใจไทย เกินกว่า 90 วัน ตามที่กฎหมายกำหนด รวมทั้งใบเสร็จรับเงิน  ภาพเหตุการณ์วันสมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรค พร้อมย้ำว่าไม่หนักใจ และหวังว่าจะได้คืนสิทธิในการลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้สมัครของพรรคภูมิใจไทยอย่างถูกต้อง

“เหตุที่ กกต.ไม่ประกาศรับรองการสมัคร ส.ส. เนื่องจากไม่มีชื่อปรากฏในระบบฐานข้อมูลพรรคการเมืองใดเลย  แต่ไม่ใช่กรณีอยู่ซ้ำซ้อนในพรรคการเมือง” นายกรวีร์ กล่าว


นายกรวีร์ ยืนยันว่า การเดินหน้าหาเสียงของตน ยังสามารถดำเนินการได้ เนื่องจาก กกต.ยังไม่ได้ตัดสิทธิ์  หรือเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง  โดยคาดว่าวันนี้จะมีความชัดเจนเรื่องการคืนสิทธิ์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จำนวนคดีที่ผู้สมัคร ส.ส.ได้ยื่นขอให้ศาลวินิจฉัยเกี่ยวกับสิทธิสมัคร ส.ส. ตั้งเเต่วันที่ 16-21 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา มีจำนวน  275 เรื่อง ประกอบด้วย วันที่ 16 กุมภาพันธ์ มี 7 เรื่อง , วันที่ 17 กุมภาพันธ์ มี 18 เรื่อง , วันที่ 18 กุมภาพันธ์ มี 137 เรื่อง , วันที่ 19 กุมภาพันธ์ มี 24 เรื่อง , วันที่ 20 กุมภาพันธ์ มี 55 เรื่อง และวันที่ 21 กุมภาพันธ์ มี 34 เรื่อง ในจำนวนผู้ยื่นวินิจฉัยเกี่ยวกับสิทธิการเลือกตั้ง ส.ส.จำนวน 275 เรื่อง เเบ่งเป็นเเบบบัญชีรายชื่อ  31 เรื่อง เเละเเบบแบ่งเขต 244 เรื่อง 

โดยหลังจาก กกต.ประกาศรับรองรายชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. ทั้งแบบบัญชีรายชื่อและแบบแบ่งเขต เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ตามกฎหมายการเลือกตั้ง ส.ส. ให้ผู้ลงสมัครที่ กกต.ไม่ได้ประกาศรับรองรายชื่อสมัครจากการถูกวินิจฉัยขาดคุณสมบัติอย่างหนึ่งอย่างใดนั้น  ให้ยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาภายใน 7 วัน นับแต่วันที่ไม่รับสมัคร หรือวันที่ประกาศรายชื่อผู้สมัคร ซึ่งจะครบกำหนดการยื่นให้ศาลฎีกาวินิจฉัยภายในวันนี้  (22 ก.พ.).-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

จับมือปืน

ล้อมจับมือปืนอันดับ 1 ประวัติร้ายกาจที่สุดในพื้นที่ภาค 9

ตำรวจล้อมจับมือปืนอันดับ 1 มีประวัติร้ายกาจที่สุดในพื้นที่ภาค 9 มีหมายจับติดตัว 9 หมาย ทั้งคดีฆ่า รับจ้างทวงหนี้ ยิงบ้าน และค้ายาเสพติด

สู้งูจงอาง

สาวใจเด็ด! สู้งูจงอางด้วยมือเปล่าจนรอดตาย

สาวใจเด็ด! เข้าไปหาเห็ดเจองูจงอาง ถูกฉกเป็นแผลเหวอะ ตัดสินใจฮึดสู้ด้วยมือเปล่า เตะก้านคองูแล้วกระทืบซ้ำ ก่อนจับกดพื้นลากไปหาหมอพร้อมกัน ล่าสุดอาการดีขึ้นแล้ว

บริจาคอวัยวะ

หนุ่มวัย 26 ปี บริจาคอวัยวะช่วยต่ออายุ 9 ชีวิต

ชื่นชมหนุ่มพนักงานช่วยเหลือคนไข้ รพ.ภูเขียวเฉลิมพระเกียรติ บริจาคอวัยวะ แม้ต้องเสียชีวิตก่อนวัยอันควร อายุเพียง 26 ปี แต่อวัยวะสามารถต่อชีวิตให้กับผู้อื่นได้อีก 9 ชีวิต

ข่าวแนะนำ

เปิดแรงจูงใจไรเดอร์โหดทวงหนี้ ยิงสาวใหญ่ดับ

เมื่อเช้าที่ผ่านมามีเหตุระทึกขวัญ เจ้าหนี้บุกยิงลูกหนี้ใน อ.เมืองนครปฐม จนเสียชีวิต แล้วหนีไปกบดานในห้องเช่าพื้นที่ อ.สามพราน โดยมีตัวประกันถูกขังไว้ภายในห้องด้วย อะไรคือแรงจูงใจในการก่อเหตุครั้งนี้ ติดตามจากรายงาน

เร่งหาสาเหตุไฟไหม้สปา “ดาราเทวี”

เจ้าหน้าที่ยังเร่งหาสาเหตุไฟไหม้เทวาสปา โรงแรมดาราเทวี หลังเจอจุดต้นเพลิง ด้านเจ้าของเผยไม่ได้ทำประกันอัคคีภัย เป็นไปไม่ได้ที่จะเผาเอาเงินประกัน

ตำรวจคุมตัวทำแผนโจรบุกร้านทอง บอกผิดเองขอ 5 บาท

“โจร 5 บาท” ถูกจับหลังบุกร้านทอง ยอมรับตกใจกลัวหลังเจอเจ้าของร้านตวาดใส่ให้วางปืนตอนบุกชิงทอง พร้อมโทษตัวเองไม่บอกให้ชัด หวังทอง 5 บาท แต่ได้เงิน 5 บาท

ลูกพีช

ผบ.ตร. ย้ำภาพชัด “ลูกพีช” ขับปาดหน้ากระบะ แทบไม่ต้องสอบเพิ่ม

ผบ.ตร. ย้ำชัด “ลูกพีช” ขับปาดหน้ากระบะ อ้างเป็นญาติ ย้ำพฤติกรรมไม่เหมาะสม ชี้ภาพชัดเจน แทบไม่ต้องสอบเพิ่ม