กองทัพบก 21 ก.พ.- คสช.โต้ธนาธร บิดเบือนข้อเท็จจริง ยันคสช.ไม่มีใบสั่งตำรวจเร่งรัดคดีไลฟ์สดวิจารณ์พลังดูด
พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) กล่าวถึงกรณีนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ และพวกถูกกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) ดำเนินคดี ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 มาตรา 14 (2) กรณีไลฟ์สดวิจารณ์พลังดูด เมื่อวันที่ 29 มิ.ย.61 ที่ผ่านมา ว่า นายธนาธร ได้มองว่าเจ้าหน้าที่มีการเร่งรัดคดีและเลือกปฏิบัตินั้น ขอเรียนว่าเป็นหน้าที่ของทางตำรวจ คสช.ไม่ได้มีการเร่งรัด และไม่มีเลือกปฏิบัติ ทุกอย่างเป็นไปตามหลักการขั้นตอนปกติทั่วไป ซึ่งพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 ก็เป็นกฎหมายปกติ ไม่ใช่กฎหมายที่มีต้นทางมาจากคสช. เพื่อนำมาบังคับใช้กับบุคคลในลักษณะเฉพาะเจาะจงใด
“อาจมีบางบุคคลพยายามบิดเบือนข้อเท็จจริงโดยให้ข้อมูลออกไปในทำนองว่า เป็นมาตรการของ คสช. กระทำกับบางกลุ่ม บางบุคคล อย่างไม่เป็นธรรม ซึ่งโดยทั่วไปในทุก ๆ คดี กรณีศาลยังไม่ตัดสิน ย่อมถือว่ายังเป็นผู้บริสุทธิ์ และเปิดกว้างให้ตัวผู้ถูกกล่าวหาทุกคนสามารถไปแก้ต่างได้ตามช่องทางและกระบวนการ ซึ่งถือเป็นหลักการตามแนวทางสากล” พ.อ.วินธัย กล่าว
โฆษก คสช. กล่าวว่า ส่วนพฤติกรรมทางคดีของนายธนาธร นั้น เหตุเกิดขึ้นตั้งแต่ 26 มิ.ย.61โดยนายธนาธรฯ และผู้ร่วมรายการทั้งสามคน ได้ร่วมกันกล่าวบิดเบือนว่า มีการดูด ส.ส.เข้าไปพรรคใหม่ ที่มีชื่อคล้ายคลึงกับนโยบายรัฐ มีการใช้คดีเก่า ๆ ของกลุ่ม ส.ส.ต่าง ๆ ที่เข้าร่วม โดยขู่ว่าถ้าไม่เข้าร่วมจะดำเนินคดีต่าง ๆ ที่ดำรงอยู่ ซึ่งเนื้อหาดังกล่าวเหมือนการกล่าวหาว่ามีการนำกระบวนการยุติธรรมของประเทศไทยมาใช้เป็นเครื่องมือทางการเมือง
พ.อ.วินธัย กล่าวว่า รวมถึงที่กล่าวว่าความยุติธรรมเกิดขึ้นเฉพาะกับคนรวยแต่กับคนจนไม่มีความยุติธรรมเหลืออยู่ในสังคม แสดงออกให้เห็นอย่างชัดเจนว่า อำนาจอยู่เหนือกระบวนการยุติธรรม หากกระบวนการยุติธรรมไทยตัดสินอะไรต่าง ๆ ในรอบหลายปีที่ผ่านมาด้วยความยึดมั่นในความยุติธรรม ประเทศไทยคงไม่ต้องเดินมาถึงจุดนี้ ส่วนนี้ก็เหมือนเป็นการหมิ่นในกระบวนการตัดสินของประเทศไทยด้วย เช่นกัน
โฆษก คสช. กล่าวว่า ข้อมูลลักษณะดังกล่าวที่นายธนาธร และ พวกได้ฟันธงออกอากาศผ่านรายการไปนั้นอาจส่งผลต่อภาพลักษณ์ในทางสาธารณะของบางบุคคล บางองค์กร รวมถึงภาพลักษณ์ของประเทศไทยในหลายมิติด้วยกัน โดยเฉพาะด้วยตัวตนของนายธนาธร ที่ขณะนี้อยู่ในสถานะผู้มีบทบาทอยู่ในสังคม ซึ่งคดีนี้ได้เริ่มต้นดำเนินการมาก่อนมีการประกาศวันเลือกตั้ง แต่ความคืบหน้านั้นอาจเป็นที่ความร่วมมือของผู้ถูกกล่าวหาเองด้วย ส่วนที่มีการให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อในทำนองกล่าวหาว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปอท.ว่ามีความพยายามที่จะเร่งรัดปิดคดี ถือว่าเป็นการกลั่นแกล้งกันทางการเมือง ก็ไม่อยากให้ไปกล่าวหาในลักษณะดูหมิ่นเจ้าพนักงานผู้มีหน้าที่เพราะเชื่อว่าที่เจ้าหน้าที่มีความจำเป็นต้องปฏิบัติให้ทุกอย่างเป็นไปตามหลักขั้นตอนวิธีการ และตามบทบาทหน้าที่ในกรอบกฎหมายของการเป็นเจ้าพนักงานของรัฐ.-สำนักข่าวไทย