กรุงเทพ ฯ 20 ก.พ.- จำคุกตลอดชีวิต “โมนา” อดีตผู้ประกวดนางงาม ฆ่าสาวใช้”น้ำ”วัย 16 ปี ก่อนฝังร่างใต้ต้นตาล ในจังหวัดเพชรบุรีโดยไม่รอลงอาญา
ศาลอาญา อ่านคำพิพากษา คดีที่พนักงานอัยการคดีอาญา 8 เป็นโจทก์ฟ้อง น.ส.กฤษณา สุวรรณพิทักษ์ หรือโมนา อดีตผู้เข้าประกวดสาวงาม ,น.ส.ปรารถนา ท้วมทรัพย์ หรือเม้า และนายปราโมทย์ สุวรรณพิทักษ์ ร่วมกันเป็นจำเลยที่1-3 ฐาน ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ซ่อนเร้นทำลายศพ น.ส.จริยา ศรีศักดิ์ หรือน้ำ อายุ 16 ปี ไปฝังอำพรางไว้บริเวณใต้ต้นตาล นอกรั้วบ้าน จ.เพชรบุรี เมื่อปี 2555 หลังหายจากบ้านฮญ๋ษ.มีเงื่อนงำนาน 5 ปี โดยจำเลยที่ 1 ให้การปฏิเสธ ส่วน จำเลยที่ 2 และ 3 ให้การรับสารภาพในชั้นศาล และวันนี้จำเลยทั้งหมด เดินทางมาฟังคำพิพากษา
ศาลพิเคราะห์การนำสืบพยานโจทย์ และจำเลย โดยเฉพาะการเบิกความของพยาน ปากสำคัญ คือ บุตรสาวจำเลยที่ 1 ได้เบิกความเล่าเหตุการณ์ตั้งแต่นางสาวกฤษณา จำเลยที่ 1 ได้ทำร้ายร่างกายน้ำต่อเนื่อง ตั้งแต่วันที่ 12 -13 เมษายน 2555 เริ่มตั้งแต่ด้วยใช้กระป๋องสเปรย์ตีเข้าที่ศรีษะอย่างแรง และใช้พลาสติกแข็งของเครื่องดูดฝุ่น ตีที่ขาหลายครั้ง ไปจนถึงใช้ที่หนีบผมไฟฟ้าที่มีความร้อนจี้ตามร่างกายหลายแห่งจนเกิดแผลพุพองทั่วร่างกาย ทำให้น้ำบาดเจ็บสาหัสนอนซมอยู่ประมาณ 1-2 วัน โดยมีจำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นคนงานในบ้านอีกคนเป็นผู้ดูแล กระทั่งวันที่ 14 เมษายน 2555 พยานพบน้ำนั่งพิงกำแพงเสียชีวิตในห้องครัว โดยไม่ใส่เสื้อผ้า เหตุเกิดที่บ้านพัก ย่านรัชวิภา กรุงเทพฯ จากนั้น จำเลยที่ 1 และ จำเลย ที่2 ช่วยขนศพผู้ตายไปที่บ้าน จ.เพชรบุรี และจำเลยที่ 2 ไปติดต่อเผ่าศพที่วัด ใน อ.แก่งกระจาน แต่วัดไม่เผาให้ เพราะไม่มีเอกสาร จากนั้น จำเลยที่ 1 และ 2 ซื้อผ้าขาว ก่อนขนศพมีจำเลยที่ 3 ข่วยขนศพไปฝั่งที่นอกรั้วบ้านใต้ต้นตาล ที่ จ.เพชรบุรี สอดคล้องกับคำให้การของจำเลยที่ 2 ที่ให้การรับสารภาพในการพิจารณาเล่าเหตุการณ์ชี้พยานหลักฐานแสดงท่าทางลักษณะของจำเลยที่ 1 ที่กระทำต่อน้ำ ได้สอดคล้องลงรอยกันสนิท ทำให้เชื่อได้ว่าจำเลยที่ 1 กระทำผิดตามฟ้อง
ศาลพิพากษาลงโทษจำเลยที่ 1 ฐานฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ซ่อนเร้นทำลายศพ ให้จำคุกตลอดชีวิต พร้อมให้ชดใช้ค่าสินไหม ตามที่แม่ของน้ำเรียกร้องเป็นเงินประมาณ 1 ล้าน 6 หมื่นบาทเศษ พร้อมดอกเบี้ย ส่วนจำเลยที่ 2 และ 3 ที่ช่วยเหลือซ้อนเร้นอำพรางศพ ศาลลงโทษจำคุกคนละ 2 ปี แต่ให้การเป็นประโยชน์ จึงลดให้จำเลยที่ 2 เหลือ 1 ใน 3 จำคุก 1 ปี 4 เดือน ส่วนจำเลยที่ 3 ลดโทษกึ่งนึง เหลือจำคุก 1 ปี โดยไม่รอลงอาญา
ด้านนางจันทิรา ศรีศักดิ์ มารดาน้ำ เดินทางมาฟังคำพิพากษา ในวันนี้ กล่าวขอบคุณศาลที่ให้ความเป็นธรรม ซึ่งตัวเองก็ได้นำภาพถ่ายของลูกสาวติดตัวมาด้วยและบอกให้ดวงวิญญาณของลูกสาวมาฟังคำพิจารณาคดี ซึ่งผู้กระทำผิดก็ได้รับการลงโทษแล้ว ขณะที่ส่วนตัวในฐานะของคนเป็นแม่ยอมรับว่าในใจยังไม่สามารถให้อภัยได้ เนื่องจากผู้กระทำผิดก็ไม่มีความสำนึก แต่ในทางพระพุทธศาสนาก็ขออโหสิกรรมให้กับผู้กระทำผิด เพราะอยากให้ดวงวิญญาณของน้ำไปสู่สุคติ หลังจากนี้ประมาณ 1 เดือนจะไปประกอบพิธีทางศาสนาเพื่ออุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้กับลูกสาว
สำหรับคดีนี้เกิดหลังจากนางจันทิรา ศรีศักดิ์ ชาวจังหวัดเพชรบุรี เข้าร้องทุกข์กับนางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรีเมื่อปี 2560 ว่า นางสาวจริยา ศรีศักดิ์ หรือน้ำ บุตรสาววัย 16 ปี หายสาบสูญไปอย่างไร้ร่องรอยนานกว่า 5 ปี (2555) ก่อนจะพบเป็นศพถูกฆ่าอำพรางฝังดิน ในพื้นที่ ตำบลหนองโสน อำเภอเมือง จังหวัดเพชรบุรี ซึ่งจากการสอบปากคำพยานพบว่าเป็นฝีมือของ นางสาวกฤษณา สุวรรณพิทักษ์ หรือโมนา อายุ 45 ปี นายจ้างสาวใหญ่ อดีตผู้เข้าประกวดนางงาม ที่ผู้เสียชีวิตเคยทำงานอยู่ และต่อมาตำรวจกองปราบปรามได้ติดตามจับกุมตัวนำมาสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าใช้กระป๋องสเปรย์ยาวทุบตีที่ร่างกายและศีรษะ และใช้เครื่องหนีบผม จี้ตามลำตัว จนผู้ตายเสียชีวิตในบ้านพักย่านจตุจักร จากนั้นได้ร่วมกับพวก 3-4 คน นำร่างผู้ตายไปฝังไว้ที่สวนหลังบ้านแม่ของผู้ต้องหาที่จังหวัดเพชรบุรี.-สำนักข่าวไทย