กำแพงเพชร 15 ก.พ. – หน่วยงานรัฐผนึกกำลังแปลงโฉมสถานีบริการน้ำมัน PTT Station ทำตลาดไทยเด็ด นำสินค้าชุมชนวางจำหน่ายภายในปั๊มน้ำมัน พร้อมดึงแบงก์รัฐให้ความรู้ปล่อยสินเชื่อเติมทุนให้กับเอสเอ็มอีและวิสาหกิจชุมชน
นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า พร้อมด้วยผู้ว่าราชการจังหวัดกำแพงเพชร ผู้บริหารบริษัท ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ PTTOR และกรรมการผู้จัดการธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (เอสเอ็มอีแบงก์) ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ร่วมพิธีเปิด “โครงการการปรับเปลี่ยนเพื่อยกระดับผลิตภัณฑ์ชุมชนในสถานีบริการ PTT Station” หรือโครงการไทยเด็ด ณ สถานีบริการน้ำมัน PTT Station โค้งวิไลไทยเสรี จังหวัดกำแพงเพชร เพื่อยกระดับให้ผู้ประกอบการชุมชน เอสเอ็มอี มีขีดความสามารถในการแข่งขัน การสร้างตลาด ปรับเปลี่ยนธุรกิจรองรับโลกยุคปัจจุบัน ตามนโยบายนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ในการขยายช่องทางการตลาดให้แก่ผลิตภัณฑ์ชุมชน สร้างแหล่งกระจายสินค้าให้เข้าถึงผู้บริโภคได้ทุกกลุ่ม รองรับนักท่องเที่ยวเดินทางผ่านไปมาแวะปั๊มน้ำมันได้นำไปเป็นของฝากของกำนัล เชื่อมโยงการท่องเที่ยวทั้งเมืองหลักและเมืองรอง
นางจิราพร ขาวสวัสดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ PTTOR กล่าวว่า ตลาดไทยเด็ด สื่อถึงผลิตภัณฑ์ของดีของเด่นท้องถิ่น นับเป็นความร่วมมือระหว่างพันธมิตร กรมพัฒนาธุรกิจการค้า เอสเอ็มอีแบงก์ และผู้แทนจำหน่ายสถานีบริการน้ำมัน PTT Station ที่ร่วมกันคัดสรรผลิตภัณฑ์แปรรูปจากวิสาหกิจชุมชน นำมาวางจำหน่ายในสถานีบริการน้ำมัน PTT Station หลายพื้นที่ทั่วประเทศ หวังส่งเสริมการพัฒนาระบบการผลิตให้มีมาตรฐานและคุณภาพ เกิดการจ้างงาน สร้างรายได้ คาดว่าจะคัดเลือกผู้แทนจำหน่ายสถานีบริการน้ำมัน PTT Station เข้าร่วมโครงการ 100 แห่ง ในปี 2562 เนื่องจากสถานีบริการน้ำมัน PTT Stationมีมากถึงกว่า 1,700 แห่ง กระจายอยู่ทั่วประเทศ หากผู้เดินทางไปต่างจังหวัดพบเจอปั๊มที่มีตลาดไทยเด็ดจะเป็นการเชื่อมโยงกับสินค้าชุมชนท้องถิ่น
นายมงคล ลีลาธรรม กรรมการผู้จัดการ เอสเอ็มอีแบงก์ กล่าวว่า โครงการตลาดไทยเด็ด มีความสำคัญในการส่งเสริมเศรษฐกิจระดับชุมชนอย่างยิ่ง ซึ่งธนาคารพร้อมร่วมทำหน้าที่สนับสนุนผู้ประกอบการเอสเอ็มอีคนตัวเล็กในชุมชนผ่านยุทธศาสตร์มอบ “3 เติม” ช่วยยกระดับความสามารถ สร้างมาตรฐาน ขยายตลาด ซึ่งจะทำให้เติบโตอย่างเข้มแข็งและยั่งยืน ได้แก่ 1.เติมทักษะ ผ่านกิจกรรมต่าง ๆ เพิ่มขีดความสามารถการประกอบธุรกิจ เพิ่มรายได้ ลดรายจ่าย เช่น อบรมต่าง ๆ โดยเฉพาะด้านขยายออนไลน์ จับคู่ธุรกิจ และที่ปรึกษาธุรกิจ เป็นต้น 2.เติมทุน ด้วยสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ ธนาคารได้รับมอบหมายจากรัฐบาล เช่น สินเชื่อเถ้าแก่ 4.0 ดอกเบี้ยเพียงร้อยละ 0.08 ต่อเดือน หรือร้อยละ 1 ต่อปี คงที่นาน 7 ปี (ตลอดอายุสัญญา) กู้ 1 ล้านบาท ผ่อนเพียง 410 บาท/วัน สินเชื่อเพื่อยกระดับเศรษฐกิจชุมชน เพื่อธุรกิจเกษตร แปรรูปอาหาร ท่องเที่ยวชุมชน ค้าปลีก-ค้าส่ง และอาชีพอิสระ บุคคลธรรมดา ดอกเบี้ยปีที่ 1-3 เพียงร้อยละ 0.42 ต่อเดือน ถ้าเป็นนิติบุคคล เหลือเพียงร้อยละ 0.25 ต่อเดือน เป็นต้น และ 3.เติมคุณภาพชีวิต ช่วยให้ผู้ประกอบการเข้าถึงสิทธิประโยชน์และสวัสดิการภาครัฐ ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิต สร้างความมั่นคงในอาชีพ และลดภาระให้ครอบครัว
นายอภิรมย์ สุขประเสริฐ ผู้จัดการ ธ.ก.ส. เปิดเผยว่า ตลาดไทยเด็ดเพิ่มศักยภาพให้กับเกษตรกร มุ่งส่งเสริมให้ชาวบ้านพัฒนาไปสู่ผู้ประกอบการเกษตร (SMAEs) หรือเอสเอ็มอีเกษตร เกิดหัวขบวนในชุมชน ช่วยพัฒนาห่วงโซ่สินค้าเกษตร ตั้งแต่การผลิต แปรรูป รวบรวมผลผลิต และการตลาด จึงได้นำสินค้าชุมชนออกมาวางจำหน่าย เปิดตลาดให้ผู้เดินทางและนักท่องเที่ยวเมืองรองได้รับรู้ สร้างรายได้เข้าชุมชนมากขึ้น.-สำนักข่าวไทย