ก.พลังงานยังคาดลงนามสัญญา “เอราวัณ-บงกช” ได้ในเดือนนี้

กรุงเทพฯ
12 ก.พ. – ก.พลังงานรอการตรวจร่างสัญญาแหล่ง “เอราวัณ-บงกช” จากสำนักงานอัยการสูงสุด
หากเสร็จเชื่อมั่นจะลงนามได้ตามกรอบเดิม ก.พ.นี้


นางเปรมฤทัย
วินัยแพทย์ อธิบดีกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ เปิดเผยความคืบหน้าการลงนามสัญญาการรับสิทธิ์ดำเนินกิจการระบบแบ่งปันผลผลิต
หรือพีเอสซี ในแปลงปิโตรเลียม “เอราวัณ-บงกช” ว่า ตามกรอบนโยบายของนายศิริ
จิระพงษ์พันธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน จะลงนามในสัญญากับผู้ชนะประมูล คือ
บมจ.ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (ปตท.สผ.) และพันธมิตรภายในเดือนกุมภาพันธ์นี้  อย่างไรก็ตาม ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบสัญญาโดยสำนักอัยการสูงสุด
ซึ่งหากเสร็จคาดว่าจะน่าจะสามารถลงนามทันตามกรอบเดิมได้ ขณะที่การเปิดประมูลแหล่งปิโตรเลียมรอบใหม่ทั้งบกบนหรือในทะเลคงจะต้องรอรัฐบาลใหม่เข้ามาดำเนินการ
ซึ่งก็จะพิจารณาว่าจะเปิดในรอบเดียวกันทั้งหมด หรือแบ่งแยกเป็นรอบบนบกหรือรอบในทะเล

“แม้จะอยู่ในช่วงเตรียมการเลือกตั้ง
แต่การพิจารณาสัญญาก็เดินหน้าตามที่ได้ประมูลไว้แล้ว อย่างไรก็ตาม
ขั้นตอนการตรวจสัญญาต้องรออัยการสูงสุด ซึ่งทางกระทรวงฯ ไม่ได้เร่งรัดอะไร
เพราะต้องรอบคอบ โดยกรอบเดิมนั้นจะลงนามในสัญญาพีเอสซีฉบับแรกของไทยได้ภายในเดือนกุมภาพันธ์นี้”
นางเปรมฤทัย กล่าว


สำหรับข้อตกลงสำคัญ
คือ ผู้รับสัมปทานรายใหม่จะต้องสามารถผลิตปิโตรเลียมทันทีในช่วงเปลี่ยนผ่าน
โดยยังคงรักษากำลังการผลิตก๊าซธรรมชาติในแปลงเอราวัณไว้ที่ 800
ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน หลังหมดสัญญาสัมปทานปี 2565 และแปลงบงกช อยู่ที่ 700 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน
หลังหมดสัญญาสัมปทานปี 2566 ดังนั้น ปตท.สผ.จำเป็นต้องลงทุนแท่นผลิต (แฟลตฟอร์ม) เตรียมพร้อมในการผลิตให้ต่อเนื่อง

นายพงศธร
ทวีสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่  บมจ.ปตท.สผ. เปิดเผยว่า
ปตท.ได้วางแผนผลิตเพื่อเริ่มดำเนินงานตามแผนงานต่าง ๆ  เพื่อสร้างความมั่นคงทางพลังงานให้กับประเทศ
โดยทั้ง 2 แหล่ง จะมีการลงทุนแทนขุดเจาะเพิ่ม การวางแท่นผลิต (แฟลตฟอร์ม) เพิ่มในช่วง
5 ปีแรก (ปี 2566-2570) ในส่วนของแหล่งบงกช ลงทุนประมาณ 400-450 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี
และแหล่งเอราวัณอยู่ที่ 600-650 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี หรือคิดเป็นในส่วนที่
ปตท.สผ.ถือหุ้นจะต้องลงทุน 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี หรือประมาณ 33,000 ล้านบาทต่อปี.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Joe Biden and Kamala Harris on stage

ผู้เชี่ยวชาญชี้สาเหตุที่ “แฮร์ริส” พ่ายแพ้

ผู้เชี่ยวชาญชี้สาเหตุที่นางคอมมาลา แฮร์ริส ตัวแทนพรรคเดโมแครต พ่ายแพ้การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ให้แก่นายโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน

“ทรัมป์” คว้าชัยเด็ดขาด ครองตำแหน่งประธานาธิบดีอีกสมัย

โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครจากพรรครีพับลิกัน คว้าชัยชนะเด็ดขาดในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ เหนือคู่แข่งอย่าง คอมมาลา แฮร์ริส จากพรรคเดโมแครต นับเป็นการกลับมาครองตำแหน่งผู้นำสหรัฐอีกครั้ง หลังต้องออกจากทำเนียบขาวไปเมื่อ 4 ปีก่อน

พบศพไวยาวัจกรวัดดังระยองถูกยิงดับพร้อมหญิงสาวในบ้านพัก

พบศพไวยาวัจกรวัดดัง จ.ระยอง ถูกยิงเสียชีวิตในบ้านพัก พร้อมหญิงสาวหน้าตาดี คาดเสียชีวิตมาแล้ว 3 วัน ตำรวจเร่งหาสาเหตุ

พบเด็กหญิงฝาแฝดวัย 9 ขวบ ดวงตาสีฟ้า

พบเด็กหญิงฝาแฝดชาวนครพนม วัย 9 ขวบ มีดวงตาสีฟ้าสดใส ซึ่งเป็นโรคทางพันธุกรรมที่พบได้ยาก อาศัยอยู่กับแม่เลี้ยงเดี่ยว แม่เผยลูกมีปัญหาทางการได้ยิน ใช้ชีวิตลำบาก ถูกบลูลี่ แต่ไม่ขอเปิดรับบริจาค เพราะเคยถูกมิจฉาชีพแอบอ้าง

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยไทยตอนบนอากาศเย็น-อีสานอุณหภูมิลดลงอีกเล็กน้อย

กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนมีอากาศเย็นในตอนเช้า และอุณหภูมิจะลดลงอีกเล็กน้อยในภาคอีสาน ส่วนภาคเหนือตอนบน ภาคกลางตอนล่าง ภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง

ศึกชิงทำเนียบขาว 2024 : ส่องทิศทางแห่งอำนาจ “รัฐบาลทรัมป์ 2.0”

รายงานพิเศษวันนี้ไปติดตามสิ่งที่ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ให้สัญญาหาเสียงเอาไว้ ที่จะทำให้พอเห็นทิศทางการครองอำนาจของเขา โดยมีหลายอย่างที่จะสร้างความสั่นสะเทือนอย่างมาก

พาชมเรือใบอิตาลีจอดเทียบท่าภูเก็ต

เมื่อ 2 วันก่อน สำนักข่าวไทยเก็บภาพของเรืออเมริโกเวส ปุชชี่ ขณะกำลังจะเข้าจอดเทียบท่าที่จังหวัดภูเก็ตให้ได้ชมไปแล้ว วันนี้คุณเพลินพิศ ชูเสน จะพาไปทำความรู้จักเรือลำนี้ให้มากขึ้นพร้อมกับพาไปเยี่ยมชมภายในตัวเรือ