ลูกสาวอาม่ายันแม่ไม่มีความสัมพันธ์กับฆาตกร

กทม. 12 ก.พ.- ลูกสาวอาม่า ถูกฆ่าหมกห้องพัก ยันแม่ไม่มีความสัมพันธ์กับคนร้าย มั่นใจชายจีนในวงจรปิดคือฆาตกร

น.ส.พรทิพย์  เชื้อสุขศานต์ทอง บุตรสาว น.ส.อารยา ทรัพย์สรรค์ ซึ่งเสียชีวิตภายในคอนโดมิเนียม ซอยพหลโยธิน 52 แยก 16 มาติดตามความคืบหน้าคดีที่ สน.บางเขน รวมทั้งขอเอกสารการเสียชีวิตเพื่อใช้ในการติดต่อขอรับศพที่โรงพยาบาลภูมิพลช่วงบ่ายวันนี้(12 ก.พ.) เพื่อนำไปประกอบพิธีทางศาสนาที่โบสถ์อัครเทวดามีคาแอล ย่านสะพานใหม่

น.ส.พรทิพย์  กล่าวว่า ทางครอบครัวเชื่อว่าเป็นฝีมือชายชาวจีนตามภาพจากกล้องวงจรปิด ซึ่งเป็นคนเดียวกับที่เคยมายืมเงินมารดา 120,000บาท และขโมยบัตร ATM ของมารดาไปกดเงินครั้งละ 50,000 บาท จำนวน 8 ครั้ง รวม 400,000 บาท เมื่อ 2 ปีก่อน แต่ไม่มีการดำเนินคดี พราะกว่าจะทราบเรื่องชาวจีนรายนี้ก็เดินทางกลับประเทศจีนไปแล้วกระทั่งประมาณวันที่ 9 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ได้ข่าวว่าชาวจีนรายนี้เดินทางกลับเข้ามาอีกครั้ง และโทรศัพท์หามารดาอ้างว่าจะชดใช้เงินคืนให้ และพยายามจะหลอกล่อให้มารดาออกไปหาที่ห้องเกิดเหตุหลายครั้ง แต่ลูกๆเห็นว่าดึกแล้วจึงไม่ให้ไปกระทั่งเกิดเหตุเมื่อคืนที่ผ่านมา(11 ก.พ.)และจากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดของคอนโด พบว่าชาวจีนคนนี้เตรียมอุปกรณ์เช่นเชือกมัดใหญ่ จึงเชื่อว่าเตรียมการวางแผนมาเพื่อฆ่าชิงทรัพย์มารดา จึงอยากจะขอให้ตำรวจดำเนินคดีให้ถึงที่สุด 

 น.ส.พรทิพย์  ยืนยันว่า มารดาไม่ได้มีความสัมพันธ์หรือเป็นญาติกับหนุ่มจีนคนดังกล่าว แต่เนื่องจากบรรพบุรุษได้ฝากฝังให้ช่วยเหลือชาวจีนที่เดินทางมาจากซัวเถา ซึ่งเป็นบ้านเกิดของบรรพบุรุษ มารดาจึงมักจะเข้าไปช่วยเหลือชาวจีนที่เดินทางมาท่องเที่ยวและให้ที่พักบ่อยครั้ง

ด้าน พ.ต.อ.อำนาจ อินทรศวร ผู้กำกับการ สน.บางเขน เปิดเผยผลการชันสูตรอย่างไม่เป็นทางการว่า เสียชีวิตจากถูกบีบคอ โดยได้รับบาดเจ็บที่กระดูกอ่อนลำคอและมีรอยพกช้ำบริเวณกล้ามเนื้อลำคอหลายแห่ง นอกจากนี้ยังมีบาดแผลที่คาดว่าเกิดจากการต่อสู้ เช่น แผลที่ง่ามมือขวา ศีรษะบวมโนและมีเลือดออก ซึ่งเกิดจากการกระแทกกับของแข็ง เช่น ขอบเตียง  จากพยานหลักฐานทั้งหมดที่รวบรวมได้ใน น่าเชื่อว่าผู้ก่อเหตุคือชายชาวจีนที่ปรากฏตามภาพจากกล้องวงจรปิด ซึ่งพนักงานสอบสวนกำลังรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขอศาลออกหมายจับ ในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาพร้อมประสานตำรวจตรวจคนเข้าเมืองสกัดกั้นไม่ให้หนีออกนอกประเทศ ส่วนมูลเหตุจูงใจยังให้น้ำหนักไปที่ประสงค์ต่อทรัพย์ แต่ก็เชื่อว่าอาจมีประเด็นอื่นเพิ่มเติม เนื่องจากผู้ก่อเหตุและผู้ตายรู้จักกันดี.-สำนักข่าวไทย