จับหญิงเชียงใหม่โยงระเบิดสมานเมตตาแมนชั่น

เชียงใหม่ 1 ก.ย. – ตำรวจภาค 5 จับหญิงชาวเชียงใหม่คาบ้านพักใน อ.หางดง จ.เชียงใหม่ ผู้ต้องหาตามหมายจับมีวัตถุระเบิด และร่วมกันทำให้เกิดระเบิด เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย นำตัวขึ้นเครื่องบินจากเชียงใหม่ ส่งท้องที่มีนบุรี กรุงเทพฯ


062.1 062.2

ตำรวจภาค 5 จับกุมนางอัมพร ใจก้อน อายุ 56 ปี คาบ้านพักใน ต.หนองควาย อ.หางดง จ.เชียงใหม่ ตามหมายจับ สน.มีนบุรี ออกเมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2557 ข้อหาร่วมกันทำประกอบ ซ่อมแซม สั่งซื้อ หรือมีใช้ หรือนำเข้าวัตถุระเบิด ที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ และร่วมกันทำให้เกิดระเบิด เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย หลังหลบหนีการจับกุมมานานหลายปี เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวขึ้นเครื่องบินสายการบินแอร์เอเชีย เที่ยวบิน FD 3444 ที่ท่าอากาศยานนานาชาติเชียงใหม่ เมื่อเวลา 21.50 น. ไปลงยังสนามบินดอนเมือง และนำตัวผู้ต้องหาไปส่งให้กับตำรวจ สน.มีนบุรี เพื่อดำเนินคดีต่อไป


062.6 062.7

รายงานของตำรวจระบุว่า ผู้ต้องหามีส่วนเกี่ยวข้องกับการเกิดระเบิดที่สมานเมตตาแมนชั่น เมื่อหลายปีก่อน ทำให้มีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 4 ราย และบาดเจ็บนับสิบราย ซึ่งผู้ต้องหายอมรับว่า รู้จักกับนายสมัย วงศ์สุวรรณ ซึ่งเสียชีวิตในที่เกิดเหตุจริง เพราะเป็นชาว อ.หางดง จ.เชียงใหม่ แต่ยืนยันไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุดังกล่าว และให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา

062.4 062.3


ที่ สน.มีนบุรี น.ส.เบญจรัตน์ มีเทียน ทนายความนางอัมพร เปิดเผยว่า คดีนี้ตำรวจเคยคุมตัวนางอัมพรมาสอบปากคำแล้ว เมื่อเดือนเมษายน 2557 หลังเกิดเหตุระเบิด ซึ่งไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหา เพราะไม่พบความผิด และนางอัมพรก็เดินทางมารายงานตัวกับเจ้าหน้าที่ตามการเรียกตัวเป็นประจำอยู่แล้ว แต่ในส่วนหมายจับฉบับนี้ ซึ่งออกเมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2557 นางอัมพรไม่เคยได้รับทราบมาก่อน จนในช่วงบ่ายวานนี้ (31 ส.ค.) มีเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจเข้าควบคุมตัวที่บ้านพักใน จ.เชียงใหม่ ก่อนจะคุมตัวมายัง สน.มีนบุรี ในช่วงกลางดึกที่ผ่านมา

สำหรับการเข้าควบคุมตัวในครั้งนี้ ทนายความตั้งข้อสังเกตว่า หมายจับอนุมัติตั้งแต่ตุลาคม 2557 ทำไมตำรวจไม่แจ้งดีเอสไอให้อายัดตัวนางอัมพร ตามขั้นตอนที่สามารถทำได้อยู่แล้ว. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

New Zealanders march towards Wellington to protest Indigenous treaty bill

ชาวเมารีเต้นฮากาประท้วงร่าง กม.นิวซีแลนด์

เวลลิงตัน 15 พ.ย.- ผู้คนในหลายเมืองทั่วนิวซีแลนด์เข้าร่วมการเดินขบวนมุ่งหน้าไปยังกรุงเวลลิงตัน เพื่อประท้วงร่างกฎหมายลิดรอนสิทธิของชนพื้นเมือง โดยมีการเต้นฮากาที่เป็นวัฒนธรรมของชาวเมารีในระหว่างการประท้วงด้วย รัฐสภานิวซีแลนด์ผ่านความเห็นชอบในเบื้องต้นเมื่อวานนี้ เรื่องการตีความใหม่สนธิสัญญาอายุ 184 ปี ที่มกุฎราชกุมารอังกฤษกับหัวหน้าชาวเมารีมากกว่า 500 คนลงนามในปี พ.ศ.2383 กำหนดเรื่องการปกครองนิวซีแลนด์ร่วมกัน ซึ่งเป็นแนวทางในการออกกฎหมายและนโยบายของประเทศมาจนถึงปัจจุบัน ความเคลื่อนไหวดังกล่าวทำให้เกิดการชุมนุมประท้วงตามเมืองต่าง ๆ ทั่วนิวซีแลนด์ โดยมีการจัดเดินขบวนเป็นเวลา 9 วันมุ่งไปยังกรุงเวลลิงตัน คาดว่าขบวนจะถึงเมืองหลวงในวันที่ 19 พฤศจิกายน ตำรวจแถลงวันนี้ว่า มีคนประมาณ 10,000 คน เข้าร่วมการเดินขบวนในเมืองโรโตรัว ห่างจากกรุงเวลลิงตันไปทางเหนือราว 450 กิโลเมตร ผู้ประท้วงแต่งกายในชุดชนพื้นเมือง มีการเต้นฮากาที่เป็นวัฒนธรรมของชาวเมารี โดยได้รับการต้อนรับจากคนจำนวนมากที่มาโบกธงเมารีและร่วมร้องเพลง.-814.-สำนักข่าวไทย

วัดอรุณฯ เนืองแน่น นักท่องเที่ยวแห่ร่วมงานลอยกระทง

นักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างชาติแน่นวัดอรุณฯ ร่วมงานประเพณีลอยกระทง 2567 “ลอยกระทง วิถีไทย ปลอดภัย ใส่ใจสิ่งแวดล้อม” มีน้องหมูเด้ง Thai Cuteness นำนักท่องเที่ยวแต่งชุดไทยสืบสานคุณค่าวัฒนธรรม นางสาวไทย(ดินสอสี) ชวนรำวงลอยกระทง 6 ภาษา ผลักดันเทศกาลไทยสู่ World Event หมุดหมายสำคัญของนักท่องเที่ยวทั่วโลก

“เจ๊พัช” ขอโทษรัฐมนตรีน้ำ ยืนยันไม่รู้จักส่วนตัว

“กฤษอนงค์” โพสต์ขออภัยรัฐมนตรีน้ำและคุณพ่อ ปมคลิปเสียงแอบอ้าง พร้อมขอน้อมรับผิดไว้แต่เพียงผู้เดียว แจงเป็นการสนทนาแนวทางส่งเสริมอาชีพเท่านั้น

“จิราพร” มอบทนายนำคลิปเข้าแจ้งจับนักร้องเรียนหญิงอ้างชื่อรีดทรัพย์

ทนายความ “รมต.” นำคลิปเข้าแจ้งจับนักร้องเรียนหญิง อ้างชื่อเรียกรับเงินกลุ่ม “ดิไอคอน” ยืนยันไม่เคยรู้จักกัน

ข่าวแนะนำ

หมายจับกฤษอนงค์

ศาลอนุมัติหมายจับ “กฤษอนงค์” 2 ข้อหา-เตรียมขอหมายค้นบ้านพัก

ศาลอนุมัติหมายจับ “กฤษอนงค์” 2 ข้อหา “กรรโชกทรัพย์ และเป็นตัวกลางเรียกรับสินบน” หลังตำรวจนำสำนวนขอศาลอาญาคดีทุจริตฯ ขออนุมัติหมายจับเมื่อช่วงเที่ยงที่ผ่านมา (16 พ.ย.) เตรียมขอหมายค้นบ้านพัก 2 แห่ง ใน กทม. และปทุมธานี

ซูเปอร์มูน

ทั่วโลกแห่ชมซูเปอร์มูนครั้งสุดท้ายของปีนี้

เมื่อคืนที่ผ่านมาผู้คนทั่วโลกมีโอกาสได้ชมดวงจันทร์ที่เรียกว่าซูเปอร์มูนซึ่งเกิดขึ้นเป็นครั้งสุดท้ายของปีนี้