กทม.1 ก.พ.-ฉีดพ่นน้ำลาน ฮ.กทม.2 ต่อเนื่องวันที่ 3 พบสถานการณ์ดีขึ้น พร้อมขอความร่วมมือตึกสูงรัฐ-เอกชนกว่า 154 แห่งติดตั้งสปริงเกอร์ช่วยลดฝุ่นได้เลย กำชับไซต์ก่อสร้าง-รถไฟฟ้า 5 สายชะลอการสร้างหรือฉีดพ่นน้ำทุกชั่วโมง หากไม่ร่วมมือ อาจนำกฏหมายสิ่งเเวดล้อมมาบังคับใช้
นายไทวุฒิ ขันเเก้ว รองผู้อำนวยการสำนักการโยธา กรุงเทพมหานคร ให้สัมภาษณ์ภายหลังตรวจความเรียบร้อยการปฏิบัติการฉีดพ่นน้ำบนตึกสูง ที่ลานเฮลิคอปเตอร์ อาคารธานีนพรัตน์ ชั้น 37 กรุงเทพมหานคร 2 เขตดินแดง เพื่อเเก้ปัญหาฝุ่นละอองเกินค่ามาตรฐาน PM2.5ว่า กทม.ได้ร่วมกับสำนักป้องกันเเละบรรเทาสาธารณภัยติดตั้งเครื่องฉีดพ่นละอองน้ำบริเวณชั้นบนของอาคารกรุงเทพมหานคร 1และ2 โดยดำเนินการฉีดพ่นน้ำมาแล้ว 3 วันในทุกๆชั่วโมงตลอดทั้งวัน ครั้งละ 15 นาที ใช้น้ำประมาณ 1,000-1,500 ลิตรต่อนาที ระยะความไกลที่น้ำพ่นไปถึงคือประมาณ 50-100 เมตร ซึ่งจะฉีดพ่นน้ำต่อเนื่อง โดยจะประเมินสถานการณ์วันต่อวัน ซึ่งวันนี้ถือว่าสถานการณ์ฝุ่นดีกว่า 2 วันที่ผ่านมา
นายไทวุฒิ กล่าวต่อว่า ส่วนมาตรการอื่นๆ ได้ออกหนังสือขอความร่วมมือเจ้าของอาคารตึกสูงทั้งที่เป็นของส่วนราชการเเละเอกชนกว่า 154 แห่ง ติดตั้งเครื่องฉีดพ่นน้ำหรือสปริงเกอร์ เพื่อช่วยบรรเทาสถานการณ์ฝุ่น โดยสามารถทำได้เลยหรือให้เริ่มทำพร้อมกันในวันที่ 3 ก.พ.นี้ มอบให้สำนักงานควบคุมอาคารขอความร่วมมือเจ้าของอาคารเเละผู้ประกอบการ หยุดการก่อสร้างในวันอาทิตย์ที่ 3 ก.พ.นี้เเละให้ฉีดพ่นละอองน้ำบริเวณบนอาคารเเละสถานที่ก่อสร้างตั้งเเต่เวลา 09.00 น.เป็นต้นไป
กวดขันผู้รับจ้างหรือไซต์งานก่อสร้างทุกโครงการให้ฉีดพ่นบริเวณพื้นที่ก่อสร้างต่อเนื่องระหว่างที่มีการก่อสร้างทุกๆชั่วโมง รวมถึงการก่อสร้างรถไฟฟ้า 5 สาย ขอความร่วมมือรฟม. ชะลอการก่อสร้าง โดยให้ยึดมาตรการนี้ไป 1-2 สัปดาห์จนกว่าจะหามาตรการที่ดีเหมาะสมที่สุด ซึ่งเบื้องต้นหลังจากขอความร่วมมือภาคเอกชนเเละผู้รับเหมาก่อสร้างได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี ซึ่งจะใช้มาตรการนี้มากกว่าการจะใช้กฎหมายสิ่งแวดล้อมบังคับหรือลงโทษ .-สำนักข่าวไทย